ครูอ้อยไม่ใช่คนเก่ง ไม่ใช่คนฉลาดหลักแหลม แต่ครูอ้อยเป็นคนขยัน ตามที่มีคนชื่นชมมาเสมอ และจะมีคนมาเพิ่มเติมความคิดเห็นว่า คนเก่งมักจะแพ้คนขยัน
เคยมองเพื่อนๆเขาเรียนหนังสือ เขาไม่เคยนำกลับมาอ่านที่บ้านเลย แต่เขาเรียนได้ดี เพราะอะไร ครูอ้อยเฝ้าสังเกตการเรียนของเขาก็คือ ตั้งใจและมีสมาธิอย่างสูง ประกอบกับตั้งคำถามเป็นประจำ
หลายๆคนเรียนด้วยการจด จดคำสำคัญไว้ และพยายามอธิบายพร้อมยกตัวอย่างของคำสำคัญนี้ เวลาครูถามเขาก็จะสามารถตอบได้อย่างดีพร้อมมีตัวอย่างประกอบ
บางคนกลับมาบ้านทบทวนสิ่งที่ได้เรียนมาให้เข้าใจ และเตรียมพร้อมอ่านเรื่องใหม่เพื่อที่ครูสอนจะได้เข้าใจยิ่งขึ้น บางคนฝึกทักษะเป็นประจำ เพราะการเรียนรู้นั้นไม่ใช่รู้เพียงอย่างเดียว รู้แล้วต้องสามารถทำอะไรได้ หลายอย่างเช่น พูด ฟัง อ่าน เขียน อธิบาย ทดลอง โต้วาที สัมภาษณ์ ฯลฯ ได้
ดังนั้นการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่กล่าวมามีความจริง บางคนมองสิ่งของต่างๆแล้วผ่านเลยไป ไม่ได้ไม่มีความสงสัย หรือติดใจอยากรู้อะไรเพิ่มเติม เพราะไม่ได้ผ่านการฝึกให้เป็นคนสังเกต ไม่ต้องการจะรู้อะไร หมายถึงเ้ขาจะพอใจที่จะรู้เท่าเดิมแบบเดิมๆ ไม่รับการเปลี่ยนแปลงใดใด นั่นคือเขาไม่มีความใฝ่รู้ใฝ่เรียน เรื่องแบบนี้ต้องได้รับการฝึกฝนมาตั้งแต่ยังเด็ก ที่จะกล้าคิด กล้าพูด หรือกล้าแสดงออก
โลกปัจจุบันนี้มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีมากมาย รอบๆตัวเราที่มีความจำเป็นและไม่มีความจำเป็นมากมายผ่านเข้ามาในชีวิตของเราท่าน ปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องเรียนรู้ การเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือการถามและปฏิบัติ
คุณพ่อคุณแม่ที่มีบุตรหลานยังเล็ก อย่าได้รำคาญที่เด็กๆถามบ่อยๆ หรือดื้อที่จะทำอะไร บางสิ่งบางอย่างเราต้องปล่อยเขาให้เรียนรู้ด้วยตนเอง และเราก็สอดส่องดูแลเรื่องความปลอดภัย
ที่สำคัญที่สุดที่กล่าวในบันทึกนี้คือ การเรียนรู้อะไรในโลกนี้ก็ไม่สำคัญเท่า....การเรียนรู้เรื่องตัวเองด้วยตนเอง
คำถามของเด็กๆ สิ่งที่เด็กถาม ก็เป็นความรู้ให้เราได้ทบทวนเช่นกันนะะค