1.โรคหลอดเลือดสมอง กรอบความคิดและการเพิ่มความสามารถในการทำกิจกรรม


โรคหลอดเลือดสมอง

 [ Cerebrovascular disease(CVD) or Cerebrovascular accident(CVA) or STROKE Brain Attack ]




     โรคหลอดเลือดสมองตีบตัน เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต ผู้ที่เป็นมักมีอาการอย่างเฉียบพลัน บางรายโชคดีถึงมือแพทย์เร็วทันเวลาก็อาจรักษาให้หายเป็นปกติได้ แต่บางรายต้องกลายเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต และบางรายต้องเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งต่อตัวผู้ป่วยเอง คนใกล้ชิด ไปจนถึงผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและสังคม
     โรคหลอดเลือดสมองตีบตัน หรือ Stroke เกิดจากภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะเกิดการอุดตันของเส้นเลือดที่นำเลือดไปเลี้ยงสมองส่วนต่างๆ ส่งผลให้สมองขาดเลือด อยู่ในภาวะที่ทำงานไม่ได้ ผู้ป่วยจะมีอาการต่างๆ เช่น ตามองไม่เห็น ชาครึ่งซีก หรือเป็นอัมพาตแบบครึ่งซีก พูดไม่ชัดหรือพูดไม่ได้ เป็นต้น ส่วนใหญ่มักเกิดในกลุ่มวัยกลางคนขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงวัยที่กำลังสร้างสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม


สาเหตุของหลอดเลือดอุดตัน

  • เกิดจากมีการตีบของเส้นเลือด โดยมีไขมันไปเกาะผนังหลอดเลือดด้านในของหลอดเลือดสมอง
  • มีลิ่มเลือดแข็งตัวขนาดเล็กเกาะที่ลิ้นหัวใจและผนังหัวใจ หลุดลอยไปตามกระแสเลือดไปอุดตันหลอดเลือดในสมอง ซึ่งมักพบในผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือหัวใจโต ลิ้นหัวใจตีบหรือรั่ว ผนังหัวใจรั่ว
  • เกิดจากมีการฉีกของผนังหลอดเลือดด้านในทำให้เส้นเลือดอุดตัน
  • เกิดจากความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือดซึ่งแข็งตัวเร็วเกินไป โดยที่เลือดขาดสารบางอย่าง หรือมีเม็ดเลือดแดง หรือเกร็ดเลือดมากเกินไป


อาการเบื้องต้นที่พบบ่อย

  • ตาพร่ามัวมองเห็นภาพซ้อน
  • มีอาการชา อ่อนแรง และหน้าเบี้ยว หรือมีอาการแขนขาอ่อนแรงร่วมด้วย
  • พูดลำบาก หรือฟังไม่เข้าใจ
  • เวียนศีรษะ การทรงตัวไม่ดี เดินเซ
  • กลืนลำบาก
  • ปวดศีรษะ (บางครั้งจะมีอาการปวดศีรษะรุนแรง)

ซึ่งอาการอาจจะแสดงออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือมีอาการหลายอย่างพร้อมกัน โดยถ้าผู้ป่วยกลับคืนมาปกติใน 24 ชั่วโมง เรียกว่า TIA (Transient Ischemic Attack) หรือ Mini stroke ถ้าพบอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ เพื่อให้การรักษาและวินิจฉัยโดยด่วน


ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง

  • โรคความดันโลหิตสูง ผู้มีความดันโลหิตสูงกว่า 160/90 mmHg เป็นระยะเวลานาน จะทำให้หลอดเลือดแข็งตัวเร็วกว่าปกติ ส่งผลทำให้สมองทำงานผิดปกติ เกิดหลอดเลือดตีบตันหรือแตก
  • โรคเบาหวาน ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดตีบแข็ง ทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงสมองถูกอุดตันและเกิดอาการต่างๆ ที่กล่าวมาได้
  • โรคหัวใจ เช่น โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ทำให้มีลิ่มเลือดหลุดไปอุดเส้นเลือดสมอง
  • การสูบบุหรี่ มีความเสี่ยงก่อให้เกิดหลอดเลือดตีบหรืออุดตันที่สมองและหัวใจ
  • ไขมันในเลือดสูง ทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองเร็วกว่าปกติ
  • ดื่มแอลกอฮอล์มาก
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • ฮอร์โมนบางอย่าง โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้หลอดเลือดดำในสมองอักเสบ
  • โรคอ้วน


การป้องกันที่ควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

  • งดสูบบุหรี่
  • ควบคุมอาหาร อย่าให้น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ควบคุมระดับไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ถ้าเป็นเบาหวาน ควรรักษาระดับน้ำตาลให้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ถ้าเป็นโรคความดันโลหิตสูง ควรดูแลความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • หากมีอาการ เช่น แขนขาอ่อนแรง ปากเบี้ยว พูดลำบาก เวียนศีรษะ มองเห็นภาพซ้อน ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด - ควรตรวจวินิจฉัยโรคหัวใจ เพื่อตรวจหาความเสี่ยง เพราะอาจเกิดลิ่มเลือดในหัวใจหลุดเข้าไปอุดตันในหลอดเลือดสมอง

การจะทราบว่าผู้ป่วยที่มาพบแพทย์เป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือไม่ เป็นที่จุดใด ความรุนแรงเพียงใดนั้น ควรทำการตรวจโดยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ให้ผลละเอียดและมีความแม่นยำสูง เพื่อประกอบการวินิจฉัยของแพทย์ ซึ่งมีหลายวิธี อาทิ การตรวจสมองด้วยคอมพิวเตอร์ (CT Scan) การตรวจด้วยคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI และ MRA) การตรวจการไหลเวียนเลือดของหลอดเลือดในสมอง (Transcranial Doppler : TCD) และการตรวจหลอดเลือดคอ เป็นต้นซึ่งผลที่แม่นยำและละเอียดพอจะสามารถช่วยทำให้แพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ


การรักษา

สิ่งที่ส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จในการรักษาโรคหลอดเลือดสมองตีบตันคือ การทำให้เซลล์ของสมองยังอยู่รอดให้ได้นานที่สุด ถ้าเราสามารถทำให้เลือดไหลเวียนได้ทันเวลาและในระดับที่เพียงพอ ก็สามารถทำให้เนื้อสมองบริเวณนั้นฟื้นตัวได้เร็ว ส่งผลให้ผู้ป่วยกลับมาเป็นปกติได้ ซึ่งการรักษานี้จะต้องทำภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อให้ยาละลายลิ่มเลือด (Thrombolysis) การให้ยานี้ผู้ป่วยควรอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้านสมองเท่านั้น หลังจากให้ยาแล้วผู้ป่วยควรอยู่ในโรงพยาบาล 2-3 วันเพื่อดูอาการต่อไป หากเกิน 3 ชั่วโมงแล้ว ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาในหอผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง เพื่อทำการรักษาด้วยวิธีการที่เหมาะสมต่อผู้ป่วยมากที่สุด เช่น

  • รักษาโดยการให้ยาบางประเภท เพื่อให้เซลล์สมองเสียน้อยที่สุด โดยระยะแรกๆ ควรจะดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด เพื่อสังเกตอาการแทรกซ้อน บำบัดรักษาโรคอื่นๆ ของผู้ป่วย เช่น โรคเบาหวาน ความดันสูง โรคไต ปอดบวม กลืนลำบาก เป็นต้น
  • ใช้กายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัดในรายที่เป็นอัมพาต ไม่ว่าจะเป็นการฝึกนั่ง ยืน เดิน การฝึกกลืน ฯลฯ
  • ในรายที่ซึมเศร้า เป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้ป่วยที่เป็นโรคอัมพาต มักจะให้การรักษาโดยใช้จิตบำบัด

ผู้ป่วยควรได้รับการฟื้นฟูมากที่สุด เพื่อให้ช่วยเหลือตัวเองหรือเป็นอิสระมากที่สุด ผู้ป่วยบางรายช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทีมแพทย์และพยาบาล ควรจะมีการติดตามอาการผู้ป่วยขณะบำบัดที่บ้านด้วย


ซึ่งในทางกิจกรรมบำบัดนั้นเราจะใช้กรอบความคิดต่างๆในการรักษา

สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแล้วใช้โมเดล PEOP น่าจะเหมาะที่สุดคะ

เพราะ • PEOP (People Environment Occupation Performance Model)  ถือเป็นโมเดลที่สามารถมองปัจจัยต่างๆเกี่ยวกับผู้ป่วยได้อย่างรอบด้าน 


                                                                                                                                                   

เราสามารถแยกแยะสาเหตุตลอดจนการใช้ชีวิตของผู้ป่วยได้ คือ

P [People] คือ สิ่งแวดล้อมภายใน หรือ ตัวผู้ป่วยเองอาจจะมีปัจัยภายในร่างกายที่สามารถกระตุ้นให้เกิดโรคง่ายขึ้น เช่นมีความผิดปกติของระบบรักษาสมดุลร่างกายจนทำให้เกิดโรคได้

E [Environment] คือ สิ่งแวดล้อมภายนอกรอบๆตัวผู้ป่วยที่จะคอยส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพกายและจิตของผู้ป่วยเป็นตัวกำหนดการใช้ชีวิตในหลายๆด้าน เพราะสิ่งแวดล้อมภายนอกนั้นหมายรวมถึงการส่งเสริมทางสังคม ความเป็นไปของสังคมและเศรษฐกิจ ค่านิยม ประเพณี-วัฒนธรรม ตลอดจนสิ่งก่อสร้าง เทคโนโลยีต่าง และ สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติด้วย เช่นถ้าสังคมมีค่านิคมในการกินเหล้าสูบบุหรี่จัด ทานอาหารไขมันสูงมากๆ ก็ทำให้เราอยากทำตามความเสี่ยงที่จะเป็นโรคก็จะสูงขึ้น

O [Occupation] คือ กิจกรรมต่างๆที่ดำเนินควบคู่ไปในชีวิตประจำวันของเรานั่นเอง กิจกรรมมีส่วนสำคัญมากเพราะเป็นผลจากสิ่งแวดล้อมทั้งภายนอกและภายใน คือ เมื่อเราทำกิจกรรมใดลงไปก็อาจส่งได้ทั้งผลดีและผลเสียแก่ตัวเราได้เช่นกัน เช่นการที่เราออกกำลังกายเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพสามารถป้องกันโรคได้ดี แต่หากหลังออกกำลังเราไปดื่มเหล้าหนักๆมันก็ยังส่งผลเสียได้ ฉะนั้นกิจกรรมส่งผลต่อชีวิตเราเสมอ

P [Performance] คือ ทักษะ ความสามารถที่จะในการทำกิจกรรม แน่นอนว่าเมื่อเกิดโรคความสมารถในการทำสิ่งต่างๆของเราก็ย่อมลดลงด้วยเป็นโรคนั้นจะมีข้อจำกัดที่ทำให้เราทำบางสิ่งไม่ได้ เช่น เมื่อมีอาการอัมพาตครึ่งซีกผู้ป่วยบางท่านจะความดันไม่คงที่จึงทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากไม่ได้ หรือ ทำนานๆไม่ได้


แล้วเราจะไปเพิ่มความสามารถในการทำกิจกรรมให้เขาได้อย่างไร?

ในส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับอาการของคนไข้ด้วย

- หากมีอาการอ่อนแรงแขนขาอ่อนแรงเราก็ต้องพยายามเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อในเขารวมถึงช่วงการเคลื่อนด้วย สองจุดนี้สำคัญมากเพราะถ้าเรามีกำลังที่ดี การเคลื่อนไหวที่ราบรื่นการจะกลับไปทำกิจกรรมได้ปกติไม่ใช่เรื่องยากนัก แต่ถ้าเพิ่มไม่ก็ต้องคงสภาพเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด

- ปัญหาการสื่อสารก็ลดทอนทั้งความสามารถและกำลังใจของผู้ป่วยด้วยอาจต้องมีการฝึกพูดในรายที่มีปัญหานี้

- การกินเป็นสิ่งสำคัญแต่ในผู้ป่วยบางรายกลืนไม่ได้ จึงต้องมีการกระตุ้นกลืน ให้เป็นไปตามกระบวนการกลืนของร่างกาย เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่

- ปัญหา cognitive หรือ สติปัญญา อีกปัญหาสำคัญที่สร้างความลำบากแก่ผู้ป่วยเป็นอย่างยิ่ง ในทางกิจกรรมบำบัดเราจะมีการ ฝึกcognitive ความคิด ความจำ ผ่านกิจกรรมต่างๆ เกม หรือจากสิ่งที่ผู้ป่วยสนใจ เพื่อให้แรงจูงใจในการรักษา และ การทำกิจวัตรประจำวันสิ่งสำคัญเหล่านั้นสำหรับผู้ป่วยบางรายก็ทำได้ แต่บางรายเขาก็จำไม่ได้ ทำไม่เป็น เราก็ต้องมีการสาธิต ฝึกให้ผู้ป่วยลองทำตาม หรือ แม้แต่การใช้การ์ดหรือบัตรคำเขียนขั้นตอนต่างๆหรืออัดเสียงสิ่งที่ต้องทำไว้เพื่อเตือนความจำให้ผู้ป่วยปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง




อ้างอิง

นพ.ยรรยง ทองเจริญ. โรคหลอดเลือดสมอง(stroke) [ElectronicMaterial].2555[2013 Feb 22]. Available from http://www.vejthani.com/web-thailand/Stroke.php

#5423007

คำสำคัญ (Tags): #stroke#กิจกรรมบำบัด
หมายเลขบันทึก: 520442เขียนเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2013 08:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มีนาคม 2013 11:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท