ชีวิตเหมือนเหรียญสองด้าน


***** เย็นเมื่อวานขณะเดินกลับจากภารกิจและรอข้ามถนนตรงหัวมุมเซ็นทรัลพระราม 3 พบชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังนั่งบนเก้าอี้ยาว ข้างหน้าพวกเขามีเสื้อผ้า ของใช้ วางเรียงรายจำนวนหนึ่ง

***** ด้วยความที่เกรงใจ กลัวจะเดินไปเหยียบข้าวของ เพราะถนนก็แคบอยู่แล้ว ยังมีข้าวของวางอีกเยอะ

***** ผู้เขียนขยับถอยออกมายืนบนริมทางเท้า ทันใดนั้นรู้สึกเหมือนใต้รองเท้ามีสิ่งแปลกปลอมอะไรสักอย่าง

***** โอ! ไม่ใช่อะไรอื่น มันคือหมากฝรั่ง พลันได้ยินเสียงผู้หญิงแว่วมา "บอกแล้วว่าให้เดินข้างใน แต่เดินไกลทำไม" ที่เธอกล่าวเช่นนั้น ไม่ใช่เธอห่วงใยหรือหวังดีนะคะ เพราะจากแววตาที่ส่งมามันฟ้อง แววตานี่หลอกกันไม่ได้จริงๆหากเธอปรารถนาดีจริง คงต้องบอกก่อนที่จะเดินมาถึงแล้ว

***** ผู้เขียนพยายามนึกในใจว่า เราคงไม่รอบคอบเอง แต่ก็นึกขำไม่ได้ เลยนึกถึงฉากหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "Rat Race" ซึ่งตัวละครแต่ละคนพยายามแข่งกันเดินทางไปให้ถึงจุดหมาย  ในจำนวนนั้นมีสองแม่ลูกคู่หนึ่ง พวกเธอพบแม่ค้าขายกระรอกซึ่งชักชวนให้ซื้อกระรอก พวกเธอไม่ซื้อเพราะต้องไปถึงจุดหมายให้เร็วที่สุด


***** แม่ค้าเหมือนจะใจดี แถมอาหารกระรอกให้ด้วย (เผื่อเจอกระรอกกลางทาง) แต่ที่ไหนได้ แม่ค้าบอกเส้นทางเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ระยะทางแม่นยำ ที่สุดเมื่อสองแม่ลูกไปถึง นั่นคือสุสานซากรถและโครงกระดูกของนักเดินทางก่อนหน้านั้น ซึ่งโดนแม่ค้าหลอกมาก่อนแล้วเพราะไม่พอใจที่ไม่ซื้อสินค้า

***** ผู้เขียนเคยเจอเฉพาะในภาพยนตร์ ไม่นึกว่าจะเจอเรื่องจริงซะแล้ว ปกติจะมองคนอื่นในแง่ดีมากๆ ตอนนี้ต้องหัดมอง เป็นเหรียญสองด้านไว้บ้างแล้วค่ะ แต่ก็ไม่ได้เครียดอะไร ต่อไปจะระมัดระวังมากขึ้น เพราะไม่ใช่ทุกคนเขาจะคิดเหมือนกับที่เราคิด happy ba ค่ะ

หมายเลขบันทึก: 521614เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2013 09:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มีนาคม 2013 13:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

Positive thinking จริงๆเลยค่ะ

เพราะว่าเเหรียญมี2ด้าน และ ไม่ใช่ทุกคนเขาจะคิดเหมือนกับที่เราคิด

เป็น สัจธรรมค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท