เรื่องมันมีอยู่ว่า... ตอน จางเหว่ย


....ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ... ใครมันเป็นคนพูดไว้คนแรกวะ....”  สมชาย คิดขณะที่ปรากฎตัวขึ้นในสถานที่ที่ไม่รู้จัก

“ที่ไหนกันละเนี่ย..”  สมชาย คิดพลางหันซ้าย แลขวา แต่ยังนึงไม่ออกว่าทำอะไรผิดพลาดไปขณะร่ายเวทย์หายตัวมาจากห้องฝึกเวทย์

เขามองไปรอบๆ แล้วพบว่าตนเองกำลังอยู่ในพระราชวังโบราณที่ไหนสักแห่งในประเทศจีนแน่นอน  สิงโตหินตัวใหญ่ที่มีลูกหินกลิ้งได้อยู่ในปาก ทำให้สมชายนึกสงสัยว่า ลูกหินเข้าไปอยู่ในปากสิงโตได้ยังไง ช่างแกะสลักคงมีเวทย์อะไรสักอย่างที่เสกให้ลูกหินเข้าไปอยู่ในปากสิงโตหลังจากที่แกะสลักเสร็จ

ห้ามหายใจ ขณะที่กำลังใช้เวทย์หายตัวไปยังที่ต่างๆ”  เสียงของครูฝึกเวทย์ยังดังอยู่ในหัวของสมชาย ทุกครั้งที่ต้องหายตัว ไปโน่น มานี่  ที่จริงแล้วเขาควรจะไปอยู่ที่หอเอนปิซาในอิตาลี เพื่อช่วยลูกนกที่กำลังจะตกจากรังบนยอดของหอเอนนั่น แทนที่จะมานั่งอยูข้างสิงโตหินนี่

“มีคนมา...” สมชายแว่วเสียงผีเท้าที่เบาหวิวกำลังโลดแล่นมา เขาร่ายเวทย์อำพราง แฝงร่างเข้ากับสิงโตแกะสลัก ร่างของเขาค่อยๆ กลืนหายไปกับข้างซ้ายของตัวสิงโตอย่างแนบเนียน  สมชายต้องอ้าปากค้างไว้ เพื่อให้ตรงกับท่าของหัวสิงโต นี่ถ้าครูสอนวทย์มาเห็นการอำพรางตัวของเขา เขาคงสอบตกแน่ เพราะไม่รู้จักเลือกท่าอำพรางตัวที่ง่ายกว่านี้  

เสียงอาวุธกระทบกันอย่างรุนแรงต่อเนื่องดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ คนในเครื่องแบบทหารจีนโบราณกำลังทิ่ม แทง ฟันชายสูงอายุคนเดียวที่ควงกระบี่ต้านหอก ดาบอย่างไม่หยุดยั้ง ใช้เสียงข้างมาก เอ่อ ไม่ใช่สิ ใช้พวกมากเข้ารังแกคนน้อยต่างหาก เป็นสิ่งที่สมชายทนเห็นไม่ได้ อีกอย่างอ้าปากอยู่อย่างนี้ คอแห้งน่าดู สู้ปรากฎตัวออกไปช่วยลุงคนนี้ดีกว่า   

“จาง เหว่ย เจ้าอย่าหมายจากไปโดยง่าย... วันนี้ถ้าไม่ฆ่าเจ้า เราไม่ขอแซ่หวัง”  ทหารจีนอาวุโสคนหนึ่งพูด

วันนี้พวกเราจะสับเจ้าเป็นหมื่นชิ้น”  อีกคนเสริม

มอบกระบี่อี้เทียนคืนมา แล้วเราจะให้เจ้าตายอย่างไม่ทรมาน”  ลุงทหารอีกคนพูดอย่างมีน้ำใจ

กระบี่อี้เทียนเป็นของเราแต่ดังเดิม พวกเจ้าใช้กำลังทหารมาแย่งชิงไป วันนี้เรามาทวงคืน หากเราเป็นขโมย พวกเจ้าก็เป็นโจรเช่นกัน”  ลุงแซ่จางตะโกนตอบ ขณะร่ายกระบี่ปกป้องตนเอง

สมชายกำลังจะร่ายเวทย์ปรากฎตัว ขณะที่ทั้งสองฝ่ายโต้ตอบกัน

“เอ... หรือว่าตาลุงคนนี้เป็นขโมยนะ เราก็ไม่ควรช่วย” เขาคิด

“แต่เขากำลังถูกรุมอยู่นะ แล้วอีกอย่าง ย่าของย่าทวดเคยบอกว่าให้เอื้อเฟื้อแก่เด็ก สตรี และคนชรา ลุงแกก็อยู่ในข่ายที่ควรช่วย”

