พบ_สมองนักลงทุนไม่เหมือนคนทำงานประจำ



.
BusinessInsider ตีพิมพ์เรื่อง 'How entrepreneurs' brains are different from managers'
= "สมองนักลงทุนต่างจากผู้จัดการอย่างไร", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
.
จุดต่างอย่างหนึ่งระหว่างคนที่กล้าลงทุนกับคนทำงานประจำทั่วไป คือ คนที่กล้าลงทุนกล้าเสี่ยง ส่วนคนที่ทำงานประจำทั่วไปใช้วิธีหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

ศ.มาวริซิโอ โซลโล จาก MIT ทำการศึกษาสมองของนักลงทุน เปรียบเทียบกับผู้จัดการ (คนทำงานประจำ) พบว่า การทำงานของสมองต่างกัน คือ สมองส่วนนอกด้านหน้า ใกล้หน้าผาก (pre-frontal cortex) ทำงานไม่เท่ากัน
  • นักลงทุน > ใช้สมอง 2 ซีก
  • ผู้จัดการ > ใช้สมอง 1 ซีก (ข้างซ้าย)
สมองส่วนนอกด้านหน้า (pre-frontal cortex) ข้างขวา หรือ "สมองซีกขวา" ใช้ในการคิด-พูด-ทำอย่างสร้างสรรค์ (creative functions)
.
เช่น งานเขียนเรื่องใหม่ (ไม่ใช่ 'copy & paste' หรือ "ก๊อปแล้วปะ" แบบบางคนใช้ทำการบ้าน), งานศิลปะ คิดต่างไปจากอะไรแบบเดิมๆ หรือมองต่างมุม
.

.
สมองส่วนนอกด้านหน้าซีกซ้าย ใช้ในการคิดเหตุผล ตรรกะ หรือประมวลผลจากข้อมูล ความรู้ ความชำนาญแบบเดิมๆ
.
ศ.โซลโล กล่าวว่า คนที่ใช้สมอง 2 ซีกในการประมวลผลข้อมูลไม่ได้ฉลาดกว่าคนที่ใช้สมองซีกเดียว ทว่า... มีแนวโน้มจะเป็นคนที่คิดรอบด้าน มองต่างมุม มองหลายๆ มุม, หรือใช้ข้อมูลจำนวนมากมาประมวลผลร่วมกันมากกว่า
.
ทุกวันนี้ประเทศที่พัฒนาแล้ว เน้นพัฒนาการศึกษาพื้นฐาน เพื่อให้คนในชาติเก่งทั้งความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ภาษา สังคม, ความชำนาญ เช่น งานช่าง อาชีวะ ฯลฯ, และวิจัย-พัฒนา ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ และศิลปะ
.
เช่น ทำสินค้าอย่างไรให้ดูดี น่าซื้อ, ทำงานบริการอย่างไรให้ลูกค้าประทับใจ ฯลฯ
.

.
วิธีที่จะช่วยเพิ่มความรู้ (ใช้สมองซีกซ้าย) ไปพร้อมๆ กับความคิดสร้างสรรค์ (ใช้สมองซีกขวา) ได้แก่
.
(1). การเรียนภาษา 2 ภาษาขึ้นไปให้เก่งจริง > ไม่ใช่รู้หลายภาษาแบบ "งูๆ ปลาๆ" (สำนวนนี้ตรงกับภาษาพม่าว่า "แนแน ปาปา")
.
ตรงนี้รัฐบาลช่วยได้ เช่น บังคับให้ TV ทุกช่องต้องสอนภาษาต่างประเทศอย่างน้อย 15 นาที/วัน ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด,...
.
(ต่อ...) จัดประกวดบทเรียนภาษาต่างประเทศทุกปี ให้รางวัลเรื่องละ 1 ล้านบาทขึ้นไป กำหนดให้เป็นสมบัติสาธารณะของประเทศ นำขึ้นยูทูบ นำขึ้นเว็บไซต์ห้องสมุด TK park และให้ดาวน์โหลดได้ ทั้งผ่านอินเตอร์เน็ต และดาวน์โหลดได้ที่โรงเรียนทุกจังหวัด ฯลฯ
.
.
(2). การเรียนรู้ "วัฒนธรรมข้ามชาติ " อย่างน้อย 2 ชาติให้รู้จริง เช่น อยู่ในไทย... เรียนเรื่องไทยให้รู้จริง แล้วเลือกเรียนวิชาพม่าศึกษา หรือกัมพูชาศึกษา เพื่อให้เข้าใจเพื่อนบ้านอย่างรู้ลึก
.
คนที่มีประสบการณ์ "ข้ามวัฒนธรรม" เช่น มีโอกาสไปศึกษาต่างประเทศ ฯลฯ มักจะคิดได้รอบด้านมากขึ้น ซึ่งตรงนี้... รัฐบาลช่วยได้ โดยลงทุนซื้อสารคดีดีๆ มาออกอากาศให้คนไทยชมบ่อยๆ
.
(3). เรียนรู้ผ่านงานอดิเรกให้รู้ลึกแบบ "นอกตำรา" อย่างน้อย 1 เรื่อง เช่น กีฬา ดนตรี ศิลปะ สุขภาพ ฯลฯ
.
.
(4). ใช้ "เท้า" ให้บ่อยและหนักพอเป็นประจำ เช่น เดินเร็ว-วิ่งเร็ว-ปั่นจักรยานเร็ว ฯลฯ เนื่องจากมีการศึกษาพบว่า สมองดีเริ่มต้นที่การออกแรง-ออกกำลังผ่านฝ่าเท้าให้มากพอ
.
(5). ฝึกใช้ "มือ" ให้ชำนาญงานช่าง เช่น ช่างไม้ ช่างประปา ช่างไฟ ฯลฯ หรือฝึกดนตรี-ศิลปะ
.
.
(6). ถนอมสมอง อย่าให้สิ้นสภาพจากการ "เมาแล้วขับ-ง่วงแล้วขับ", พิษสารตะกั่ว เช่น หมึกพิมพ์ (ล้างมือก่อนกินอาหาร-ดื่มน้ำ), ไม่กินน้ำก๋วยเตี๋ยว-น้ำซุปจากหม้อเชื่อมด้วยตะกั่ว, ไม่ดื่มน้ำจากตู้ที่เชื่อมด้วยตะกั่ว ฯลฯ
.
ถนอมสมอง อย่าให้สิ้นสภาพจากแอลกอฮอล์ หรือเสื่อมจากการสูบบุหรี่
.

.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
.

 > [ Twitter ]

  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง. 6 กุมภาพันธ์ 56. ยินดีให้ท่านนำบทความไปใช้ได้ โดยอ้างที่มา และไม่จำเป็นต้องขออนุญาต... ขอบคุณครับ > CC: BY-NC-ND.
  • ข้อมูล ทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค; ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูง จำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้
 
 
 


หมายเลขบันทึก: 518706เขียนเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2013 19:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2013 19:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท