จดหมายถึงครู l ดีเท่าไหร่ที่ได้เกิดมา


วันอังคาร ที่ 22 มกราคม 2556


กราบสวัสดีค่ะครู

        ในหัวหนูตอนนี้พอมันจะทำอะไรทหรือ จะคร่ำครวญในทุก มันก็จะดีดเอาเรื่องราวที่ครูเมตตาสอนขึ้นมาเตือนว่า "คนอื่นทุกข์กว่านี้ ครูทุกข์มากว่านี้ ท่านยังผ่านมาได้ อย่ามาสำออย ให้กิเลสนำหน้า"

การตื่นมาเช้านี้น่าอายมากเจ้าค่ะ กระเสือกกระสนกับตนเอง รู้เลยว่า

"พลาดโอกาสใส่บาตรครูแน่ ๆ"

สำนึกเจ็บจี๊ดข้างในตนเอง แม้ครูจะเมตตาไม่เอ่ย

แต่ก็รู้กับตนเองว่า "พลาดแล้ว ด้วยความเคยชินเดิม ๆที่ไม่ฝืน"

หนูพยายามตั้งสติ เพราะการทำงานที่ครูต้องขับเคลื่อนกระบวนการ หากหนู ไร้สติ จะเป็นตัวถ่วง

ก็เห็นว่า ตนเองขาดสติ ทำอะไรไม่ถูกอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็พยายามจดจ่อ ทำให้ได้


งานที่ capture ออกมาตอนเช้า รู้กับตนเองว่า  แค่พอได้ แต่ยังไม่ดี

ได้รับมุทิตาจิตจากพี่จำปี รู้สึกขอบพระคุณในกำลังใจ


เที่ยง ๆครูเมตตาให้ไปจัดหาบาตรใหม่


รู้สึกว่า ดีจังเลย ครูจะได้มีช่องว่าง ๆให้ได้ พัก


พอบ่ายปรับกระบวนทัศน์ของตนเองใหม่

ครูะป็นผู้เลิศในการปรับเปลี่ยน ตามกระบวนการเรียนรู้

พี่ ๆ จาก รพร.กุฉินารายณ์  และ รพ.คำม่วง 

ลุกขึ้นมาแชร์ประสบการณ์ อย่างน่ารัก


ทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างประทับใจทั้งวิทยากรและผู้จัด


แบบอิ่มเต็ม


พอครูและพี่ๆเดินทางกลับ

หนูแยกมาคุยกับอาจารย์และพี่จำปี แล้วก็แยกกลับไปจัดการเรื่องผ้าให้เรียบร้อย

ใจระลึกว่า ช้อนที่ถวายครู ไม่ควรจะมี ซ้ำ เพราะไม่งั้นอาจจะหลง และพลาดพลั้งได้

หนูจึงดึงส่วนที่เหลือกลับ แล้วก็ค่อยหาใหม่

พึ่งมาสะดุดใจตอนที่ครูเมตตาถามเจ้าค่ะ  กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ

หนูยังเขลาอยู่มากแต่ก็พยายาม


เรื่องบาตรหนูก็ถามตนเอง 

หากต้องเดินทางจะสะดวกไหม 

เพราะค่อนข้างใหญ่ 

ใจก็ทบทวนกับตนเอง

หากต้องเดิน ไปที่ต่าง ๆกับครูมันเหมาะสมไหมแค่ไหน


หากถามใจที่ชอบก็ใบใหญ่เจ้าค่ะ

แต่หากมองประโยชน์ใช้สอยก็ใบกลางหรือเล็กก็พอ

ไม่ลงใจกับตนเองเจ้าค่ะ

จึงตัดสินใจใช้เท่าที่มีไปก่อน

กลับบ้าน

ไล่เรียงตัดเย็บผ้า แล้วก็ออกไปวิ่ง

กลับเข้ามาว่าจะดีท๊อก นั่งพักจึงตัดสินใจขึ้นไปทำวัตรเย็น

แล้วก็นั่งภาวนา ปรากฏว่า ไหลลง ๆแล้วก็หลับถึงเช้าเลยค่ะครู

จึงได้พึ่งมาส่ง การบ้านครูเช้านี้


ศีลข้อ 4 กับหนูเป็นเรื่องที่ต้อง ขัดอีกมาก สัจจะรักษาไม่เป็น วินัยคงมั่นไม่ได้

ศีลข้อ 3 ช่วงนี้ข้างในบีบคั้นมากเจ้าค่ะ อาจจะด้วยเหตุปัจจัยของฮอร์โมน แต่ใจก็คอยระลึกถึงวันปวารณากับหลวงปู่และครู ยังไงซะต้องทนให้ได้ต้องผ่านให้ได้ ศีล 8 สำหรับหนูนั้นรู้เลยว่า ยังอยู่ข้างนอก 

ยังอยู่ห่างแบบยังเข้าไม่ถึงข้างในใจ ที่ทำได้ และพยายามกับตนเองคือ กดข่มกิเลส ไม่ให้หนักหนาเจ้าค่ะ

ระลึกกับตนเองว่า ดีเท่าไหร่ที่ได้เกิดมาเป็นคน

ไม่ได้เป็นเปรต ไม่ได้เป็นเดรัจฉาน

การเกิดเป็นคน นั้นเป็นโอกาสที่ยังพอฝึกได้

แล้วจะยังมาไม่พยายามอีก ก็สูญเปล่าเท่านั้นแหละที่ได้เกิดมา


กราบขอบพระคุณครูเจ้าค่ะ

หมายเลขบันทึก: 517203เขียนเมื่อ 23 มกราคม 2013 08:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มกราคม 2013 08:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ตามอ่านมาหลายๆบันทึก ต้องขอชมว่าหนูเป็นผู้ที่รู้สติตลอดเวลา แต่อาจจะเคร่งครัดกับตัวเองมากไปหน่อย ทำให้ต้องกล่าวโทษตัวเองอยู่เรื่อยๆทั้งๆที่ก็ทำได้ค่อนข้างดีแล้วนะคะ ถ้าปล่อยใจให้สบายๆขึ้น อาจจะช่วยให้ผ่อนคลายและทำสิ่งต่างๆได้อย่างใจมากขึ้นไหมคะ แนะนำจากที่อ่านแล้วรู้สึกได้ด้วยความนับถือสติที่หนูพยายามจับอยู่เสมอ ฝากไว้ลองพิจารณาดูนะคะ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท