วันนี้ ยังเป็นหวัดอยู่ ไม่มีเสียง แต่ก็เบื่อที่จะนอน เลยลุกมาเขียนบทความเพื่อสาละวินโพสต์ที่ยังค้างอยู่ในคอม กำลังเขียนเรื่องของครอบครัวอภิสกุลไพศาล เขียนอยู่หลายรอบก็ยังไม่ถูกใจ เวลาที่อ่านเอกสารเกี่ยวกับพวกเขาแล้ว ก็รันทดใจ พวกเขาเป็นชาวเขาเผ่าลีซูซึ่งต้นตระกูลเกิดในประเทศไทยที่บ้านหัวแม่คำเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๗ กล่าวคือ ก่อนการจัดทำทะเบียนราษฎรทั่วไป
บันทึกนี้ จะไม่เล่ารายละเอียด ถ้าท่านทั้งหลายอยากทราบเรื่องนี้ ก็คลิกอ่านต่อ ตรงนี้เลย
ดิฉันเขียนบันทึกนี้ เพื่อบ่นค่ะ กำลังท้อค่ะ หมดแรง เมื่อปลายเดือน เจอคนจากกรมการปกครอง ถามเขาว่า เรื่องนี้ ทำไมไม่เสร็จเสียที เขาว่า เป็นเรื่องที่อำเภอทำได้เลย วันนี้ ฟังเอนจีโอที่วานไปถามอำเภอ อำเภอบอกว่า รอกรม ถามเอนจีโอว่า อัดเทปคำตอบอำเภอมาไหม เอนจีโอบอกว่า กลัวอำเภอโกรธ
คำตอบก็คือ คน ๑๒ คน แห่งครอบครัวอภิสกุลไพศาลซึ่งไร้สัญชาติทั้งที่กฎหมายและนโยบายรับรองว่ามีสัญชาติไทยมาแล้ว ๑๐ กว่าปี ก็จะไร้สัญชาติต่อไป.........
พวกเขาคือ ลูกปิงปองที่ถูกตีไปมา
ท้อค่ะ......
ปัญหาไร้สัญชาติ ...ไม่มีใครสนใจที่จะแก้ไขอย่างจริงจัง ที่แม่ฮ่องสอน คนกลุ่มนี้ถูกผลักออกเป็นคนชายขอบตลอดเวลา(เป็นอยู่แล้ว และคนชายขอบเองก็ถูกแบ่งออกเป็นชั้นๆ)
เป็นแหล่งเรียกรับผลประโยชน์ สิทธิที่พึงมีพึงได้ของความเป็นมนุษย์ถูกลิดรอนไป
ไม่มีทางออก ไม่มีทางแก้ไข...(ที่เหมาะสม)
ผู้มีหน้าที่ก็ทำหน้าที่ไป แบบขอไปที ไม่ตาม ไม่จริงใจ..
มาบ่นให้อาจารย์ฟังเช่นกัน...
ขอให้อาจารย์จะหายหวัดเร็วๆครับ
เวลาที่คนเราไม่สบาย มักจะเกิดอาการท้อขึ้นมาได้ง่ายๆๆคะ อย่าเพิ่งท้อคะอาจารย์ (สู้ๆๆ )
บางครั้งการแก้ปัญหามันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการแก้ไขของใครคนใดคนหนึ่งใช่ไหมคะ
ถ้าหากเราสู้อยู่ฝ่ายเดียว นอกจากจะยังไม่สำเร็จ ก็คงต้องเหนื่อยด้วย
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คงจะเป็น "กำลังใจที่ต่อสู้" กับมัน บวกกับช่วยกันหลายๆๆฝ่าย โดยเฉพาะเจ้าของปัญหา
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนมาก คิดว่าน่าจะจากเจ้าหน้าที่มากกว่ามั้งคะ สำหรับกรณีไร้สัญชาติ
เราจะทำอย่างไรดี ถึงจะให้เจ้าหน้าที่หันมาใส่ใจกับปัยหาอย่างจริงๆๆจัง
และเราจะทำอย่างไรดี ให้เจ้าของปัญหารู้ว่าควรเริ่มแก้ปัญหาของตัวเอง
แก้แล้ว แก้ไม่ได้ผล ก็ไม่ได้แปลว่า ไม่แก้ นะคะ