การตลาดของพระอัสสชิ...Buddhism.com



เคยได้ยิน “คาถาพระอัสสชิ”   ไหม  ที่กล่าวสั้นๆทำนองว่า “ศาสดาของเราทรงสอนว่าทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับทุกสิ่งก็ดับ”  

ต้องยกว่า...ท่านพุทธทาสภิกขุท่านเป็นผู้นำบริบทนี้มา reinvent ให้เป็นหัวใจศาสนาไปแล้วอีกโสดหนึ่ง  (คนอะไร หลากหลายคิดได้ดีจริงๆ )    

ผมต่อยอดว่า...ประโยคสั้นๆ เพียงเท่านี้ได้นำพาสองมานพน้อย คือ โมคัลลานะ และ สารีบุตร ให้เข้ารีต มาเป็นพุทธ จนกลายมาเป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายขวาของบรมศาสดา 

ส่วนพระอัสสชิ หลังจากทำหน้าที่ introduce สองผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ก็หายไปจากหน้าจอเลย   ทั้งที่เป็น hard core ปัญจวัคคีย์ผู้เริ่มก่อตั้ง buddhism.com มาด้วยกันแท้ๆ  

อย่าว่าแต่พระอัสสชิ  น้องสุดท้ายแห่งปัญจวัคคีย์เลย แม้ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัธทิยะ มหามานะ ก็หายสาบสูญ ไปตั้งแต่การปฐมเทศนาที่ป่าอิสิปัตนมฤคทายวัน แล้ว (โหย..ป่าอะไรชื่อยาวดีจริง แล้วทำไมยังอุตส่าห์จำได้เนี่ย)  

ทั้งที่ โกนฑัญญะ นั้น คืออรหันต์องค์แรกของโลก แล้วทำไมไม่มีบทบาทอะไรเลย  

ยังดีนะที่มีอัสสชิมากู้หน้าปัญจวัคคีย์ไว้ได้บ้าง

...คนถางทาง (๒๕ มีนาคม ๒๕๕๖) 

ปล. อาจารย์เก่าของโมคฯ และ สาฯ นั้นยิ่งแสบกว่า เพราะพลันที่ทั้งสองไปกราบลา พร้อมชวน อจ. ให้ไปเป็นศิษย์สมณโคดมด้วยกันนั้น ท่านกล่าววลีเด็ดที่ยังเป็นจริงในสังคมโลกวันนี้.........ว่า.....เธอทั้งสองเป็นผู้ฉลาด มีปัญญามาก เธอทั้งสองจงไปเป็นศิษย์ท่านสมณโคดมเถิด  ส่วนเราขอเป็นเพียงเจ้าศาสดาของคนโง่ ซึ่งมีจำนวนมากกว่าคนฉลาดมากนัก  เราก็จักได้ลาภสักการะมากว่าสมณโคดมมากนัก  


หมายเลขบันทึก: 531337เขียนเมื่อ 25 มีนาคม 2013 21:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 มีนาคม 2013 21:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท