จะ Install PHP บน Windows 7


จะ Install PHP บน Windows 7 ยังไงหวา ??

Posted: June 6, 2010 in DeveloperPHP
Tags: Install PHP บน Windows 7

0

ได้ยินคำถามเนี่ยมาจากคนที่นั่งข้างๆ ที่office ว่า “จะ  ลง PHP บน Windows 7 ยังไงวะ.?”  ตอบให้เลยละกัน

ความจริงแล้ว การใช้งาน PHP ก็มีวิธีที่ง่ายๆ อยู่นะ คือไป โหลด พวก All-in-One packages ( XAMPP ,WampServer ,AppServ ) มาใช้งานเลยนะครับ ไม่กี่คลิกจบ เสร็จ หมด นอนตีพุงสะบายใจได้เลย แต่บางคนคงไม่สะใจช่ายไหม ( แบบว่าอยากเทพอะ ) อยากลงเองตั้งแต่ขั้นตอนแรกเลยอะ  งั้นเรามาเริ่ม ลง PHP เลยละกันเนอะ(ส่วนการลง Apache กับ MySQL ฝากไว้ก่อนละกัน)

ขั้นที่ 1: download files กันก่อน
ไป download php ได้ที่ http://windows.php.net/download/ ( เพื่อความเทพ เอาเป็น .ZIP เลยนะ ) อ๊ะ ก่อนจะ เลือก download ช่วยดู guide ของ php  นิดนึงนะ Which version do I choose? อ่าน guide แล้วก็เลือกกันตามสะบายนะครับ ยกตัวอย่าง เช่น

1. แยกตามการ Compile ด้วย Visual Basic ในแต่ละเวอร์ชั่น โดยมี VC6 ที่ไว้ใช้สำหรับ Apache ทั่วไป (Apache.org web server) กับ VC9 ที่ไว้ใช้สำหรับ Apache Lounge binaries หรือ IIS
2. แยกตามประเภทการใช้งาน โดยจะมี Thread Safe version ที่ไว้ใช้ PHP สำหรับ Apache module กับ Non Thread Safe version ที่ไว้ใช้ PHP แบบ CGI binary  ( ซึ่ง Thread Safe หมายความว่า สามารถถูกใช้งานได้ผ่านหลาย ๆ Thread พร้อม ๆ กันโดยไม่ทำให้เกิดปัญหาทาง Thread เช่น Racing Condition หรือ Dead Lock นะฮาฟฟฟ มันมาจากระบบ 1 process => multi thread ที่ทำให้ 1 process รับ request ได้หลายๆ งานพร้อมกันทำให้การที่จะทำแบบนั้นได้ต้องเปิด thread safe ถึงจะทำงานได้ )

ขั้นที่ 2: extract files zip ที่ download  และ config php.ini
พอได้ file มาแล้วก็จัดการ extract file ไว้ที่ drive C:/php เลยนะครับ

และ ต่อด้วยการ Config php.ini ซึ่งก็จะอยู๋ใน folder PHP ที่ผม extract มานั้นแหละ แต่ถ้าจะสังเกตเห็นว่า จะมี file config ตัวอย่างอยู่ 2 file คือ php.ini-development และ php.ini-production แบบนี้ก็เสร็จเราเลยจิไหม งั้น ผมจะ copy file php.ini-production มาเปลี่ยน ชื่อเป็น php.ini เลยละกันนะ ( ฮ่าๆ เสร็จโจร เลย ) แต่ยังไม่เสร็จนะครับ !!

ต่อเลยครับ เมื่อได้ php.ini แล้ว เปิด file ด้วย text editor ทั่วไป  search หาคำที่ต้องการ config ได้เลย

1 extension_dir = "C:\php\ext"

เปลี่ยน path ไปที่ เก็บ extension ของ PHP เลย
เปิด extension ที่จะใช้งาน ของ php ที่ปกติโดย comment ไว้ กัน ( อยากใช้อะไรก็เปิดใช่งานตามใจชอบเลยนะ แต่ก็ดูด้วยละว่าเรามี extension ที่จะใช้เก็บไว้จริงๆนะ)

1 extension=php_curl.dll

2 extension=php_gd2.dll

3 extension=php_mysql.dll

4 extension=php_mysqli.dll

5 extension=php_pdo_mysql.dll

6 extension=php_pdo_sqlite.dll

7 extension=php_xmlrpc.dll

ส่วนใครต้องการส่ง mail ก็มี config ด้วยนะเออ แต่ตัว server จะต้องมีบริการ SMTP ด้วยนะจ้า ส่วนใครไม่มีก็ปล่อยๆ ไว้ละกันนะเออ

1 ;[mail function]

2 ; For Win32 only.

3 http://php.net/smtp

4 SMTP = localhost

5 http://php.net/smtp-port

6 smtp_port = 25

ต่อไปก็จะเป็น ตั้ง default timezone ให้กับ PHP

1 date.timezone = Asia/Bangkok

เป็นอันว่าเรียบร้อยละ สำหรับ config php.ini

ขั้นที่ 3: เพิ่ม C:\php ไว้ที่  path environment variable

อันนี้ ขออธิบายด้วยภาพละกันนะ (อ่า เริ่มขี้เกียจละ)

ขั้นที่ 4: การทำให้ Apache สามารถ Run PHP ได้ละ
เริ่มแรกก็ต้อง แน่ใจว่าเรามี Apache HTTP Server ก่อนนะ ถ้ายังไม่มีก็ไปหามาลงกันได้นะ เมื่อเราแน่ใจว่ามี apache อยู่บนเครืองละ เราจะไปทำการ config ให้ Apache Server โดน file ที่จะ config จะอยู่ที่ (ในตัวอย่างของผมจะเป้น apache 2.2 นะ)

1 C:\Program Files\Apache Software Foundation\Apache2.2\conf\httpd.conf

เปิด File ด้วย text editor แล้ว แก้ไข default file ให้มี index.php ด้วยนะ

1 DirectoryIndex index.php index.html

เพิ่ม configure ไปตามข้างล่างครับ

1 # PHP5 module

2 LoadModule php5_module "c:/php/php5apache2_2.dll"

3 AddType application/x-httpd-php .php

4 PHPIniDir "C:/php"

เสร็จขั้นตอนละ จากนั้น ก็ save แล้ว Run Apache ดูเลยครับ

ขั้นที่ 5:  การทดสอบว่า สามารถ Run PHP ได้รึป่าว

ผมก็จะ สร้าง file php (info.php) ไว้ที่  apache web root นะครับเพื่อใช้ในการทดสอบ ว่าจะ run php ได้จริงๆ หรือป่าว

1 <?php

2 phpinfo();

3 ?>

ที่นี้ก็ลอง run file (info.php) ที่สร้างไว้ได้เลย จาก http://localhost/info.php

สำเร็จแล้วพี่น้องง…..

1. ดาวน์โหลด  PHP เวอร์ชั่น ล่าสุดได้จาก http://windows.php.net/download/ ณ วันที่เขียนบทความนี้จะเป็น PHP 5.4 (5.4.8) หรือจะใช้ 5.3.18 ก็ได้นะครับ

2.  เมื่อดาวน์โหลดมาแล้วไม่ว่าจะเป็น แบบ Zip หรือ Installer ก็ได้ทั้งนั้น  ถ้าเป็นแบบ Zip ก็แตกไฟล์ไปวางไว้ที่ C:\php ถ้าเป็นแบบ Installer ก็ install ลงที่ C:\php เหมือนกัน

3.  จากนั้นให้ เปิดการใช้งาน FastCGI  เพื่อให้สามารถใช้งาน PHP บน IIS โดย เข้าที่ Control Panel \ Programs แล้วเลือก “Turn Windows features on or off”

ที่หน้าจอ  “Windows Features” ภายใต้  “Internet Information Services” ให้คลิก checkbox เลือกที่หน้า CGI แล้วกดปุ่ม OK

4.  ใช้ Internet Information Services Manager(IIS Manager)  เพื่อจัดการและตั้งค่า handler mapping สำหรับใช้งาน PHP ให้เข้าที่ Control Panel\System and Security\Administrative Tools\Internet Information Services (IIS)Manager

เลือก Handler Mappings

5.  คลิก “Add Module Mapping…”

ช่อง Request path:  ใส่ .php
ช่อง Module: เลือก FastCgiModule
ช่อง Executable:  เลือก C:\php\php-cgi.exe
ช่อง  Name: ใส่ PHP_via_FastCGI

กดที่ปุ่ม “Request Restrictions”  ใน tab แรก ให้เลือก “file or a folder” กด Ok

6. เลือก PHP Manager ต่อไปกด “Register new PHP version” แล้วเลือก “C:\php\php-cgi.exe” กด Ok

หากปรากฏ แถบสีเหลือง ให้กดที่ “View Recommendations” เพื่อตั้งค่า config

ตั้งค่า config ตามที่ท่านต้องการ

7. เมื่อเสร็จสามารถเปลี่ยนเวอร์ชั่นของ PHP ได้ โดยดาวน์โหลดเวอร์ชั่นล่าสุดมาเก็บลง C:\ หรือที่อื่น ๆ ตามต้องการ และสามารถกดที่ “Ckeck phpinfo()” เพื่อตรวจสอบเวอร์ชั่น PHP


คำสำคัญ (Tags): #php ill7
หมายเลขบันทึก: 522080เขียนเมื่อ 11 มีนาคม 2013 21:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มีนาคม 2013 21:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท