สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เป็นกลไกหนึ่งของการขับเคลื่อนกระบวนการนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วมที่จัดทำได้ผลดีน่าชื่นชมยิ่ง เป็นกระบวนการเอื้ออำนาจ (empower) ประชาชน และฝ่ายต่างๆ
เช้าวันที่๑๘ ธ.ค. ๕๕ ผมไปถึงศูนย์ประชุมไบเทคบางนาหลัง ๗ น. เล็กน้อย พอดีกับทางเจ้าหน้าที่ลงทะเบียนของงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติเริ่มทำงาน และให้บริการแก่ผมแบบวีไอพี เป็นคนแก่มีข้อดีตรงนี้
การประชุมสมััชชาสุขภาพแห่งชาติ ๔ ครั้ง ก่อนจัดที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ซึ่งมีปัญหาความเคร่งครัดด้านการรักษาความปลอดภัยของสถานที่ ทำให้ผู้ไปประชุมไม่ได้รับความสะดวกหลายอย่าง เปลี่ยนมาจัดที่ไบเทค สถานที่กว้างขวางขึ้นและสะดวกหลาย อย่างรวมทั้งเดินทางไปโดยรถไฟฟ้าบีทีเอสได้สะดวก
มีเวลาว่างก่อนเปิดการประชุมเวลา ๙.๐๐น. ผมเดินชมสถานที่และนิทรรศการไปปะคุณ "วอญ่าผู้เฒ่า" แห่ง Gotoknow จึงได้มีโอกาสไต่ถามทุกข์สุขกัน และทำความรู้จักกันมากขึ้น
ผมชื่นชมสช./สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ที่จัดให้มีรางวัลสมัชชาสุขภาพแห่งชาติมอบแก่จังหวัดพื้นที่ และกรณีที่มีการนำเครื่องมือ ๓ ชิ้น ในการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ (๑. ธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพ ๒. สมัชชาสุขภาพ ๓. เอ็ชไอเอภายใต้ทิศทางสร้างนำซ่อม) ไปใช้จนเกิดนโยบายสาธารณะด้านสุขภาพที่เข้มแข็งเป็นตัวอย่างได้
รางวัลนี้ได้แก่สมัชชาสุขภาพจังหวัดตรัง ธรรมนูญสุขภาพตำบลชะแล้ และเอชไอเอชุมชนกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินต. เขาหินซ้อนอ. พนมสารคามจ. ฉะเชิงเทรา
พิธีเปิดงานเริ่มด้วยการแสดงชุด "บ่มฝันเมล็ดพันธุ์แห่งรอยยิ้ม" ขับขานเพลง "ใบไม้ต้นเดียวกัน" โดยเด็กๆ และศิลปินวงยิ้มละไมได้อารมณ์ดีจริงๆ
ตามด้วยพิธีมอบรางวัลสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ
การกล่าวเปิดโดยประธานสมัชชาคือ ดร. ศิรินาปวโรฬารวิทยาและแนะนำคณะกรรมการ
ตามด้วยปาฐกถาพิเศษโดย ๓ ท่านคือดร. ปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี นส. แสงระวี ดาปะ เครือข่ายเด็กและเยาวชน จังหวัดเลย และนางทิฆัมพร กองสอน (อ. นาน้อยจ. น่าน) เครือข่ายแผนแม่บทชุมชน
ผู้แสดงปาฐกถาได้กินใจที่สุด คือเยาวชน ทำให้ผมได้ตระหนักปัญหาว่าเหมืองแร่ที่ จ. เลย ทำลายธรรมชาติแวดล้อมอย่างไร
รายการที่ ๕ ซึ่งเป็นรายการสุดท้ายของพิธีเปิด เป็นวิดีทัศน์ "การขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ"
หลังพิธีเปิด เป็นช่วงพักทำให้ได้พบปะพูดคุยกับผู้คนทำให้ผมได้ตระหนักความจริงว่า ผู้ใหญ่บางคนโกหกได้หน้าตาเฉยต่อหน้าคนจำนวนมาก โดยไม่รู้สึกละอายใจเลย
ช่วงสายการประชุม แยกห้องเป็น ๓ ห้องย่อย ผมไปเข้าห้องที่ ๒ ที่มี นพ. ศุภกิจเป็นประธานเพราะเรื่องที่ผมจะมาชี้แจงคือเรื่อง "การปฏิรูปการศึกษาวิชาชีพด้านสุขภาพให้สอดคล้องกับความจำเป็นด้านสุขภาพในบริบทสังคมไทย" ได้รับการบรรจุในวาระการประชุมของห้องนี้ิ
ประธานบอกว่า บรรจุวาระเรียงลำดับไว้แล้วเรื่องการปฏิรูปการศึกษาฯอยู่อันดับที่ ๔ เป็นอันดับสุดท้าย น่าจะเข้าสู่การพิจารณาในวันที่ ๑๙ ธ.ค. คนที่เตรียมมาให้ข้อมูลวาระนี้มี ๕ คนโดยผมเป็นชื่อแรก (เพราะแก่ที่สุด) ตัวหลักคือ ศ. นพ. ภิเศก ลุมพิกานนท์ และศ. พญ. วณิชา ชื่นกองแก้ว
ซึ่งเอาเข้าจริง ผมก็ไม่ได้อยู่ร่วมชี้แจงในที่ประชุม เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เข้าพิจารณาในวันที่ ๑๘ ซึ่งนับว่าดีเพราะช่วยให้ ศ. ภิเศกและ ศ. วณิชาและคณะ แสดงฝีมือเต็มที่ โดยผมแนะหลักการอย่างเดียวคือต้องการให้ภาคประชาสังคมเข้ามาร่วมตั้งคำถาม และมีส่วนร่วมกับการกำหนดนโยบายการศึกษาของวิชาชีพสุขภาพให้มากที่สุด
ผมออกจากที่ประชุมก่อน ๑๔ น. เล็กน้อย เดินทางไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อประชุมเรื่องการศึกษาของประเทศ ระหว่างทางหมอสุวิทย์โทรศัพท์มาบอกว่าศ. วณิชาไปออกรายการทีวีของชาวบ้านโดนถามว่าทีมเสนอเรื่องนี้ต้องการอะไร อ. วิมบอกว่าต้องการให้ประชาชนมาช่วยบอกว่าประชาชนต้องการอะไร ในเรื่องการผลิตและพัฒนาบุคลากรสุขภาพ หมอสุวิทย์บอกว่าคิดอย่างนี้สำเร็จไปกว่าครึ่งแล้ว
วิจารณ์พานิช
๒๔ ธ.ค. ๕๕
ทางเข้าบริเวณงาน
พื้นที่สมัชชาสุขภาพ อะวอร์ด
ธรรมนูญสุขภาพตำบลชะแล้ ได้รับรางวัล
ชักรูปร่วมกับคุณวอญ่า ผู้เฒ่า ผู้มีตำแหน่งศาสตราจารย์เปล ซึ่งอายุน้อกว่าผม ๑ รอบ
มุมแสดงบทบาทของชุมชนท้องถิ่น
พิธีเปิด
นักร้องในพิธีเปิด
นส. แสงระวี ดาปะ อายุ ๑๕ ปี เครือข่ายเด็กและเยาวชนจังหวัดเลย แสดงสุนทรพจน์
นางทิฆัมพร กองสอน เครือข่ายแผนแม่บทชุมชน จ. น่าน กล่าวสุนทรพจน์
เรียนอาจารย์หมอ วิจารณ์ ผมได้รับมอบหมายจากทางคณะทำงาน สมัชชาจังหวัดให้ติดตาม วาระที่ 4 ด้วย
งานนี้ได้พบหลายคนที่ห่างหายกันนานในเวที เช่น อาจารย์หนังบุญธรรม เทิดเกียรติชาติ ครูเอียด คุณ สาทร สมพงศ์ ครูใต้ร่มไม้ที่ป่าบอน ทุกห้องทุกเรื่องน่าติด ทำให้รักพี่เสียดายน้อง อจารย์ สมคิด ทองสง จากสมาคมครอบครัวเข้มแข็งพัทลุง ได้แสดงสุนทรพจน์
เข้าห้องนั้นไปห้องนี้ มาโผล่อีกทีที่ งานSHA ๆๆๆๆๆๆ
เสียดาย ไม่ได้ไปชมงานด้วยค่ะ