ความประทับใจครั้งแรกกับค่าย Super Teacher English Camp โดย ทวพ. ตอนที่ 1


วันนั้นเป็นวันอังคาร ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556 กลิ่นไอของวาเลนไทน์ยังไม่จางหายไป

ก็มีใคร ๆ หลายคนถามผมว่า วาเลนไทน์ เป็นไงบ้าง

สำหรับคนไม่มีแฟนหรือคนโสดอย่างผม ผมก็ตอบว่า 14 ก.พ.

มันเป็นวัน พฤหัส แล้วก็ที่โรงเรียนเข้าค่ายลูกเสือ

ผมมีสอน คาบ 1-2 เลยตั้งมือถือเป็นระบบสั่นและวางไว้ที่โต๊ะ แล้วก็สอน จนเวลาประมาณ 11.30 น.
เลยหยิบโทรศัพท์ แล้วไปโรงอาหาร ขณะที่ผมกำลังปรุงก๋วยเตี๋ยวอยู่ ปรากฏว่า
อ.อดุลย์ หรือพี่แดน หัวหน้ากลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ
แกถามทันทีเลยว่า "โทรหาจนมือเป็นหวัด คึบ่รับโทรศัพท์" ผมก็ตกใจ แล้วก็นึกได้ว่าปิดเสียงมือถือ
ก็เลยคว้ามือถือออกจากกระเป๋ากางเกง "6 Missed Call - พี่แดน"
ผมยิ้มแล้วตอบโดยพลัน "ผมขอโทษครับพี่ พอดีผมปิดเสียง เลยไม่ได้รับสาย มีอะไรให้รับใช้ครับ"
"พอดีว่ามีอบรม English Camp พี่กับคณะลงความเห็นว่า ให้ นก ไปกับ พี่ตุ๊กอักษร" พี่แดนบอก
ผมนึกอยู่พักนึง พี่แดนก็ยื่นเอกสารมาให้ดู ผมดูแบบลวก ๆ ไม่คิดอะไรมาก เลยตอบตกลงส่งเดชไปว่า
"OK ครับ ผมไป" ตอนนั้น ในใจผมคิดว่า ช่วงนี้ใกล้สอบแล้ว ต้องออกข้อสอบแล้ว ยังจะมีอบรมอีก ข้อสอบก็ยังไม่ได้ออกเลย
หาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ แต่เอาวะ ไหน ๆ ก็ไหนๆแล้ว ช่วงนี้ก็เบื่อ ๆ เซ็ง ๆ อยู่บ้านก็คงเซ็งไม่ต่างจากไปอบรมเท่าไหร่หรอก
พี่แกบอกต่ออีกว่า "เตรียมตัวนะ ไปวันที่ 21-23 ขึ้นรถที่ พัฒน์วิทย์" แล้วพี่แดนก็เดินไป ผมก็เลยถือชามก๋วยเตี๋ยวไปนั่งทานที่โต๊ะ
ในใจคิดว่า English Camp นั่งอบรม ร้องรำทำเพลง คงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น
เช้าวันต่อมา ผมก็ไม่ได้ Focus กับเรื่องนี้ ก็เดินไปคุย กับ อ.ตุ๊ก อ.ตุ๊กบอกว่า ขึ้นรถที่พัฒน์วิทย์ 7.00 น. พรุ่งนี้
ผมก็จำเอาแค่นั้นแหละ


เช้าวันพฤหัสฯ ที่ 21 ผมตื่นตี 3 ตามปกติ แต่ไม่เหมือนเคย เพราะทุกครั้ง ผมจะตื่นขึ้นมานั่งสมาธิ เข้าห้องน้ำ ซักพักแล้วงีบต่อ
ผมเตรียมของสัมภาระที่จำเป็นใส่กระเป๋า แล้วก็อะไรที่คิดว่าอาจจะได้ใช้ในคราวจำเป็น Pack ลงในกระเป๋า จากนั้นก็อาบน้ำ
แต่งตัวเตรียมเดินทางไป ขึ้นรถที่ ร.ร. โพนทองพัฒนาวิทยา
เวลา ประมาณ 6.15 น. ผมขับรถออกจากบ้าน นึกขึ้นได้ว่า ต้องเดินทางไปสองคนกับ อ.ตุ๊ก เลยขับไปที่บ้าน อ.ตุ๊กก่อนเป็นอันดับแรก
ซึ่งบ้านก็ห่างกันแค่ 300-400 เมตร ทางอากาศ พอไปถึง ผมสังเกตุว่า รถ Mitsubishi Pajero Sport ของ อ.ตุ๊ก ไม่อยู่ และบ้านก็เงียบ ๆ
แสดงว่า อ.ตุ๊ก น่าจะออกเดินทางไปล่วงหน้าแล้ว ผมก็เลยขับรถออกจาก อ.หนองพอก ตรงไป ที่เป้าหมายคือ ร.ร. โพนทองพัฒนาวิทยา
อ.โพนทอง ในระหว่างที่ขับรถไป ก็เลยอยากรู้ว่า อ.ตุ๊กเดินทางไปถึงหรือยัง ก็เลย เอามือถือขึ้นมาจะกดโทรหา
ผมกดเข้า Phone Book เพื่อกดหาเบอร์ อ.ตุ๊ก "เวรกรรม เบอร์หาย" พึ่งจำได้ว่า ผมเมมเบอร์ อาจารย์ไว้ในเครื่อง Galaxy S3
ที่จอแตก เอาละ ผมนึกในใจว่า ไม่เป็นไร โทรหาพี่แดนละกัน หัวหน้ากลุ่มสาระต้องมีเบอร์ทุกคนอยู่แล้ว ผมก็เลยกดเบอร์โทรไปทันที
พี่เขาก็ไม่รับสาย คงยังเช้าอยู่ ตอนนั้น 6.32 น. พี่เขาคงเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว แต่สำหรับผม มันสายมากแล้ว
เพราะต้องขึ้นรถ "เจ็ดโมงตรง" เอาละ ผมตัดสินใจ โทรหา อ.หน่อย ถามเบอร์ อ.ตุ๊กแทนละกัน ผมได้เบอร์มา ก็เลยโทรทันที
ก็มีปัญหาอะไรไม่ทราบ ผมโทรไปติด ใครก็ไม่รู้ที่ จ.หนองคาย เลยคิดว่าโทรผิดแล้วละ  เลยโทรไปขอเบอร์กับ น้องอีกคน
แล้วโทรอีกครั้ง คราวนี้ไม่พลาด อ.ตุ๊กบอกในสายว่า ถึงพัฒน์วิทย์แล้ว ตอนนั้น ผมก็ใกล้ถึงแล้วเช่นกัน เหลือแค่ 6 กม. ก็ถึง


พอไปถึง ผมเอารถเข้าไปจอดใต้ตึกแฟลตนักการภารโรง ร.ร. พัฒน์วิทย์ แล้วเดิน ออกมารอรถทัวร์ ที่ หน้า ร.ร. ขณะที่เดิน
ผมรู้สึกว่าตัวผมมันเบา ๆ หวิว ๆ ยังไงชอบกล เลยคลำที่เอว อืม "ลืมเข็มขัด" เยี่ยมครับ ผมต้องเดินทางไปอบรมโดยไม่มีเข็มขัด
เอาละ ผมนึกในใจอีก ว่าจะเดินไปซื้อที่ร้านใกล้ ๆ แต่ร้านยังไม่เปิด เลยเดินกลับ ซักพัก รถทัวร์ที่ ทวพ. ว่าจ้างมา ก็มาถึง ผมก็เลยถามเพื่อนครูว่า
รถจะจอดพักตามปั๊มอยู่ใช่ไหมครับ ผมว่าจะลงซื้อเข็มขัดซักหน่อย มีคนบอกว่า จอดตามปั๊มนั่นแหละ ใน Seven คงมีขายอยู่มั๊ง ผมก็เลยไม่สนใจ
แล้วรถของคณะเราก็ออกเดินทาง


ตามธรรมเนียมประเพณี การขึ้นรถทัวร์อย่างนี้ ต้องมีการร้องเพลงคาราโอเกะ แน่นอนครับ ครั้งนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น เราก็ร้องเพลงไปขณะเดินทาง เราก็เวะรับ เพื่อน ๆ ตามรายทาง ทีมงาน ทวพ.ก็เข้ามาดูแล ทันที มีข้าวกล่อง มีน้ำ มาให้บริการในขณะเดินทาง อืม มันเยี่ยมมากเลย ตอนนี้ เป้าหมายปลายทางของเราคือ "ฟาร์ม โคนม โชคชัย จ.นครราชสีมา โคราชบ้านเอง" เราเดินทางไป แล้วก็สลับผลัดเปลี่ยนกันร้องเพลงอย่างหนุกหนาน โอ้ ฟินมาก อากาศวันนี้ ก็ไม่ค่อยร้อนนัก เย็นสบายดี รถเราจอด Seven หลายครั้ง ผมก็พยายามมองหาเข็มขัด ปรากฏว่า ทุก ๆ ร้าน ไม่มีเข็มขัดขาย เพื่อนครูท่านนึงก็บอกว่า "ไปซื้อที่ฟาร์มโชคชัยก็ได้นี่ เขามีขาย แต่ราคาอาจะสูงนิสนึงนะ" เอาละ ผมนึกในใจว่า เราต้องไปโดนเข็มขัดที่โชคชัยนั่นแหละ


พอไปถึง ฟาร์มโชคชัย โคราช ทีมงาน ทวพ. ก็ตอนรับเราที่หน้าฟาร์มเลย ผมสังเกตุว่า มีน้องคนนึง หนึ่งในทีมงาน น่ารักดี เข้ามาเทคแคร์ดูแลพวกเรา
ทำให้ผมประทับใจมาก เลยถามทีมงานว่าน้องเค้าชื่ออะไร แต่ก็เหลือบไปเห็นป้ายชื่อ พอดี ไม่ทันได้อ่านป้าย พี่หมู หนึ่งในคณะเราที่เดินทางด้วยกัน กระซิบบอกว่า "น้องเค้าชื่อทราย น่ารักสุดในทีมงาน" ผมก็พยัคหน้า แล้วบอกว่าหมูว่า "เห็นด้วยอย่างแรงพี่ น้องเค้าน่ารักจุงเบย" แล้วจากนั้นเราก็เข้าไปเที่ยวชม ฟาร์มโชคชัย ที่นี่ เค้าห้ามถ่ายวิดีโอ แต่ภาพนิ่ง จัดเต็มเลยลวกเพี่ย บัตรเข้าชมคนละ 300 บาท จัดโดย ทวพ. สุดยอดมาก พอได้บัตร เราก็เดินตาม พริตตี้ที่ใส่ชุดคาวเกิร์ล (Cow Girl) ซึ่งเป็นกางเกงบลูยีนส์ขาม้า และเสื้อเชิร์ตแขนยาวเข้ารูปสีแดงของฟาร์มโชคชัย ณ ตอนนี้ ผมว่าคิดว่า ฟาร์มกับพริตตี้ อะไรน่าสนใจกว่ากันเนี่ย...

จุดแรกที่เราเข้าชมคือ จุด "ผสมเทียม" โอ้ แม่จ้าวครับ ผมไม่ได้เห็นขั้นตอนการผสมเทียมเลยครับ เห็นแต่น้องพริตตี้ สวยมาก งามแบบว่า นางสาวไทยชิดซ้ายไปเลย แต่ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว มัวแต่ตะลึง จากนั้น เราก็ไปดู ขั้นตอนการรีดนมวัว เราได้เจอน้องน้ำอ้อย ว้าว....!!! ชื้อยังหวาน แต่หน้าตา บอกได้เลยครับว่า เซอร์รี่ เข็มอัปสร ยังไงยังงั้นเลย จุดนี้เค้าให้เราได้ดูขั้นตอนการรีดนมวัว จากเครื่องรีด และ การรีดด้วยมือแบบดั้งเดิม อีกทั้งยังให้เราเข้าไปลองรีดกันด้วย อืม มันยอดมาก ก็มีพวกเรา 5-6 คน เข้าไปลองรีดนมวัว นมวัวสดๆเนี่ย หอมมากครับ แล้วจากนั้น น้องเชอรี่ เอ๊ย น้องน้ำอ้อยก็พาเราทัวร์ไปรอบ ๆ ฟาร์ม แล้วนำเสนอข้อมูลฟาร์มโชคชัยให้เราฟัง ผมพึ่งมาทราบว่า ฟาร์มโชคชัยเนี่ย มี 4 แห่งแล้ว กระบวนการจัดการที่นี่เป็นแบบพอเพียงมาก ๆ เลย แบบว่า มูลโค ก็เอามาหมักเป็นแก๊สชีวะภาพ พื้นที่ฟาร์มลาดเอียง แล้วน้ำที่ไหลผ่านลงมาจากฟาร์มจะมารวมกันที่ สระน้ำขนาดประมาณ 180x300 เมตร สองสระ สระแรก รองรับน้ำที่เพื่อบำบัดทางธรรมชาติคือบำบัดด้วยผักตบชวา แล้วก็ปล่อยน้ำที่บำบัดแล้วมาอีก สระนึง เยี่ยมมาก นอกจากนี่ ฟาร์โชคชัยยังได้ปลูกป่าเพื่อ ทดแทนที่พวกเขาได้มีส่วนทำให้โลกร้อน แต่ในขณะเดียวกันนั้น ในป่าปลูกก็มีพันธุ์ไม้แปลก ๆ หญ้าแปลก ๆ ทั้งยังมีสถานที่จัดงาน event มีรีสอร์ทที่พัก มีเต้นท์ติดแอร์ไว้บริการ ในป่าปลูกยังมีกวางเลี้ยงอีกด้วย ผมสังเกตุว่า นอกจากไม้ใหญ่แล้ว ที่นี่ยังปลูกกาแฟด้วย สวดยวดไหม ลวกเพี่ย แล้วรถของเราก็กลับออกจากป่า มาที่ไร่ข้าวโพด  นาข้าวหอมมะลิพันธุ์พิเศษของฟาร์มโชคชัย แก้วมังกร ผักต่าง ๆ มากมาย แล้วรถของเราก็ไปจอดที่โรงคาวบอย ที่นี่ มีการแสดง คาวบอยที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีการโชว์การหมุนบ่วงบาตว์ โชว์ มีกิจกรรมขี่ม้า มีการคล้องลูกโค การประทับสัญลักษณ์บนตัวโค การควงปืนคาวบอย และฟาดเชือกให้เกิดเสียงดัง "ปัง" เหมือนเสียงปืนเพื่อต้อนฝูงโค ผมสังเกตุอีกว่า น้องที่บรรยาย เนี่ย ตัวสูงและสวยมาก ๆ เหมือนลูกครึ่งไทยอังกฤษ โอ้.... แล้วผมก็จำชื่อน้องเค้าไม่ได้อีกครั้ง แฮ่ ๆ มัวแต่ตะลึงงัน มาถึงตรงนี้ ผมได้เข้าใจแล้วว่า ต้องสวยตัวสูงและหุ่นดีมาก ๆ ถึงจะได้เป็น พริตตี้ ของฟาร์มโชคชัย

ออกจากโรงคาวบอยเราก็ไปที่ จุดแสดงสัตว์แสนรู้ ได้ไปเจอกวาง กระต่าย และสัตร์อีกหลายชนิดเลย ที่นี่ถือว่าเป็นจุดสุดยอด ผมจะไม่ขอเล่านะครับว่าเผื่อว่าใครยังไม่เคยไป จะเสียอรรถรสในการเข้าชมจริง ๆ เราออกจากจุดนี้ น้องเชอรี่ เอ๊ยน้ำอ้อยก็นำทางต่อ และบรรยายว่าด้านข้างซ้ายมือ คือที่ ๆ คุณโชค เจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์เผือก ต่างๆ ไว้ เช่นม้าเผือก ม้าแคระเผือก และอื่น ๆ อีกบานตะเกียงเลย ผมจำได้ไม่หมด แล้วเราก็กลับมาถึงจุดเดิมที่เราเข้ามา น้องน้ำอ้อยมาส่งเราที่ทางออก ณ ที่ทางออกนี้เอง ผมได้เจอในสิ่งที่ผมต้องการ มันคือเข็มขัด สวยมาก แล้วผมก็โดนไป 850 บาท อาห์....มึน&ชา... ผมเดินกลับออกมา น้องทราย ทวพ. บอกว่าให้ไปรวมกันก่อนเพื่อนัดหมาย แต่ผมก็ไม่ได้ไปรวม แฮ่ ๆ ดื้อแระ ผมเดินออกมาทีหลังคนอื่นเลยถามว่า นัดอะไรกันมั่ง เขาบอกว่า "เชิญตามอัธยาศัยค่ะ ขึ้นรถ 17.30 น.ค่ะ"  เอาละ ผม Get จากนั้นผมก็เดินเล่นไปตามร้านต่าง ๆ ไม่ได้เป็นการ Shoping มันคือ Seeing ครับดูอย่างเดียว เพราะถ้าจะซื้อน่ะ ต้องมีเงินสำหรับเที่ยว Shopping อย่างน้อย 10,000-100,000 บาท เลยเพราะสินค้าราคาเอื้อมไม่ถึงกันเลยทีเดียว อาห์.... ผมก็ขึ้นรถก่อนคนอื่นและก่อนเวลา ผมเอา MacBook เปิดเพลงฟังระหว่างรอคนอื่นๆขึ้นรถ ก่อนเดินทางเข้าที่พักซึ่งผมเองยังไม่รู้ว่าที่ไหน ซักพักเพื่อนก็มากันครบ รถของเราก็เคลื่อนออกจาก ฟาร์มโชคชัย มุ่งหน้าสู่ที่พักซึ่งเป็นสถานที่การจัด English Camp พี่คนนึงบอกว่า ชื่อ "Blue Sky Villa Resort"

ว๊าว....!!! แค่ชื่อก็เร้าใจปั๋งปิ๊งแล้ว อิอิ...

มีต่อตอนที่ 2

หมายเลขบันทึก: 520550เขียนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2013 15:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2013 22:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

อาจารย์มาไวมากเลยครับ กว่าจะได้มาอบรมนี่ไม่ธรรมดา สรุปว่าพิตตี้น่ารักใช่ไหม รออ่านเรื่องค่ายภาษาอังกฤษนะครับ 

ขอบคุณมากๆๆที่ช่วยจัดการกับระบบเครื่องเสียงของรีสอร์ท


เล่าเรื่องความประทับใจจากฟาร์มโชคชัย และน้องน้ำอ้อยได้ประทับใจมากค่ะ

รออ่านบันทึกต่อไปนะคะ

เอาหนังสือมาฝากคุณครูครับ



การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
  โดย ขจิต  ฝอยทอง

ดาวน์โหลดไฟล์ PDF  | เข้าสู่เว็บไซต์

(ขนาดไฟล์ 7.70 MB)

7. การสอนภาษาอังกฤษโดยใช้กลอน ใน Column Poetry  Tree in  Kanchanaburi หนังสือพิมพ์Bangkok  Post  ฉบับวันที่  5 ตุลาคม 2547

8. การสอนภาษาอังกฤษเรื่อง  สนุกกับภาษาอังกฤษโดยใช้แหล่งการเรียนรู้ ในวารสาร สานปฏิรูป ปีที่8 ฉบับที่ 85 พฤษภาคม 2548  ในวารสารสานปฏิรูป

9. บทความเรื่อง โครงงานภาษาอังกฤษ ในวารสาร สารปฏิรูปNew School ปีที่ 8 ฉบับที่ 93 กุมภาพันธ์ 2549

10. บทความเรื่อง โครงงานภาษาอังกฤษ ( Project Work in English):อีก ๑ ทางเลือกของการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ วารสารวิชาการปีที่ 9 ฉบับที่ 4 ธันวาคม 2549  ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ISSN 1513-0096

11. หนังสือ คู่มือครูสำหรับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ


ผมพึ่งหัดเขียน ไม่นึกเลยว่า อาจารย์กับน้องจะเข้ามาอ่าน เขินจัง แหะ ๆ

ตอนที่ 2 ผมเขียนแบบ ลด Emo ครับ 

อาย ๆ

อ่านบันทึก 2 แล้วก็ไม่เห็นลด Emotion 

เขียนเถอะค่ะ เขียนสิ่งที่อยากเขียน

เขียนสิ่งที่อยากบอก

เขียนสิ่งที่ประสบมา

และที่สำคัญเขียนสิ่งที่มีประโยชน์

เป็นกำลังใจให้ครูนกเขียนต่อไปนะคะ

พี่พยายามลด Emotion แล้ว ถ้าไม่ลด จะเยอะกว่านี้ครับ
^__^ 

ตกลงน้องพริตตี้น่าสนใจกว่าฟาร์มใช่ไหมค่ะอ. 555 อ. สนุกพวกหนูก็ดีใจค่า

สนุกมากครับพี่ สนุกและมีความสุขมาก ๆ เรียกพี่เพราะผมตัวใหญ่หน้าแซงอายุเฉย ๆ

คิดถึงพี่ ๆ ทีมงานทุกคนครับ

ฝากความคิดถึงน้องทรายด้วยนะครับ ^__^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท