เรื่องเล่าของคลิปหนีบกระดาษ


เรื่องเล่าของคลิปหนีบกระดาษครับเอามาแชร์ให้อ่านกันนน

ย้อนกลับไปเมื่อหลาย10ปีก่อน ที่เมืองๆหนึ่งในสหรัฐอเมริกา  ….

เรื่องราวมันเริ่มต้นจากผู้ชายคนนึง กำลังนั่งรอรถโดยสารประจำทางอยู่ ซึ่งในระหว่างที่นั่งรอรถนั้น เขาบังเอิญเห็นเส้นลวดตกอยู่ที่พื้น

ด้วยความที่รู้สึกว่าไม่มีอะไรทำ ก็เลยหยิบลวดที่ตกอยู่บนพื้นมาบิดเล่น ม้วนไป ม้วนมา  จนเมื่อรถโดยสารมาถึง เขาก็เลยหยิบลวด

เสียบเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ และก็รีบวิ่งขึ้นรถโดยสารไป

ในขณะที่เขานั่งรถโดยสารไปได้สักครู่นั้น ก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้นั่งบิดลวดเล่นอยู่

เลยหยิบลวด ก่ะจะเอามาบิดเล่นต่อ ปรากฎว่า ลวดมันดันไปหนีบกระดาบสองแผ่นที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อให้ติดกันเฉยเลย!

ซึ่งนั่นเป็นการค้นพบ ”วิธีการทำให้กระดาษสองแผ่นกัน โดยไม่ต้องใช้กาว” ครั้งแรกบนโลก !!

หลังจากการค้นพบวันนั้น ผู้ชายคนนั้นก็รู้สึกว่ามันสะดวกดี ไม่ต้องมาใช้กาวให้เหนียวมือ เลยม้วนลวดไว้ใช้เองที่บ้านสองปี!

จนกระทั่งวันหนึ่งที่เค้าไปนั่งกินข้าวที่ชั้นโรงอาหารของตึกสำนักงานแห่งหนึ่ง โดยบนโต๊ะก็มีเอกสารที่มีคลิปหนีบกระดาษหนีบๆกองไว้

โต๊ะข้างๆซึ่งเป็นวิศวกรคนหนึ่งกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ หันมาเห็นเข้าเลยรู้สึกแปลกใจ เลยลุกเข้ามาถามว่า

“นี่คุณ ไ่อ่นี่มันอะไรหรอ น่าใช้จัง ซื้อที่ไหนแนะนำผมหน่อยสิ!”

ผู้ชายเจ้าของคลิปนั้นก็ตอบแบบภูมิใจว่า “อ๋อ ไม่ได้ซื้อจากไหนหรอก ผมทำไว้ใช้เองแหละ เอาไปใช้มั้ยล่ะ ผมให้!”

“จริงหรอ นี่คุณทำเองเลยหรอ ผมขอซื้อได้มั้ย!?”

“ไม่เปนไรหรอก แค่ลวดธรรมดาๆเอง เอาไปเถอะ”

“ไม่ได้ๆๆ ยังไงผมก็ต้องซื้อ”

หลังจบบทสนทนา ปรากฎว่าวิศวกรคนนั้น ซื้อคลิปหนีบกระดาษไปในราคา 20$

วันนั้นผู้ชายคนที่เป็นเจ้าของคลิปกลับบ้านด้วยความดีใจ

เพราะเขาขายลวดธรรมดาๆ ได้ตั้ง 20$

แต่อีกทางด้านหนึ่ง วิศวกรหนุ่มคนนั้น หลังจากซื้อคลิปอันนั้นมาด้วยราคา 20$

เขาวิ่งขึ้นไปชั้นบน และเข้าไปคุยกับหัวหน้า พร้อมกับว่า

“หัวหน้าครับ หลังจากนี้บริษัทเรามาผลิตไอ้นี่ขายกันเถอะ!!”

บริษัทที่ว่านั้น คือ บริษัท 3M  และหลังจากนั้นไม่กี่ปีบริษัท 3M ก็เป็นบริษัท ที่มียอดจัดจำหน่ายคลิปหนีบกระดาษมากที่สุดในโลก!!

และตามกฎมายทรัพย์สินทางปัญหา หลังจากนั้น 25 ปี บริษัทใดก็ตามที่ผลิตคลิปหนีบกระดาษต้องจ่ายค่าลิขสิทธ์ให้บริษัท 3M ด้วย!

ใครได้ข้อคิดอะไรจากเรื่อง ก็นมาแสดงความคิดเห็นได้นะคร้าาาบบบ

 ขอขอบคุณ http://www.khimhappy.com/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2-%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94/
หมายเลขบันทึก: 521529เขียนเมื่อ 6 มีนาคม 2013 12:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มีนาคม 2013 12:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ความจริง  ชายคนที่ทำคนแรก  น่าจะเป็นเจ้าของ  เพราะเขาเป็นผู้คิดได้  เป็นคนแรก

ขอบคุณบันทึกที่ให้ความรู้ดีๆครับ

ผมว่าบริษัท 3M น่าจะแบ่งค่าลิทสิทธิ์ให้คนคิดด้วยน่ะครับ

ทำให้นึกว่าสิ่งที่เราคิดว่าไม่สำคัญอาจสำคัญมากๆ จนทำให้คนอื่นร่ำรวยมหาศาล

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท