ผมได้เสนอในบทความก่อนให้มีการเรียนการสอนแบบบูรณาการเพื่อ "ปฏิลูบการศึกษาไทย"
ผมจะลองเอาวิชาสังคมศาสตร์
ภูมิ ประวัติศาสตร์ และ
ภาษาไทยมารวมกันดู เช่นวันนี้ผมสอนเรื่อง
จ.แม่ฮ่องสอน ผมอาจสอนว่า
ลักษณะภูมิประเทศเป็นเขาสูง สลับกับที่ราบอย่างไร
มีแม่น้ำไหลมาบรรจบกันอย่างไร ฝนตกเพียงไหน มีชนเผ่ากี่เผ่าแต่ละเผ่ามีวัฒนธรรมอย่างไร จากนั้นผมลงลึกไปยังประวัติศาสตร์ชนเผ่า ประวัติศาสตร์เมือง อำเภอต่าง
ๆประวัติบุคคลสำคัญ ปัญหาสังคม การเมือง
เศรษฐกิจ ของพื้นที่ จากนั้นผมจะให้นร.
แต่ละคนเขียนเรียงความหาทางปรับปรุงสิ่งต่างๆในจังหวัด เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหายาเสพติด ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร แบบนี้เด็กจะได้ทุกอย่าง
ความรู้แบบบูรณาการ การคิดวิเคราะห์
การแก้ปัญหา การเขียนเรียงความ ...เวลาครูตรวจ ครูต้องตรวจการใช้ภาษาด้วย แบบนี้เราลดจำนวนวิชาลงได้มาก แล้วเราซอยย่อยเป็นชั้นเล็กๆ ไม่เกิน ๑๕ คน วิชาทางด้านวิทยาศาสตร์ก็สอนแบบบูรณาการได้
ดังที่ผมเคยเสนอไว้แล้ว เช่น การทำอาหาร
มันต้องเริ่มมาจากการเผาไหม้ถ่าน (เพียงแค่นี้ก็เรียนฟิสิกส์ เคมี
กันได้จนตายแล้วครับ มันยากมาก ) การส่งผ่านความร้อนจากไฟผ่านกระทะ (ยากมาก)
การสุกของผัก การเดือดของน้ำ การกลายเป็นไอ การปุดเดือดของน้ำ น้ำมัน กลิ่น สี รส ที่เกิด มาได้อย่างไร ...เรียนวิชาเดียวได้หมดทั้งฟิสิกส์เคมีชีวะ แม้แต่วิชาวาดเขียน
ถ้าเราให้เด็กออกไปเขียนภาพสะท้อนชีวิตคนสัตว์สิ่งของในชีวิตจริง
ให้มีมิติของธรรมชาติ สังคม
มีการสื่อสารหลายมิติ เด็กก็ได้ฝึกคิดไปด้วยในตัว
ไม่ใช่ให้เด็กเขียนภาพเหมือนบนกระดานที่ครูเอามาติดไว้ ...คนถางทาง (๓๑
มกราคม ๒๕๕๖)
โดยหลักการหน่ะ โอ ค่ะ .. แต่เรายังไม่ได้เตรียมคุณครูเลยนะคะ อย่างงี้ ทั้วตัวคุณครู และ สถาบันที่สอนครูก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการ และ แนวคิด แบบบูรณาการด้วยเช่นกัน -- งานนี้ถึงจะ work
วิธีแบบที่ผมเสนอนี้ ครูต้องเก่ง รู้รอบ (well rounded) ไม่ใช่ครูมิติเดี่ยว ครูต้องรักการเรียนรู้ก่อน แล้วจุดไฟต่อไปที่เด็ก