การทำน้ำยาเอนกประสงค์ด้วยน้ำหมักผลไม้


ใช้ได้ทั้งล้างจาน ซักผ้า ขัดห้องน้ำ ล้างรถ ถูบ้าน ล้างเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ทำจากทั้งจากโลหะหรืออโลหะ ฯลฯ


หลังจากที่ได้เรียนรู้สูตรจากหลายๆที่ โดยเฉพาะจากศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเือื้อง และได้ลองทำใช้เองบ้างหลายชุดจนได้สูตรที่ง่ายและลงตัว  ถึงตอนนี้น่าจะเผยแพร่ได้อย่างมั่นใจแล้ว จึงนำมาแบ่งปันกันครับ ก่อนอื่นต้องโฆษณาก่อนว่าน้ำยาเอนกประสงค์ คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง ดีกว่าน้ำยาที่มีขายในท้องตลาดอย่างไร น้ำยาเอนกประสงค์เป็นน้ำยาทำความสะอาดที่ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ (น้ำหมักผลไม้) และสารเคมี (สารชำระล้าง N70, เกลือ-Sodium Chloride-NaCl, น้ำเปล่า-H2O) ใช้ได้ทั้งล้างจาน ซักผ้า ขัดห้องน้ำ ล้างรถ ถูบ้าน ล้างเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ทำจากทั้งจากโลหะหรืออโลหะ ฯลฯ ข้อดีก็คือค่อนข้างจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะมีจุลินทรีย์ชนิดดีจากน้ำหมักผลไม้รสเปรี้ยวเป็นตัวช่วยย่อยสลายและขจัดสิ่งสกปรกทั้งสารเคมี สีและกลิ่นที่เกิดจากจุลินทรีย์ชนิดที่ไม่ดี เช่น ถ้านำไปซักผ้า จะช่วยป้องกันเชื้อราได้ ขัดห้องน้ำก็จะช่วยกำจัดกลิ่นได้ น้ำที่เหลือจากการล้างจาน ซักผ้า ก็สามารถนำไปรดต้นไม้ ช่วยย่อยสลายสารอาหารในดินให้เป็นปุ๋ยต่อไปได้อีก นอกจากนี้ ต้นทุนการผลิตก็ถือว่าต่ำมาก สามารถทำใช้ได้เองอย่างง่ายๆ รวดเร็ว ต้นทุนเฉลี่ยไม่เกิน 10 บาท/ลิตร เอาละครับ หลังจากที่ได้รับทราบถึงสรรพคุณกันพอหอมปากหอมคอกันแล้ว ก็มาเริ่มทำกันเลยครับ โดยสูตรที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้เป็นสูตรแบบง่ายๆจำง่ายๆ คือสูตร 1:1:5:10 (N70 : เกลือ: น้ำหมัก : น้ำ)


เริ่มต้นจากการเตรียมวัสดุอุปกรณ์กันก่อนครับ

1. สารชำระล้าง N70         1   กิโลกรัม

2. เกลือป่น                         1   กิโลกรัม

3. น้ำหมักผลไม้รสเปรี้ยว  5    ลิตร

4. น้ำเปล่า                          10   ลิตร  (ถ้าเป็นน้ำประปาควรตั้งผึ่งอากาศไว้ให้คลอรีนระเหยออกไปก่อนอย่างน้อย 1 วัน เพราะคลอรีนเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อ อาจจะมีผลต่อจุลินทรย์ในน้ำหมักได้)

5. กะละมังก้นเรียบ (ถ้าเป็นกะละมังก้นไม่เรียบจะทำให้การคนไม่ทั่วถึง น้ำยากับเกลือจะไปติดอยู่ในร่อง)

6. ไม้พาย ถ้าหาไม่ได้ให้ใช้ไม้หรือทัพพีอะไรก็ได้



N70


สารชำระล้าง N70สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายสารเคมีทั่วไป ในกรุงเทพและปริมณฑลหาซื้อได้ที่ย่านคลองถม วัดตึก ถ้าเดินทางไม่สะดวก แนะนำให้ไปซื้อที่ร้านฮงฮวด ซึ่งมีหลายสาขา (รายละเอียดตาม Link นี้ http://www.honghuatshop.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539224056) ต่างจังหวัดหาซื้อได้ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ส่วนตัวผมเองใช้บริการที่ร้างฮงฮวดสาขารังสิต ห่างจากปากทางเข้าเมืองเอก (มหาวิทยาลัยรังสิต) ประมาณ 500 เมตร ด้วยราคา 84 บาท/Kg



เกลือป่น ราคา 8-10 บาท/Kg



น้ำหมักผลไม้รสเปรี้ยว


น้ำหมักผลไม้ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 1 เดือนขึ้นไป ผลไม้ที่นำมาทำน้ำหมักต้องเป็นผลไม้รสเปรี้ยว เช่น สับปะรด มะกรูด มะนาว มะเฟือง ตลิงปลิง ฯลฯ ตามความเหมาะสมของฤดูกาล ช่วงไหนราคาถูกหาซื้อง่ายให้ใช้ตามนั้น เช่น สับปะรดราคาจะถูกในช่วงเดือนพ.ค.-ส.ค. มะกรูด มะนาวราคาถูกในช่วงฤดูฝน เป็นต้น หรืออาจเป็นผลไม้อื่นๆ ที่ปลูกเองไม้ต้องซื้อหา สูตรทำน้ำหมักที่ผมใช้อยู่เป็นสูตร 3:1:5 (ผลไม้ : น้ำตาลทรายแดง :น้ำ) วิธีการทำน้ำหมักก็ไม่ยุ่งยาก เริ่มต้นจากการเตรียมละลายน้ำตาลทรายแดง 1 ส่วน กับน้ำเปล่าอีก 5 ส่วน (ถ้าเป็นน้ำประปาควรตั้งผึ่งอากาศไว้คลอรีนระเหยออกไปก่อนอย่างน้อย 1 วัน เพราะคลอรีนเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อ อาจจะมีผลต่อจุลินทรย์ในน้ำหมักได้) จากนั้นเตรียมผลไม้หั่นเป็นชิ้นๆ พอประมาณ (1-2 นิ้ว) ถ้าเป็นมะกรูด/มะนาวให้ผ่า 4 ซีก แต่ละซีกให้ผ่าแบ่งเป็น 2 ซีก ดังนั้น 1 ลูก ก็จะได้ 8 ซีก คัดเอาเมล็ดออก รวบรวมให้ได้ 3 ส่วน หลังจากที่เตรียมผลไม้และละลายน้ำตาลเสร็จแล้ว ให้นำผลไม้ใส่ลงในถังน้ำตาลที่ละลายด้วยน้ำแล้วปิดฝาให้สนิท (บางสูตรอาจจะคลุกน้ำตาลแล้วผึ่งทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วค่อยเอาลงถึง) หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 1 เดือนก็นำมาใช้ได้ สำหรับอายุของน้ำหมัก ยิ่งหมักนานคุณภาพยิ่งดี หมักข้ามปียิ่งดี น้ำหมักที่ผมใช้จะใช้ที่อายุประมาณ 3 เดือนขึ้นไป ประโยชน์ของน้ำหมักมีมากมายหลายประการ การทำน้ำยาเอนกประสงค์ก็เป็นส่วนหนึ่งของการนำน้ำหมักมาใช้ ถ้าสนใจในรายละเอียดของน้ำหมัก ให้เข้าไปดูที่นี้ได้ครับ http://www.gotoknow.org/posts/299097  หลังจากที่ทำน้ำหมักมีอายุได้กำหนดแล้ว ในเตรียมภาชนะใส่น้ำหมักไว้จำนวน 5 ลิตร โดยกรองเอาแต่น้ำแล้วตั้งทิ้งไว้ให้ตกตะกอน



หลังจากเตรียมวัสดุอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็เป็นวิธีการผสม/กวนน้ำยา ตามขั้นตอนดังนี้



1. กวน N70 จากสถานะเหลวสีใสให้ข้นกลายเป็นสีขาวขุ่น



2. หลังจาก N70 ถูกกวนให้ข้นเป็นสีขาวขุ่นแล้ว ใส่เกลือเข้าไปประมาณ 0.5 kg แล้วกวนให้เป็นเนื้อเดียวกัน



3. ค่อยๆ เติมน้ำหมักแล้วคน (เบาๆ) ให้เป็นเนื้อเดียวกัน



4. ค่อยๆ เติมน้ำเปล่าแล้วคน (เบาๆ) ให้เป็นเนื้อเดียวกัน



5. ค่อยๆ คน (เบาๆ) ไปทางเดียวกันให้ส่วนผสมทุกอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน



6. ค่อยๆ เติมน้ำและน้ำหมักทีละน้อย แล้วค่อยๆ คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน รักษาความหนืดไว้ ถ้าความหนืดลดลงให้เติมเกลือ



7. หลังจากที่เติมน้ำและน้ำหมักจนหมดแล้วให้คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน ค่อยๆ เติมเกลือรักษาความหนืดให้พอเหมาะ เมื่อได้ความหนืดพอเหมาะแล้วให้หยุดเติมเกลือทันที (ข้อควรระวัง ไม่ควรใส่เกลือมากเกินไป เพราะจะทำให้ความหนืดคืนตัว) หลังจากนั้นตั้งพักไว้อย่างน้อย 24 ชม. ให้ฟองยุบตัวแล้วกรอกใส่ขวดเพื่อนำไปใช้งานต่อไป


หมายเลขบันทึก: 516346เขียนเมื่อ 15 มกราคม 2013 13:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2013 10:46 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

น่าสนใจมากค่ะ   มีประโยชน์และประหยัดดีค่ะ

ขอบคุณจากใจ ที่แบ่งปันสิ่งดีๆ ค่ะ

เดี๋ยวนี้มีหัวเชื้อชีวภาพที่ใช้ทดแทนกากน้ำตาลและน้ำตาลทรายแดงแล้วนะครับสนใจใชระยะเวลาการหมักไม่นานครับ 5-7วัน สามารถนำน้ำหมักมาได้ใช้ประโยชน์ได้เลยครับ สนใจ  ติดต่อ โทร. 088-022-3518 หรือดูข้อมูลได้ที่ www.beztdmfarmming.blogspot.com

ถ้าทำนำ้หมักไม่ครบเดือนแล้วนำมาทำนำ้ยาเอนกประสงค์ทำไมถึงมีกลิ่นเหม็น

ขอบคุณจากใจจริงค่ะ คุณสอนละเอียดมาก และมีน้ำใจแบ่งปันจริงๆ

รบกวนสอบถามค่ะ ใส่เกลือลงไปเพื่ออะไรคะ

ทราบ อยู่ได้นาน ? จะเสียคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท