พรุ่งนี้อาจไม่มีเขา โดยพระไพศาล วิสาโล


พรุ่งนี้อาจไม่มีเขาและก็อาจไม่มีเรา

พรุ่งนี้อาจไม่มีเขา  โดยพระไพศาล วิสาโล

หลังจากที่ “หมวย” เรียนจบพยาบาลได้ไม่นาน ป้าก็ป่วยหนักและมารักษาตัวที่โรงพยาบาลของเธอ ป้าผู้นี้มีบุญคุณกับเธอมากเพราะได้ดูแลเธอแทนแม่จนเธอเรียนจบชั้นมัธยม หลังจากที่ย้ายไปเรียนจังหวัดอื่น เธอแทบไม่ได้พบหน้าป้าอีกเลยจนกระทั่งป้าล้มป่วย แต่ช่วงที่ป้ารักษาตัวที่ห้องไอซียูนั้น เธอมีเวลาไปเยี่ยมป้าน้อยมากเพราะงานรัดตัว ตั้งใจว่าวันเสาร์อาทิตย์จะไปเยี่ยมป้า แต่แล้วเพื่อน ๆ ก็ชวนเธอไปเที่ยวพัทยา เธออยากเล่นน้ำทะเลอยู่แล้ว จึงตัดสินใจไปเที่ยวกับเพื่อน คิดว่าเช้าวันจันทร์ไปเยี่ยมป้าก็ยังไม่สาย แต่พอเธอกลับถึงบ้านค่ำวันอาทิตย์ ก็ได้ข่าวว่าป้าเสียชีวิตแล้ว ผ่านมานับสิบปีแล้วเธอก็ยังรู้สึกผิดที่ไม่ได้ไปดูแลป้า ทั้ง ๆ ที่เป็นพยาบาลดูแลคนอื่นได้มากมาย แต่กลับไม่มีเวลาให้กับผู้มีพระคุณ

ตอนเรียนมัธยม “สมใจ” สนิทสนมกับ “ชัย”มาก แต่เมื่อเรียนจบทั้งสองก็แยกย้ายกันไปเรียนมหาวิทยาลัยคนละแห่ง มีช่วงหนึ่งที่ชัยโทรศัพท์มาคุยกับเธอแทบทุกคืน แต่ละครั้งคุยนานมาก คืนหนึ่งเธอรู้สึกเพลีย อยากพักผ่อน แต่ชัยก็ยังไม่เลิกคุย เธอรำคาญจึงพูดตัดบท แต่เขาก็ยังคุยต่อ เธอจึงต่อว่าเขาด้วยความโมโห แล้ววางหู วันรุ่งขึ้นขณะที่เธอกำลังเดินเข้าห้องเรียน แม่ของชัยก็โทรศัพท์มาบอกว่าชัยเสียชีวิตแล้วจากอุบัติเหตุรถยนต์หลังจากคุยกับเธอได้ไม่นาน เธอตกใจและรู้สึกเสียใจมากที่พูดไม่ดีกับชัยเมื่อคืน มันเป็นเสมือนบาดแผลในใจที่ยังอยู่จนทุกวันนี้

ทั้งหมวยและสมใจพูดตรงกันว่า หากรู้ว่าคนที่เธอรักจะต้องจากไปอย่างกะทันหันเช่นนั้น เธอจะไม่ทำอย่างที่ได้ทำไป หมวยจะใช้เวลาอยู่กับป้าให้นานที่สุดและอย่างดีที่สุด ส่วนสมใจก็จะพูดคุยกับชัยด้วยความใส่ใจและอย่างนุ่มนวล แต่ในโลกนี้มีใครบ้างที่สามารถรู้อนาคตล่วงหน้า

ความตายของคนที่เรารักมักจะมาอย่างไม่คาดฝัน มันพร้อมจะมาได้ทุกเวลา และไม่เลือกว่าจะเกิดกับผู้ใหญ่ก่อนเด็ก ใครที่มองข้ามความจริงข้อนี้ จะต้องพบกับความเสียใจอย่างสุดซึ้ง มิใช่เพียงเพราะคนรักจากไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเขาได้พลั้งเผลอทำสิ่งที่ไม่สมควร(หรือไม่ได้ทำสิ่งที่สมควร)กับผู้ที่จากไป โดยไม่มีโอกาสขอโทษหรือแก้ตัวได้เลย สิบปีอาจนานพอที่จะเยียวยาความเศร้าใจที่สูญเสียคนรักไป แต่ยากจะลบเลือนความรู้สึกผิดที่ได้ทำสิ่งไม่สมควรกับคนรัก

หากไม่อยากมีบาดแผลในใจ ก็ควรปฏิบัติต่อคนที่เรารักอย่างดีที่สุด อ่อนโยนและใส่ใจกับความรู้สึกของเขาให้มาก ๆ แต่ปัญหาก็คือยิ่งเราสนิทสนมคุ้นเคยกับใคร เราก็ยิ่งคำนึงถึงความรู้สึกของเขาน้อยลง และทำตามอารมณ์ของเรามากขึ้น (ตรงกันข้ามกับคนที่ไม่ค่อยคุ้นเคย เรามักจะสุภาพและนุ่มนวลกับเขามากกว่า) ผลก็คือเรามักจะลืมตัวทำสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควรกับเขา

ความลืมตัวเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ช่วยไม่ให้เผลอทำสิ่งที่ไม่สมควรกับคนที่เรารัก นั่นคือการเตือนใจตนเองเสมอว่าพรุ่งนี้เขากับเราอาจจะต้องพรากจากกัน วันนี้อาจเป็นวันสุดท้ายที่เขากับเราจะได้อยู่ด้วยกัน ขณะที่เขากำลังอยู่ต่อหน้าเราตอนนี้อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่เราจะได้ทำสิ่งดี ๆ ให้แก่เขา

การเตือนใจเช่นนี้จะกระตุ้นเตือนให้เราปฏิบัติต่อเขาอย่างนุ่มนวล ไม่ทำตามอำเภอใจ รับฟังและใส่ใจกับความรู้สึกของเขามากขึ้น เมื่อเราทำอย่างดีที่สุดกับเขา หากใครเกิดมีอันเป็นไปในวันข้างหน้า ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องรู้สึกผิดต่อกัน จะว่าไปแล้วการเตือนใจเช่นนี้ไม่ควรทำเฉพาะกับคนที่เรารักเท่านั้น แต่ควรทำกับทุกคนที่เรารู้จักหรือติดต่อสัมพันธ์ด้วย

คราวหนึ่ง “เขมานันทะ” ได้จาริกไปประเทศพม่า และได้รู้จักกับพระไทยใหญ่รูปหนึ่ง เมื่อไปถึงเจดีย์ชเวดากอง ท่านได้ชวนเขมานันทะถ่ายรูปคู่กัน แต่เขมานันทะนั้นไม่ชอบธรรมเนียมแบบนี้จึงเดินหนี แต่พระไทยใหญ่ขอร้องให้เขาไปถ่ายรูปด้วย คำพูดประโยคเดียวของท่านที่ทำให้เขมานันทะเปลี่ยนใจก็คือ “ชีวิตนี้เราอาจได้พบกันเพียงครั้งเดียว” เขมานันทะจึงยอมถ่ายรูปด้วย หลังจากเขมานันทะกลับมาเมืองไทยไม่นานก็มีจดหมายมาแจ้งข่าวว่า พระไทยใหญ่รูปนั้นมรณภาพแล้ว เขมานันทะเล่าในเวลาต่อมาว่าคำพูดประโยคนั้นสะเทือนอารมณ์ของตนมาก เพราะทำให้ได้คิดว่าคนเราเอาแต่แบ่งแยกเป็นเราเป็นเขา มัวแต่แก่งแย่งผลประโยชน์กัน จนลืมไปว่าคนที่อยู่ต่อหน้าเราอาจได้พบกันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

การปฏิบัติต่อผู้คนที่เข้ามาในชีวิตของเราราวกับว่าเขาอาจพลัดพรากจากเราไปในวันพรุ่งนี้ ไม่เพียงช่วยป้องกันมิให้เกิดบาดแผลในใจเราในวันข้างหน้าเท่านั้น หากยังช่วยสร้างสุขให้แก่เราในวันนี้ อันเป็นผลจากสัมพันธภาพที่ราบรื่นและงดงามทั้งกับคนใกล้และคนรอบตัว ยิ่งกว่านั้นมันยังทำให้ทุกวันที่คนรักยังอยู่กับเราเป็นวันที่มีความหมายยิ่งกว่าเดิม วันนี้จะกลายเป็นวันพิเศษ เพราะวันพรุ่งนี้อาจไม่มีเขาอยู่กับเราก็ได้

หญิงผู้หนึ่งเล่าว่า เพียงแค่ได้เห็นสามีและลูก ๆ ทุกคนพร้อมหน้าที่บ้าน เธอก็มีความสุขอย่างยิ่งแล้ว เพราะเธอไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้จะมีโอกาสแบบนี้อีกหรือไม่ สำหรับเธอ ไม่มีอะไรที่ทำให้มีความสุขเท่านี้อีกแล้ว

ความสุขนั้นไม่ได้อยู่ไกล และไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าให้เหนื่อยยาก เพราะแท้จริงความสุขนั้นมีอยู่กับเราในขณะนี้แล้ว นั่นคือการที่คนรักยังอยู่กับเรา และให้โอกาสแก่เราได้ทำความดีกับเขาอย่างเต็มที่ อย่ามองข้ามความสุขอย่างนี้ และอย่าปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือเราไป

.........


วันนี้มีโอกาสคุยกับคนที่ใกล้ชิดสนิทสามคน

พูดคุยกันโดยไม่ค่อยเข้าใจกัน

ต่างฝ่ายต่างไม่ค่อยมีเวลา


มาอ่านพบบทความนี้จึงถือโอกาสคัดลอกไว้ 

หากวันใดมีโอกาสคุยกันอีกจะพยายาม ฟัง ให้ดี 

ตั้งใจถอดรหัส ความเงียบ ความไม่อยากโต้ตอบ และรวมไปถึงคำพูดที่มีถึงกัน


อย่างสงบ ใจเย็น สมมุติว่าเราคือเขา

เพราะ


พรุ่งนี้อาจไม่มีเขาและก็อาจไม่มีเรา

หมายเลขบันทึก: 512705เขียนเมื่อ 19 ธันวาคม 2012 19:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 ธันวาคม 2014 11:39 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ขอบคุณมากครับอาจารย์สงบ และสบายจังครับ

 ค่ะ จะพยายามใจเย็นให้มากขึ้นอีกมากๆ  ขอบคุณมากนะคะ

พรุ่งนี้อาจไม่มีเขาและก็อาจไม่มีเรา

วันนี้มีเรื่องยุ่งยากใจซ่อนอยู่

เมื่อได้โทรคุยกับลูกชาย พ่อของลูก และเพื่อนที่ค่อนข้างใกล้ชิดสนิทกัน
ความรีบร้อนทำให้รีบคุย เกิดไม่ค่อยเข้าใจกัน 

จึงไม่วายครุ่นคิดคำนึงมาจนบัดนี้
ทั้งที่ ทุกเรื่องที่คุย ผ่าน ไปแล้ว
เราเองเปลี่ยนความคิดไปแล้วคนที่พูดด้วยก็คงลืมไปแล้ว
อยู่กับปัจจุบันกันดีกว่านะคะเอ้า หนึ่ง สอง สาม..
ยิ้ม ๆ ค่ะ




อ่านแล้ว ทำให้นึกถึงเพื่อนครูที่โรงเรียน ซึ่งมีอยู่ด้วยกันไม่กี่คน........

กลับมาเมืองไทยหรือยังครับ.....

 ขอบคุณค่ะ...(พรุ่งนี้อาจจะไม่มีเขา และอาจจะไม่มีเราเช่นกันนะคะ)

Ico48
ทิมดาบ
คนสงบ อ่านแล้วมีความสุข
คนไม่สงบ อ่านแล้วอาจพานทุกข์ไปอีกแบบ
ขอบคุณคุณทิมดาบค่ะ

Ico48 การพูดคุยกัน มีผู้พูดและผู้ฟัง บ่อยครั้งเราลืมตัว เป็นผู้พูด อย่างเดียว ไม่ยอมฟัง

กำลังฝึกตนไว้เรื่อย ๆ ว่า ฟัง และฟังอย่างจริงใจค่ะพี่กานดา

มาอ่านพบบทความนี้จึงถือโอกาสคัดลอกไว้ 

หากวันใดมีโอกาสคุยกันอีกจะพยายาม ฟัง ให้ดี 

ตั้งใจถอดรหัส ความเงียบ ความไม่อยากโต้ตอบ และรวมไปถึงคำพูดที่มีถึงกัน


;-)  วันนี้มีโอกาสได้เป็นผู้ฟังยาว..

วามรักที่บริสุทธิ์คือรักที่เปรียบเหมือนรักของมารดาคนหนึ่งมีให้บุตร นับแต่วันที่คลอดบุตร ให้นมบุตร จับมือสอนตั้งไข่  ยิ้มพยักเพยิดยามเด็กน้อยเล่นน้ำลาย ออกเสียงอ้อแอ้ หัดพูดจนพูดเป็น โตมาเริ่มเข้าเรียน คร่ำเคร่งกับการสอบจนจยการศึกษา แม่คือผู้แอบให้กำลังใจตลอดมา"

"จวบจนลูกน้อยมีการงานอันงดงาม มีครอบครัว จะสุขหรือทุกข์เพียงใด ประสบผลสำเร็จมากน้อยแค่ไหน"


"แม่ยังคงมีความรักอันประเสริฐ มอบให้และมีเตรียมให้ต่อไป ตราบจนชีพวาย.."

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท