หลังการผ่าตัดวุ้นตาเมื่อวันที่ ๑๙ ก.ค. ๕๕ และหมอให้กลับบ้านเมื่อวันที่ ๒๐ และตรวจติดตามผลเมื่อวันที่ ๒๖ ก.ค. และ ๑๖ ส.ค. ๕๕ ตามที่เล่าไว้ที่นี่ ผมมีนัดตรวจติดตามผลครั้งที่ ๓ ตอนเช้าวันที่ ๒๔ ธ.ค. ๕๕ ที่ห้องตรวจตาตึกสยามินทร์ชั้นล่าง ผมเดาว่าเป้าหมายหลักคือดูว่าต้อกระจกที่ตาขวาก้าวหน้าไปอย่างไรบ้าง ผมลองปิดตาทีละข้างพบว่าตาขวามัวลงไปมากเวลาอ่านหนังสือก็ไม่สะดวกอย่างแต่ก่อน
คราวนี้โชคดี ผมไปรับบริการแบบคนไข้ธรรมดาไม่ติดตราวีไอพี จึงได้เข้าไปนั่งรอรวมกับคนไข้คนอื่นๆ ทำให้ได้สังเกตว่าคนไข้ที่ไปนั่งรอเป็นผู้สูงอายุเกือบทั้งสิ้น บางคนสูงอายุมากจนต้องมีลูกหลานมาเป็นเพื่อน
ผมได้มีโอกาสสังเกตการให้บริการของผู้ช่วยพยาบาลที่ทำหน้าที่ให้บริการเบื้องต้น เช่นเตรียมคนไข้สำหรับการยิงเลเซอร์ การตรวจสายตา การหยอดยาขยายม่านตา เตรียมให้หมอตรวจตาด้วย slit lamp เป็นต้น
ได้มีโอกาสสังเกตสภาพห้องตรวจว่ามี slit lamp ๓ ตัว มีเครื่องวัดความดันโลหิต ๑ เครื่อง เป็นเครื่องวางพื้นมีล้อเลื่อน เครื่องมือเหล่านี้แตกต่างจากสมัยผมทำหน้าที่แพทย์ตรวจผู้ป่วยเมื่อ ๔๐ ปีก่อนโดยสิ้นเชิง
เจ้าหน้าที่เรียกคนไข้ไปรับบริการเรียงตามคิว ทำให้ผมชอบมากเพราะผมได้มีโอกาสไปนั่งเข้าแถวเหมือนคนไข้คนอื่นๆ ได้สัมผัสความรู้สึกในการรอ ได้สังเกตเหตุการณ์ในห้อง ได้ฟังถ้อยคำและน้ำเสียงที่เจ้าหน้าที่ระดับล่างพูดสื่อสารกับคนไข้ ซึ่งมักเป็นคนแก่งกๆเงิ่นๆ และรู้สึกชื่นชมที่เจ้าหน้าที่เหล่านี้พูดจาสื่อสารกับคนไข้อย่างดีไม่มีการขู่ตะคอกอย่างสมัยก่อน ยุคสมัยเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ใบนัดบอกว่านัดเวลา ๘.๐๐น. แต่ให้ไปถึงก่อนเวลา ๓๐นาที ผมไปถึงเวลา ๗.๓๐น. และได้นั่งรอหน้าเคาน์เตอร์พยาบาล ก่อน ๘ น. เล็กน้อยก็ได้รับเรียกไปนั่งรอในห้องตรวจ เป็นราวๆคิวที่ ๕ นั่งรอสักครู่ราวๆ ๑๐นาที ก็ถูกเรียกไปวัดสายตาซึ่งผลคือตาขวาของผมมัวลงไปมากจริงๆ แล้วให้กลับมานั่งรอที่หน้าเคาน์เตอร์อย่างเดิมตอนนี้เวลา ๘.๑๕ น. คนไข้มาเพิ่มขึ้นจนเกือบเต็มเก้าอี้นั่ง พอ ๘.๒๐ น. พยาบาลก็มาหยอดยาขยายม่านตา โดยเดินมาบริการถึงที่ คือหยอดกันตรงที่ผมนั่งเก้าอี้รอหน้าเคาน์เตอร์
ระหว่างนั่งรอนอกจากนั่งสังเกตเหตุการณ์โดยรอบ ผมก็อ่านหนังสือบ้างจดบันทึกบ้างใน iPad (เป็นการบันทึกณเวลาจริง) อีกสักครู่ อ. วิม (ศ. พญ. วณิชา ชื่นกองแก้ว) เดินผ่านมาก็ทักทายกันคุยกันเรื่องงานปฏิรูปการศึกษาของวิชาชีพสุขภาพ แล้วท่านก็ฉกตัวผมไปตรวจต้อกระจก และอธิบายรายละเอียดว่าหากผมรำคาญตอนอ่านหนังสือก็ผ่าตัดเอาเลนส์ตาที่ขุ่นออกใส่เลนส์เทียมเข้าไปแทนได้แล้ว
ผมรีบบอกว่าผมอยากผ่าตัดเลยเมื่อกำหนดเวลาได้โดยอ. วิมบอกว่าต้องนอนพักหยุดงาน๒สัปดาห์อ. วิมใช้กล้องตรวจจอตาที่มีไฟติดหน้าผากและเลนส์มือถือเอามาจ่อใกล้ๆตาและบอกว่าจอตาปกติ (นี่คือข่าวดีสำหรับคนเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงอย่างผม)
พร้อมทั้งชวนเดินไปที่ตึกโอพีดี เพื่อตรวจตา วัดเลนส์เทียม เพื่อเตรียมผ่าตัด ไปถึงห้องวัดเลนส์เทียมท่านก็เรียก "พี่นก" นักตรวจวัดเลนส์เทียมให้มาช่วยวัดผมหน่อย พร้อมกับกระซิบบอกว่า "ต้องจองให้มือหนึ่งตรวจจะได้แม่น หากปล่อยตามคิวอาจได้มือใหม่และผลอาจไม่แม่น"
คุณนก นอกจากฝีมือดียังอัธยาศัยดีมากอีกด้วย ผมไม่ได้สังเกตจากการพูดกับผมนะครับ ต้องสังเกตจากการพูดกับเจ้าหน้าที่ระดับเด็กๆ
คุณนกตรวจผมด้วยเครื่องมือ๓เครื่องคือเครื่อง auto-refraction, เครื่อง auto-AOL, และเครื่อง ultrasound คุณนกบอกว่าของอ. วิมต้องตรวจทั้งเครื่อง AOL และ ultrasound เพื่อให้ยืนยันกันผมได้รับการดูแลอย่างดีเสมอ
นอกจากนั้นผมยังได้รับการตรวจความดันตาโดยใช้เครื่องอัตโนมัติเช่นกันเอาคางวางตาจ่อกล้องเจ้าหน้าที่บอกว่าโดนลมเป่าตาหน่อยนะขวาทีซ้ายทีและบอกว่าปกติค่า๑๓กับ๑๗
แล้วคุณนกก็พาผมเดินไปหาอ. วิมที่ห้องตรวจผู้ป่วยที่ชั้นเดียวกันปรึกษาหารือกัน ครู่หนึ่งก็ได้วันผ่าตัดคือ ๒ เมษายน ๒๕๕๖ อ. วิมจองห้องที่ฉก. ๕ ชั้นเดิมที่ผมเคยนอนโรงพยาบาล ได้ห้องทันทีและให้พยาบาลจัดการทำใบนัดผ่าตัดพาไปนัดห้องผ่าตัด เสร็จก่อน ๙.๓๐ น.
จะเห็นว่าผมกลายเป็นวีไอพีไปโดยปริยาย เมื่ออ.วิมมาพบตัว
เมื่อผมกลับมาที่ห้องตรวจตาตึกสยามินทร์ชั้นล่าง ผมก็กลายเป็นวีไอพี พยาบาลถามว่า อ. หมอโสมนัสตามไปตรวจที่โอพีดีพบกันไหม เมื่อไม่พบเขาก็บอกให้ไปรอที่ห้องหัวหน้าพยาบาล และโทรศัพท์ตาม อ. หมอโสมนัสกลับมา เขาบอกว่าอ. หมอโสมนัส มีนัดคนไข้ที่นี่อีก นั่งรอไม่นานพยาบาลก็มาตามไปตรวจ slit lamp กับอ. หมอโสมนัส โดยผมแจ้งว่านัดผ่าตัดต้อกระจกแล้วในวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๖ ท่านตรวจแล้วบอกว่าเรื่องจอตาของผมหมดปัญหาแล้ว ไม่มีการนัดต่อ
ท่านบอกว่าผ่าตัดต้อกระจกข้างขวาแล้ว ผมจะติดใจเพราะตาจะสว่างโล่งจนจะมาขอผ่าข้างซ้ายอีก ความหมายก็คือ ตาซ้ายของผมก็เป็นต้อกระจกพอจะผ่าตัดได้แล้วเหมือนกัน
วิจารณ์ พานิช
๒๔ ธ.ค. ๕๕
อ่านแล้วเห็นทั้ง มิติของภาพเหตุการณ์ เวลา สังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม เป็นตัวอย่างการเขียนเรื่องเล่า "ปัจจุบันขณะ" สำหรับผมครับ
ขอบคุณครับ
สำหรับผม...ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์ครับ จากศิษย์...online
หายเร็วๆนะคะ รออ่านตอนผ่าตัดและการดูแลหลังผ่าตัดด้วยค่ะ
อ. หมอโสมนัส ท่านคงพบคนไข้ที่ติดใจมาเยอะมากแน่ๆค่ะ เพราะคุณย่าของหลานๆก็ผ่าตัดตาเรื่องนี้ไปแล้วก็ติดใจ ขอทำอีกข้างเหมือนกันค่ะ ตอนท่านอายุ 70 กว่าๆ ตอนนี้ 85 แล้วรู้สึกว่า ตาคืออวัยวะที่"เด็ก"ที่สุดของท่านในตอนนี้ค่ะ เชื่อว่าสำหรับอาจารย์แล้วการผ่าตัดตาของอาจารย์จะยังประโยชน์ให้อาจารย์และพวกเรา"ลูกศิษย์ออนไลน์"ได้อีกอย่างมหาศาลเลยค่ะ
ขอให้อาจารย์สุขภาพดีค่ะ
ขอเรียนรู้ต้นแบบชีวิตที่ดี ผ่านงานเขียนของอาจารย์ค่ะ