ไชโย..จะมีคนไทยได้โนเบลแล้ว คือ แม้ว ปู โต้ง..สาขาเศรษฐศาสตร์


ไชโย..จะมีคนไทยได้โนเบลแล้ว คือ แม้ว ปู โต้ง..สาขาเศรษฐศาสตร์ 

ที่ว่ากันว่า หลังกู้สองล้านๆ แล้วจะมีหนี้ ๖๐ ปซ. ของรายได้ประชาชาตินั้น ยังปลอดภัยอยู่นั้น ผมได้วิเคราะห์ให้เห็นไปแล้วว่า ไม่ใช่ ที่จริงมันต้องเอา ๔ คูณ จึงเทียบเท่ากับการกู้ ๒๔๐ ปซ. ขืนเดินหน้าทำ ผมรับรองว่าหายนะรออยู่ อาจถึงสิ้นชาติ 

เรื่องตัวคูณ ๔ ที่ผมว่ามานี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ไม่มีในตำราเศรษฐศาสตร์ อยากขอร้องให้นักเศรษฐศาสตร์ศึกษาวิจัยกันให้มาก แล้วเตือนนักการเมืองให้ตระหนักกันให้มาก เพราะลำพังคนกระจอกงอกง่อยอย่างผมพูด เขียน คงไม่มีคนเชื่อนักหรอก แต่มันเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับอนาคตชาติเรา 

ขณะนี้เมกามีหนี้ประมาณ ๑๐๐ ปซ. เขาวิตกมาก กลัวกันจนตัวสั่น ทั้งที่มีนักวิชาการโนเบลเศรษฐศาสตร์เต็มประเทศ กลัวหนักจนต้องมีนโยบาย fiscal cliff ที่เก็บภาษีคนรวยมากขึ้น และลดการใช้จ่ายของรัฐบาล (ซึ่งสส. ทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้าน ต่างยกมือสนันสนุนเป็นส่วนใหญ่) 

... ส่วนของเราวันนี้มีหนี้เทียบเท่ากับ ๔๘x๔ = ๑๙๒ ปซ. เกือบสองเท่าสหรัฐ แต่มีนักวิชาการแบบ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง แล้วแต่ดันทะลึ่ง ไปลดภาษีคนรวย (นิติบุคคล จาก ๓๐ เหลือ ๒๐) แล้วดันทะลึ่งจะกู้เพิ่มอีก ๒.๒ ล้าน เพิ่มเพดานหนี้เป็น ๒๔๐ ปซ. (เทียบเท่า)  ซึ่งเป็นการทำที่ตรงข้ามกับสหรัฐ ที่มีนักวิชาการเศรษฐศาสตร์โนเบลเต็มประเทศ 


ทำตรงข้ามกับนักวิชาการโนเบลแบบนี้... ถ้าชาติไม่ฉิบหาย   ควรเสนอให้นายกิตติรัตน์ ปู และแม้ว  สามคน ได้รับรางวัลโนเบลร่วมกัน สาขาเศรษฐศาสตร์ ไปเลย    


ตัวคูณ ๔ นี้ผมได้อธิบายมาแล้วในบทความก่อนว่า เป็นเพราะเราเก็บภาษีได้น้อยกว่าฝรั่ง ๒ เท่า (ของเขา ๓๐ ปซ. ของเรา ๑๕ ปซ.) อีกทั้งงบลงทุนที่เหลือจ่ายจากงบดำเนินการของเขาก็มากกว่าเรา ๒ เท่า ...ดังนั้นศักพภาพการใช้หนี้ของเราน้อยกว่าเขา ๔ เท่า ...ดังนั้นการเทียบปซ. หนี้ของเราตามมาตรฐานฝรั่งต้องเอา ๔ คูณครับ เป็น ๒๔๐ ครับ ไม่ใช่ ๖๐ 


ไอ้เพดาน ๖๐ ปซ. นั้นฝรั่งเขากำหนดไว้คร่าวๆ โดยมีสมมติฐานว่าประเทศเก็บภาษีได้ประมาณ ๓๐ ปซ และมีสัดส่วนงบลงทุนประมาณ ๔๐ ปซ. ของงบทั้งหมด ส่วนของเรา เก็นได้ ๑๕ ปซ. และมีงบลงทุนเพียง ๒๐ ปซ. เท่านั้น (ตัวเลขงบลงทุนนั้นผมคะเนเอา แต่ผมคะเนอะไรมักไม่ค่อยผิดหรอก รับรอง)


งบดำเนินการนั้นเราลดไม่ได้เพราะเป็นเงินเดือนค่าใช้จ่ายประจำ แต่งบลงทุนนั้นเราชะลอได้ ส่วนหนึ่งก็เอามาใช้หนี้เงินกู้ไงล่ะ

กรีซกู้ประมาณ ๑๔๐ ปซ. ประเทศก็จะล่มแล้ว (ดีว่า อียูช่วยไม่งั้นคงล่มไปแล้ว) แล้วเรา ๒๔๐ จะเหลือหรือ หวังว่าลาวเขมรพม่าคงจะช่วยเรานะ (ช่วยรุมกระทืบซ้ำ)


...คนถางทาง (๓๐ มีนาคม ๒๕๕๖)


หมายเลขบันทึก: 531707เขียนเมื่อ 30 มีนาคม 2013 18:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน 2013 10:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ  บ้านเมืองของพวก (มัน) เรา แท้ๆ  จะมีคนที่มีสมอง และความกล้ามากพอ  ที่จะยับยั้ง หร่อ คานอำนาจได้บ้างหรือไม่  -- ไม่น่าเชื่อ  ว่า ประเทศนี้ จะมีผู้นำ ที่สามารถ จุงเบย ( ภาษาเขมรค่ะ)  เข้าสภา ได้ สองร้อยกว่า เสียง เสนอ มติ -- ไก่ กา  ก็ยกมือ ผ่าน หมด  --  สภาปูจ๋า และ ไก่ กา    -- โชคหลายชั้น ของคนไทย  อ้าว รับกรรม กันถ้วนหน้า นะคะ พี่น้อง  จะมีใส่ หรือ ไม่ใส่เสื้อ  ก็รับไป เท่าๆ กัน   -- 

ตอนต้มยำกุ้งก็เจ๊งกันระนาว

ความจริงผมไม่อยากเสนอความคิดนี้เลยครับ แต่พระเดชพระคุณท่านเจ้าประยุกต์ ได้สอนไว้ว่า คำว่าอุเบกขา
นั้นต้องมีเหตุผลทางสัมมาฐิถิ  สำหรับเรื่องการกู้เงินของรัฐบาลนี้พร้อมสมาชิกทั้งสองสภาที่ยกมือสนับสนุนนั้น   ทุกท่านเคยพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่ครับ ทำไมมีการสัมประทานการสื่อสารดาวเทียมที่ปัจจุบันเทมาเซกได้ซื้อไปแล้วครับ  แต่พอคราวนี้ กลับขอกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท เพื่อทำรถุไฟความเร็วสูงครับ ทำให้เป็นภาระของคนไทยทุกคนที่ต้องเป็นหนี้  วิเคราะห์ได้ว่า ถ้าเป็นธุรกิจของตนเองกลับเร่งให้ใช้การสัมประทาน  แต่พอเป็นเรื่องของบ้านเมืองไฉนเปลี่ยนระบบมากู้เงินละครับ   หากทุกท่านรักประเทศไทยจริง อยากให้ท่านกรุณาทบทวนกันนะครับ  เพราะที่ว่าเมืองไทยนั้นไม่มีการคอรับชั่นนั้น ไม่เป็นความจริงครับ เพียงแต่ว่าปัจจุบันนี้ได้ขยับวงเงินและเปอร์เซ็นต์ของเรื่องนี้เป็น 30% แล้วครับ สงสารเมืองไทยเราจังครับ ผมไม่มีอคติกับใครครับ ไม่ว่าท่านจะสีไหน แดง เหลือง หรือไม่มีสีครับ แต่ผมรักชาติไทยของผมครับ ผมรักเมืองไทยที่มีความสมบูรณ์ในด้านเกษตรกรรม มีผลไม้อุดมสมบูรณ์ มีชายทะเลที่สวยงาม รักวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม ครับ และทุกวันนี้ทุกอย่างกำลังจะเลือนหายไปครับ  แผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์จะกลายเป็นโรงงานที่มีมลพิษ ป่าไม้จะกลายเป็นเถ้าถ่านของคนไทยที่หวังประโยชน์ของตนเองมากกว่าคนไทยส่วนรวม   คนไทยที่เคยเคารพกันด้วยคุณงามความดี กลับเคารพกันด้วยคนที่มีอำนาจที่ได้มาจากการลงทุนครับ   น่าเศร้าใจจริงครับ      

ท่านอ.ดร. ว.. ครับ...เว้าซื่อๆ   เ้ข้าใจง่าย  ทำไมไม่ให้สัมปทานไปเลย ไม่ต้องกู้ สองล้านๆ     ง่ายดี  ชินคอร์ปเอาไปเลย ไม่มีใครมาแข่งแน่    (แต่รับรองว่าชินคอร์ปคงไม่เอาหรอก  อิอิ)  

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท