“ข้อวินิจฉัยสำคัญเรื่องการก่อการร้ายโลกของสำนักงานประเมินข่าวกรองแห่งชาติ : ความพัวพันกับสหรัฐฯ” ซึ่งจัดทำตั้งแต่เดือน เม.ย.ปีนี้ โดยมีสาระสำคัญว่า สงครามอิรักส่งผลให้กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงขยายตัว ความสำเร็จของพวกเขาในอิรักเป็นแรงบันดาลใจให้แนวร่วมในประเทศอื่นๆทำตาม
บุชแพร่รายงานลับโต้ข้อครหาพิษสงครามอิรัก |
เมื่อ 26 ก.ย. รัฐบาลประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช แห่งสหรัฐฯ ได้เผยแพร่ บางส่วนของรายงานข่าวกรองลับว่าด้วยการก่อการร้ายทั่วโลกของสำนักงานประเมินข่าวกรองแห่งชาติ (เอ็นไออี) ภายใต้การนำของนายจอห์น เนโกรปอนเต หลังรายงานดังกล่าวรั่ว ถูกสื่อมวลชนนำมาเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่า สงครามอิรักส่งผลให้การก่อการร้ายทั่วโลกรุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามกับคำกล่าวอ้างของรัฐบาลบุชที่ว่า สงครามอิรักทำให้โลกปลอดภัยจากการก่อการร้ายมากขึ้น
รายงานลับที่ถูกเผยแพร่ล่าสุดนี้มีความยาว 3 หน้าครึ่ง ตัดตอนมาจากฉบับเต็ม 30 หน้าของรายงานลับเรื่อง “ข้อวินิจฉัยสำคัญเรื่องการก่อการร้ายโลกของสำนักงานประเมินข่าวกรองแห่งชาติ : ความพัวพันกับสหรัฐฯ” ซึ่งจัดทำตั้งแต่เดือน เม.ย.ปีนี้ โดยมีสาระสำคัญว่า สงครามอิรักส่งผลให้กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงขยายตัว ความสำเร็จของพวกเขาในอิรักเป็นแรงบันดาลใจให้แนวร่วมในประเทศอื่นๆทำตาม ความพยายามของพันธมิตรสหรัฐฯแม้จะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อเหล่าผู้นำเครือข่าย “อัล เคดา” แต่อัล เคดา และแนวร่วม รวมทั้งกลุ่มก่อการร้ายอิสระ แต่ พวกนี้ยิ่งขยายวงกว้างและปรับตัวเอง ยากต่อการกวาดล้างยิ่งขึ้น ถ้าแนวโน้มเป็นเช่นนี้ต่อไป ภัยคุกคามต่อผลประโยชน์ ของสหรัฐฯทั้งในและนอกประเทศจะยิ่งเลวร้าย
รายงานระบุด้วยว่า สงครามอิรักกลายเป็น “หัวข้อถกเถียงและจุดสนใจ” ในกลุ่มหัวรุนแรงทั่วโลก บ่มเพาะให้เกิดความแค้นเคืองสหรัฐฯที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโลกอิสลาม ทำให้กลุ่มก่อการร้ายระดมผู้สนับสนุนได้มากขึ้น รายงานยังระบุปัจจัย 4 ข้อที่ทำให้กลุ่มก่อการร้ายขยายตัว และชี้ว่า ความเสี่ยงที่ภูมิภาคต่างๆจะถูกผู้ก่อการร้ายโจมตีมีมากขึ้น โดยเฉพาะในชาติยุโรป ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ ซึ่งรายงานโดยรวมค่อนข้างเป็นแง่ร้าย แต่ระบุว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของสหรัฐฯและพันธมิตรในอิรัก
บุชสั่งเผยแพร่รายงานลับเพื่อหวังหักล้างข้อกล่าวหา ความขัดแย้งเรื่องการตีความรายงานลับ ซึ่งรวบรวมโดยหน่วยข่าวกรองทั้ง 16 หน่วยของสหรัฐฯ ส่งผลให้รัฐบาลบุชและพรรคเดโมแครตฝ่ายค้านโจมตีกันอย่างดุเดือด กล่าวหากันว่านำเรื่องความมั่นคงของชาติมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งพรรคเดโมแครตพยายามแย่งชิงเสียงข้างมากในสภาคองเกรสจากพรรครีพับลิกัน
วันเดียวกัน สภาผู้แทนฯสหรัฐฯอนุมัติงบประมาณให้กระทรวงกลาโหมอีก 70,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ใน สงครามอิรักและอัฟกานิสถาน คาดว่าวุฒิสภาจะผ่านงบฯนี้เช่นกัน ด้านนางฮิลลารี คลินตัน วุฒิสมาชิกรัฐนิวยอร์ก ออกโรงปกป้องอดีตประธานาธิบดี บิลล์ คลินตัน ผู้สามี ซึ่งแฉว่ารัฐบาลของตนได้ส่งมอบแผนต่อสู้การก่อการร้ายอย่างละเอียดให้รัฐบาลบุช แต่ ดร.คอนโดลีซซา ไรซ์ รมว.ต่างประเทศ อ้างว่าไม่จริง
|
|
ตราบใดที่ทุกๆฝ่ายไม่ได้ปฏิบัติตามกรอบของกฏหมายและไม่ยึดมั่นต่อจารีตแล้วความสงบสุขก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เราก็จะเห็นความวุ่นวาย เข่นฆ่า การก่อการร้ายที่ทวีความรุนแรงกันอยู่อย่างนี้