ขณะที่ร่างของคนแซ่จางกำลังล้มลงข้างๆ สิงโตหิน จางเหว่ยก็พบว่ามีชายหนุ่มโผล่ออกมาจากสิงโตตัวนั้น เข้ามาประคองเขาไว้

“นั่งพักก่อนนะลุง”  สมชายจัดให้ลุงแซ่จางนั่งพิงสิงโตหิน พลางวาดขาไปกวาดหลายๆ ขาของพวกทหารที่วิ่งเข้ามา สอกกลับที่แทงสวนออกไปที่ทหารคนหนึ่ง ทำให้มันทรุดลงแทบเท้าเขา ขณะที่ปลายเท้าเขาก็เขี่ยดาบเล่มหนึ่งให้ลอยเข้ามาอยู่ในมือได้อย่างหมดจด เขาเข้าใจแล้วว่าทำไปครูฝึกต่อสู้ถึงได้โหดกับนักเรียนอย่างเขา เพราะเมื่อถึงเวลาที่ต้องฟาดฟันกัน ไม่มีใครอ่อนข้อให้ศัตรูอย่างที่เขาเผชิญอยู่ในขณะนี้

ดาบไวของสมชายฟาดฟันอย่างรวดเร็ว ซ้าย ขวา บน ล่าง อย่างต่อเนื่อง ข้อมือของทหารทุกคนมีจุดที่ถูกทิ่มด้วยดาบไว้ แม้ว่าไม่ใช่บาดแผลใหญ่แต่มันก็มากพอที่จะทำให้อาวุธของทหารเหล่านั้นหล่นลงโดยพร้อมเพรียงกัน

“ดาบที่ไวนัก..”  ทหารแซ่หวัง พูด

“ได้วันนี้ ถือว่าเราเผลิญศัตรูเข้มแข็ง  เจ้าแซ่อะไร”  มันถามต่อ

สมชาย ยืนก้มหน้า ปลายดายชี้เฉียงๆ ไปทางซ้าย พร้อมกับการสู้ในยกต่อไป พลางคิด “เออว่ะ เราแซ่อะไรวะ ไม่มีนี่หว่า แต่จะบอกพวกมันว่าไม่ดีแซ่ เดี๋ยวน้อยหน้าแย่ “

“เราแซ่เตีย...”  สมชาย ไม่รู้ว่าไม่เอาแซ่เตียมาจากไหน พอปากขยับคำว่าแซ่เตียก็หลุดออกไป

“อืม... เจ้าเป็นอะไรกับ เตียซำฮง”  มันถามต่อ

“เอ่อ...เราเป็นหลาน”  สมชายตอบสวนไปทันที เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายคิดว่าเขาเป็นคนไม่มีญาติ

“ดี... ดี... นับว่าวันนี้เราพ่าย วันหน้าค่อยพบกันใหม่”  มันประสานมือ พลางกระโดดลอดลิ่วไปบนยอดหลังคา พร้อมกับพวกทหารที่เหลืออย่างรวดเร็ว

“มาเร็ว ไปเร็วดี”  สมชาย พึมพำกับตัวเอง

“พ่อหนุ่ม.. เราผู้เฒ่าซาบซึ้งในความมีคุณธรรมของเจ้า...โปรดรับการคาราวะ”  คนแซ่จาง พูดด้วยเสียงแผ่วเบา ก่อนประสานมือคาราวะ

“...ไม่ต้องก็ได้ครับ”  สมชายรีบเข้าไปประคอง

“เจ้าแต่งตัวแปลก พูดจาก็แปลก ไม่ใช่คนที่นี่แน่นอน”  ลุงจาง เริ่มหายใจติดๆขัดๆ ขณะพูด

“ลุงไม่ต้องพูดก็ได้ ผมจะพาไปหาหมอก่อน”

“ไม่ทันแล้วละ ก่อนลุงจะไปลุงฝากอะไรอย่างนึงได้มั๊ย”

“...”  สมชายไม่ได้ตอบ แต่พยักหน้า

“ช่วยเก็บกระบี่อี้เทียนไว้ด้วย จะมีญาติของข้ามารับไปเอง...”

นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่คนแซ่จางพูดกับเขา อะไรไม่รู้ทำให้น้ำตาขงสมชายเอ่อออกมาอย่างไม่รู้ตัว สีแดงที่ข้อมือขวาเริ่มปรากฏชัดขึ้นเป็นสัญญาณว่า เวลาของการทดสอบในห้องฝึกใกล้หมดแล้ว  ชายหนุ่มไม่มีเวลาคิดมากนัก เขาอุ้มร่างของลุงจากเหว่ยไปฝังไว้ที่ใต้ต้นไม้  แล้วรีบร่ายเวทย์หายตัวเพื่อย้อนกลับไปที่ห้องฝึกในค่าย เวทย์อำพรางช่วยให้กระบี่อี้เทียนเป็นส่วนหนึ่งของขาขวาได้อย่างแนบเนียน

แสงสีรุ้งวนไปมารอบตัว ทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าเขาได้กลับมาที่ห้องฝึกอีกครั้ง...

“คะแนนเต็มสิบสำหรับ สิงห์โต เก่งมากที่ช่วยแมวน้ำให้พ้นจากคราบน้ำมันได้ทั้งฝูง”  

“ไม่มีคะแนนสำหรับสมชาย ลูกนกที่หอเอนปิซาบอกว่าไม่เห็นหัวเจ้าเลย ... เดี๋ยวเราต้องคุยกันยาวว่าเจ้าหายไปไหนมา”

“ให้อีกสิบคะแนนพิเศษสำหรับสิงห์โตที่แวะไปช่วยลูกนกเหล่านั้นแทนคนบางคน”  ครูฝึกอิน พูดพลางมองสมชายด้วยหางตา

สมชายก้มหน้า อยากจะบอกกับทุกคนว่าวันนี้เขาได้ช่วยลุงจาง แต่เขาก็ไม่มีหลักฐานไปยืนยัน กระบี่พูดไม่ได้ ลุงจางก็ไปซะแล้ว เขารู้สึกอายเพื่อนๆ ในค่ายมาก แต่บางส่วนของจิตใต้สำนึกกลับบอกเขาว่าช่วยคนไว้ทั้งคนจะไม่ภูมิใจในฝีมือตนเองบ้างเลยรึ สำเนียงของจิตติสำนึกคล้ายๆ เสียงของย่าของย่าทวดที่เคยพูดกับเขาอยู่เสมอว่า...

“ทำดีได้ดีนะลูก ... แม้ไม่มีใครรู้ว่าดี แต่เรารู้นะลูก”

“ต้องเอื้อเฟื้อแก่เด็ก สตรี และคนชรานะลูก ช่วยเขาอย่าหวังสิ่งตอบแทน”

พอสมชายถามว่าย่าของย่าทวดไปเอาคำพูดเหล่านี้มาจากไหน ย่าของย่าทวดก็ตอบว่า

“ทำดีได้ดีน่ะ คุณแม่ของย่าของย่าทวดสอนมา ....”

“ส่วนอันที่สองเนี่ย ดูเหมือนจะเห็นบนซากรถเมล์เก่าๆ น่ะลูก...” 

สมชายยิ้มเล็กๆ กับตนเอง พลางลูบต้นขาขวาให้มั่นใจว่ากระบี่อี้เทียนยังอยู่ เพราะเขาจะต้องรักษามันไว้อย่างดีให้สมกับที่ลุงจางไว้ใจ เพื่อรอวันที่จะส่งมันคืนให้กับเจ้าของที่เป็นทายาทของลุง....

 

หมายเหตุ

1. หอเอนเมืองปิซา ตั้งอยู่ที่เมืองปิซา ในจัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (Piazza DelDuomoประเทศอิตาลี เป็นหอระฆังของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนsสีขาว สูง 183.3 ฟุต (55.86 เมตร) น้ำหนักรวม 14,500 ตันโดยประมาณ มีบันได 293 ขั้น เอียง 3.97 องศา ยอดของหอห่างจากแนวตั้งฉาก 3.9 เมตร กาลิเลโอ กาลิเลอิ เคยใช้หอนี้ทดลองเกี่ยวกับเรื่อง แรงโน้มถ่วง ในตอนที่เขาเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยปิซา โดยใช้ลูกบอล 2 ลูกที่น้ำหนักไม่เท่ากันทิ้งลงมา เพื่อพิสูจน์ว่า ลูกบอล 2 ลูกจะตกถึงพื้นพร้อมกัน ซึ่งก็เป็นไปตามที่กาลิเลโอคาดไว้

2. อี้เทียน (Sword of Trust) เป็นกระบี่ที่ว่ากันว่ามีความคมมากเป็นพิเศษอีกทั้งยังมีความเชื่อว่าจะปกป้องผู้ที่ถือกระบี่นี้ให้รอดพ้นจากภัยอันตราย เป็นอาวุธประจำกายโจโฉ โจโฉพกกระบี่นี้ติดตัวไปตลอดเวลาและถือว่าเป็นกระบี่เอกของโจโฉอีกด้วย...

หมายเลขบันทึก: 531571เขียนเมื่อ 28 มีนาคม 2013 23:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 มีนาคม 2013 21:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท