พรสวรรค์


พรสวรรค์

  เขาว่ากันว่าคนบางคนเกิดมาเพื่อสิ่งหนึ่งสิ่งใด และแต่ละคนต่างก็ย่อมมีความสามารถที่ติดตัวกันมาตั้งแต่เกิดด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น  บางคนมีความสามารถทางด้านศิลปะ บางก็ทางดนตรี บางก็ทางการกีฬา บางก็ทางภาษา ฯลฯ  ที่แตกต่างกันไป ความรู้ความสามารถที่ติดตัวมานั้นหากได้รับการฝึกฝนจนกลายเป็นความเชี่ยวชาญไปเสียแล้ว เรามักจะเรียกคนพวกนี้ว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ เหตุที่เป็นเช่นนี้แล้วเพราะคนส่วนใหญ่มักคิดว่ามันคือความสามารถที่มีอยู่ จึงดูว่าโดดเด่นไปกว่าคนอื่น ๆ ทั่วไป ความสามารถพิเศษเหล่านี้จึงถูกเรียกว่าพรสวรรค์

เมื่อพรสวรรค์คือ ความสามารถพิเศษ หรือคุณสมบัติเด่นของ บุคคลที่มีมาแต่กำเนิดและหากได้รับการฝึกฝนจนเกิดเป็นทักษะที่มีความชำนาญเสียแล้ว ลักษณะโดดเด่นที่ว่านั้นจึงถูกมองว่าเป็นพรสวรรค์ที่อยู่ติดตัวเรามานั้นเอง ถ้าเราคิดว่าคนเก่งมีพรสวรรค์อาจเป็นเพราะเราไม่ได้สัมผัสกับเขาอย่างเพียงพอเราเลยไม่รู้ว่ากว่าที่เขาจะเก่งขึ้นมา เขาจะต้องทำอะไรบ้างและได้รับการฝึกฝนสักเพียงใดแต่เรากลับไปดูเมื่อเขาเก่งแล้ว เราก็เลยยกให้เป็นความดีของพรสรรค์ไปจริง ๆ

คุณลักษณะพิเศษพื้นฐานของคนเรานั้น คือ ความสามารถพิเศษในการเรียนรู้และฝึกฝนได้ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นสิ่งปกติธรรมดาที่ติดตัวเรามาเช่นกัน นั้นแหละคือ พรสวรรค์ของเรา ทุกคนเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่ติดตัวเรามาแต่เกิด เมื่อพรสวรรค์ที่มีติดตัวของคนเรานั้นได้มาจากความสามารถพิเศษในการเรียนรู้และฝึกฝนได้ แต่ละคนมีความรู้ความสามารถที่แตกต่างกันไปสำคัญที่ว่าพรสวรรค์ที่อยู่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิดนั้นมันคืออะไร แล้วเราจะค้นพบมันได้อย่างไรกับพรสวรรค์ที่ว่านั้น หลักการง่าย ๆ ในการค้นพบกับพรสวรรค์ที่เรามีนั้นก็คือ จงหาให้ได้ว่าเรามีความถนัดด้านไหนเป็นพิเศษ ที่ทำให้เราโดดเด่นกว่าสรรพสิ่งอื่นใด และเราสามารถทำมันได้ดีกว่าสิ่งอื่น ๆ ทั้งหมดที่ก่อเกิดขึ้นในตัวตนของเราเอง

ทุกคนเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ อยู่ที่ว่าเรารู้หรือเปล่าว่าพรสวรรค์ที่เรามีนั้นมันคืออะไร หลายคนกว่าจะค้นพบกับพรสวรรค์ของตัวเองว่ามันคืออะไร เพราะมัวแต่เดินหลงทางจึงไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วนั้นตัวเองมีพรสวรรค์ด้านไหน ที่เป็นแบบนี้เพราะคนส่วนใหญ่มักมองข้ามตัวเอง ลืมมองตัวเอง ลืมศึกษาตัวเอง ลืมใส่ใจตัวเอง จึงลืมที่จะหาสิ่งที่ดี ๆ ที่ติดตัวเรามานั้นเอง ลืมพรสวรรค์ของตัวเองที่อยู่ติดตัวเรามาก่อน น่าเสียดายมากนัก หากเราต้องเป็นอีกคนหนึ่งที่ค้นหาพรสวรรค์ของตัวเองไม่เจอนะคะ เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์

หลายคนอาจจะคิดว่า ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตนและมานะตนนี่เองที่ได้หมายถึงพรแสวง  คนพวกนี้มักจะให้ความสำคัญกับพรสวรรค์แค่ 1% และอีก 99% คือพรแสวงล้วน ๆ  ที่เป็นแบบนี้เพราะพวกเขาต่างก็ค้นหาพรสวรรค์ของตัวเองไม่เจอนั้นเอง จึงกลับคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่มีพรสวรรค์ ทั้ง ๆ ที่มี แต่กลับค้นหาไม่เจอและกลับไปทึกทักเข้าใจว่าทั้งหมดนั้นคือพรแสวง ครั้งหนึ่งฉันเองก็เคยเป็นแบบนี้มาก่อนที่จะค้นหาพรสวรรค์ของตัวเองไม่เจอ และกลับเข้าใจผิดคิดไปว่าทำไมเราถึงไม่มีความรู้มีความสามารถพิเศษที่โดดเด่นเช่นใคร ๆ เขา ทำไมเราถึงไม่เก่งแบบ  ใคร ๆ เขา

เมื่อเติบโตขึ้นมาหน่อยฉันจึงได้รับการเรียนรู้และฝึกฝนเกี่ยวกับทางด้านภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่นและการใช้ภาษามือ ในการฝึกฝนนั้นทำให้ฉันได้เกิดทักษะทางด้านการเรียนรู้และฝึกฝนจนเกิดความเชี่ยวชาญและชำนาญที่สามารถใช้ในการสื่อสารได้อย่างเข้าใจ ตอนนั้นฉันไม่รู้หรอกว่าตัวเองนั้นมีพรสวรรค์นอกจากพรแสวงที่ได้จากมานะตนล้วน ๆ เช่นกัน กว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองนั้นมีพรสวรรค์ก็ต่อเมื่อมีคนมาบอกมากล่าวว่า คุณเก่งคุณดีคุณมีพรสวรรค์นะที่สอบได้และมีความสามารถพิเศษเช่นนั้น หลายคนที่มาพูดแบบนี้กับฉัน และทำให้ฉันฉุกคิดขึ้นมาว่าจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อมันได้มาจากพรแสวงของฉัน เพราะคำบอกเล่าของผู้คนจำนวนมากมายที่ทำให้ฉันได้รู้จักกับพรสวรรค์ของตัวเอง กว่าจะรู้ว่ามีพรสวรรค์ก็ต้องได้รับการเรียนรู้และฝึกฝนนั้นเอง

ดังนั้นอย่าบอกตัวเองว่าเราเป็นคนไม่มีพรสวรรค์ใด ๆ อีกเลย เพราะทุกการเรียนรู้นำเราไปสู่คำว่า “พรสวรรค์ นั้นเอง พรสวรรค์ของเราทุกคนจึงอยู่ที่ความสามรถพิเศษในการเรียนรู้และการฝึกฝนนั้นเอง ลองอดทดให้มากขึ้นอีกนิดกับชีวิตตน พยายามฝึกฝนตัวเองให้มากขึ้นอีกหน่อย ฝึกให้การเรียนรู้นั้นกลายเป็นทักษะฝึกจนเกิดเป็นความชำนาญ หรือมีอารมณ์ขันให้มากเข้าไว้ในทุกสถานการณ์ นั้นแหละคือพรสวรรค์ของเราคนที่เรียนรู้ได้มากย่อมได้เปรียบกว่าคนอื่น ๆ อยู่เป็นเสมอ ชีวิตคนเราก็เหมือนกล่องของขวัญหนึ่งใบที่ได้รับพรมาแล้วจากสรวงสวรรค์ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าในกล่องใบนั้นมีอะไรถ้าเราไม่คิดที่จะเปิดกล่องดู

เมื่อชีวิตเราเป็นเช่นนี้แล้วทำไมเราถึงลืมมองดูตัวเองกันเล่า ทำไมเราถึงไม่มองดูพรสวรรค์ของเราที่ได้ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด พรสวรรค์ของเราคือความสามารถพิเศษในการเรียนรู้และการฝึกฝนได้นั้นเอง ทำไมเราไม่หยิบจับมันมาใช้ให้ก่อเกิดผลประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติสืบไป ทำไมเราถึงไม่เกาะกล่องของขวัญที่สวรรค์ให้เรามาเช่นกัน  ทุกคนมีกล่องของขวัญจากสรวงสวรรค์อยู่ในมือของตัวเองด้วยกันทุกคน หยุดความคิดที่ว่าเราเป็นคนที่ไม่มีพรสวรรค์นอกจากพรแสวงเปลี่ยนความคิดของพรแสวงที่มานะตนมากกว่าพรสวรรค์ได้แล้ว พรแสวงที่ว่ามานั้นมันคือส่วนหนึ่งของพรสวรรค์ที่เรามีนั้นเอง ท่ามกลางชีวิตที่เปลี่ยนแปลงตลอดกาลปัญหาและอุปสรรคของชีวิต ก่อเกิดการเรียนรู้ หากได้รับการฝึกฝนและเรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างเกิดทักษะและความชำนาญที่สามารถคลี่คลายปัญหาและอุปสรรคของชีวิตได้ นั้นแหละพรสวรรค์ของคนเรา

“Changeการเชจ ที่เปลี่ยนแปลงเท่านั้นที่จะทำให้เราค้นพบกับพรสวรรค์ของตัวเองได้ จงมองตัวเองให้ลึกซึ้งมองให้เห็นถึงพรสวรรค์ อย่ามองแค่เพียงเปลือกนอกที่เป็นแค่พรแสวง แต่ให้มองลึกลงไปถึงพรสวรรค์ เพราะนั้นคือความพิเศษของชีวิตจริง ๆ  เราจะรู้ได้อย่างไรว่าในกล่องของขวัญที่เราได้รับมาจากพ่อแม่ของเรานั้นคืออะไร ถ้าเราไม่เปิดกล่องของขวัญนั้นดูด้วยตัวเราเอง

 

หมายเลขบันทึก: 512234เขียนเมื่อ 16 ธันวาคม 2012 15:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 ธันวาคม 2012 15:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ครับ..คนเราเกิดมาแต่ละคนมีพรสวรรค์ไม่เหมือนกันครับ ขอบคุณครับ

ขอบคุณค่ะสำหรับแนวคิดดีๆ ตั้งใจมาอ่านเชจร์ นะคะ สนุกดี ชอบการเขียนแนวนี้มากนะคะพี่มณีเป็นกำลังใจให้นะคะ

มาอ่านบันทึกนี้แล้วรู้สึกดีจังครับ..ให้กำลังใจดี ขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆๆครับ

ทุกคนย่อมมีพรสวรรค์ที่แตกต่างกัน งั้นแสดงว่าน้องก็มีพรสวรรค์นะคะ (อิอิๆๆ)จะกลับไปหาให้เจอนะคะ จะได้ค้นพบตัวเองเสียทีนะคะ ขอบคุณแนวคิดดีๆๆนะคะ



  • เรารู้พรสวรรค์ตั้งแต่เด็กๆละนะ แต่ก็ใช้ความพยายามในการหานะ ขอไม่บอกละกันว่าเรามีความสามารถอะไร
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท