แมว 9 ชีวิต



 คนโบราณเชื่อว่าแมวมี 9 ชีวิต ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเห็นแมวตกจากที่สูงแล้วไม่ตาย แล้วทำไมแมวตกจากที่สูงแล้วถึงไม่ตาย? ถ้าตอบตามสามัญสำนึกก็คงตอบว่า เพราะแมวสามารถพลิกตัวแล้วเอาขาลงพื้นได้ทุกครั้ง ไม่เหมือนเวลาคนตกจากสูงที่มักจะเอาหัวลงก่อนทุกที แล้วถ้าเราเพิ่มความสูงขึ้นล่ะ? อย่างเช่นปล่อยแมวลงมาจากตึกใบหยกแมวจะยังมีชีวิตรอดรึเปล่า? ความคิดนี้ดูโหดร้ายขึ้นมาทันที แต่นักวิทยาศาตร์เองก็เคยสงสัยเรื่องนี้เช่นเดียวกัน  "แมวตกจากที่สูงแค่ไหนถึงจะตาย?" ในปี 2532 นักวิทยาศาสตร์ชื่อ Jared Diamond ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาเรื่องนี้ในวารสาร Nature โดยใช้ชื่อเรื่องว่า Why cats have nine lives (ทำไมแมวถึงมี 9 ชีวิต)  เป็นผลการศึกษาจากแมว 115 ตัว ซึ่งตกจากตึกความสูงต่างๆ ตั้งแต่ 2 ชั้น จนถึง 32 ชั้น!  พบว่าแมว 104 ตัว (90%) มีชีวิตรอด และได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก หลายคนคงเดาว่าแมวที่ตายนั้น คงเป็นตัวที่ตกมาจากตึกชั้น 31-32 แต่เปล่าเลย แมวที่ตายส่วนใหญ่ตกลงมาจากชั้น 7 ! และที่ได้รับบาดเจ็บค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่ตกลงมาจากชั้น 4-9! ในขณะที่แมวที่ตกมาจากชั้นสูงๆ (20-32) กลับได้รับบาดเจ็บน้อยกว่า  เป็นผลการศึกษาที่ขัดแย้งกับความรู้สึกทั่วไปอย่างมาก  ใครอยากเข้าใจเรื่องนี้ต้องคิดคำนวณเชิงฟิสิกส์กันหน่อย ที่ยกมาเพียงอยากเล่าให้ฟัง

?แมว 9 ชีวิต? เป็นสำนวน พจนานุ กรมฉบับมติชน ระบุ ว่าหมายถึง ผู้ที่ประสบความหายนะ ซ้ำซ้อนหลายครั้งก็ยังกลับมามีฐานะหรือชื่อเสียงได้ดั่งเดิม

สำหรับที่มาของสำนวน มีเล่าไว้หลายตำรา สรุปความได้ว่า แมวเก้าชีวิต เป็นสำนวนฝรั่ง เป็นความเชื่อจากยุโรปที่มาพร้อมกับคำขวัญที่เป็นสัญลักษณ์ หรือ USP (Unique selling point) ของสินค้าหนึ่งในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สินค้านั้นคือถ่านไฟฉายยี่ห้อเอเวอเรดดี้ (ever ready) ตราแมวกระโดดลอดเลข 9 เรียกเป็นภาษาไทยว่า ถ่านไฟฉายตราแมวเก้าชีวิต ซึ่งต่อมาย่อเหลือตราแมวเฉยๆ ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นในตราสินค้าว่า ใช้ทนใช้ได้นานเหมือนแมวซึ่งมีเก้าชีวิต

สำหรับคนไทยแม้ไม่รู้แน่ว่าแมวเก้าชีวิตอย่างไร แต่อาศัยการเป็นสปอนเซอร์รายการวิทยุบ้าง รถเรือฉายหนังกลางแปลงบ้าง ก็ซึมซาบโดยไม่รู้ตัว พลอยนึกไปว่าแมวน่ะทำไงก็ไม่ตาย จนกว่าจะถึงครั้งที่เก้า นานเข้าก็ติดคิดเป็นสำนวนไทย บวกเข้ากับคุณสมบัติพิเศษของแมวที่เข้าข่าย ดาย ฮาร์ด (die hard) ตายยากตายเย็น ดูอย่างการตกจากที่สูง ไม่ว่าท่าไหน จะจบด้วยท่าลงพื้นสวยสดงดงาม คือลงมายืนเป็นตัวแมวเป็นๆ อยู่นั่นเอง ไม่เละล้มหายตายหรือคอย่นเลย ด้วยเมื่อจะถึงพื้นแมวจะพลิกร่างเอาเท้าลงพื้นก่อนเสมอ ลงมายืนย่อเข่า ทำหน้ามึนอยู่แป๊บ แล้วร้องแง้ว เผ่นแผล็วหายไปเหมือนไม่เคยตกเสี่ยงตายมาแต่อย่างใด

ความเชื่อเรื่องแมวว่าตายยากมีมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ ที่สำคัญ แมวเป็นที่ยกย่องบูชาว่าเป็นตัวแทนของเทพเลยทีเดียว ส่วนที่ว่าทำไมถึง 9 ชีวิต ย้อนไปยังชาวอียิปต์ที่อาศัยอยู่ที่เมืองเฮลิโอโปลิส ผู้นับถือสุริยเทพ นาม อาตุม-รา (Atum-Ra) เป็นเทพสูงสุด ท่านเป็นเทพบิดรของเทพและเทพีสำคัญๆ รวมเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ 9 องค์ ที่เรียกรวมกันว่า เอนเนด-Ennead ประกอบด้วย อาตุม, ซู-Shu, เทฟนุต-Tefnut, เกบ-Geb, นัต-Nut, โอสิริส-Osiris, ไอซิส-Isis, เซต-Set และ เนปธิส-Nephthys

ตำนานว่ายาม สุริยเทพอาตุม-รา เสด็จยังยมโลก จะไปในรูปของแมว โดยที่จะรวมชีวิตทั้ง 9 ร่างไว้ในร่างของผู้สร้างร่างเดียว นอกจากนี้ ยังมีบทเพลงสรรเสริญเทพบทหนึ่งอายุ 400 ปีก่อนคริสตกาล ว่า ?O sacred cat! Your mouth is the mouth of the god Atum, the lord of life who has saved you from all taint? หรือแปลได้ว่า ?โอ้ ท่านแมวศักดิ์สิทธิ์! ปากของท่านคือปากของเทพอาตุม เจ้าแห่งชีวิตผู้ซึ่งได้ช่วยท่านให้พ้นจากมลทินทั้งปวง? อีกตำราว่า แมวคือ เทวีบาสต์-Bast ธิดาของสุริยเทพ เธอมีเศียรเป็นแมว เชื่อกันว่าเธอเป็นสัญลักษณ์แห่งหมายเลข 9 ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการกำเนิดใหม่แห่งชีวิต

ความเชื่อเรื่องแมวเก้าชีวิตตอกย้ำที่อังกฤษสมัยกลาง ยุคศาสนจักรเรืองอำนาจ ช่วงเวลามืดบอดทางปัญญา เรื่องเล่าว่า ยามกลางคืนมีแมวดำตัวหนึ่งที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บเพราะเข้าไปขโมยอาหาร มันหลบเข้าไปในบ้านหญิงชราลึกลับ ถึงเวลาเช้าหญิงชราผู้นั้นก็มีอาการบาดเจ็บร่างกายซีกเดียวกับแมวดำ และมักมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น ชาวบ้านเชื่อกันว่าแมวดำคือแม่มดแปลงร่าง ยุคแห่งการไล่ล่าแม่มด จึงเป็นการล่าสังหารแมวดำอย่างมโหฬารด้วย ความเชื่อนี้ลามไปทั่วยุโรป แต่ฆ่าเท่าไรก็ไม่หมด จึงเชื่อกันว่า แมวมีเก้าชีวิต ด้วยอิทธิฤทธิ์แม่มด กระทั่งพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส หลุยส์ที่ 8 ทนเห็นความโหดเขลาเบาปัญญาของผู้คนไม่ไหว ทรงสั่งหยุดการกระทำทารุณโหดร้ายนั้น

นอกจากนี้ ยังมีตำนานเกี่ยวกับแม่มดว่าจะจำแลงแปลงร่างเป็นแมวได้เพียงเก้าครั้ง และจะไม่มีวันทำได้อีกเพราะสิ้นสุดแห่งความอมตะของชีวิตแมวแล้ว ขณะที่ในภาษิตเก่าแก่ของชาวอาหรับและชาวตุรกี พูดถึงชีวิตกำเนิดใหม่ของแมวเหมือนกัน แต่เชื่อว่าพวกมันจะมีชีวิตใหม่ได้เพียงเจ็ดชีวิต


ขอบคุณข้อมูล ข่าวสดออนไลน์



หมายเลขบันทึก: 531712เขียนเมื่อ 30 มีนาคม 2013 21:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 มีนาคม 2013 21:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท