ผมได้สังเกตมาตลอดช่วง ๒๐ปีที่ผ่านมาว่าปัญหาสำคัญประการหนึ่งของการที่รถติดหนึบในกทม. (ซึ่งตอนนี้ระบาดไปยังหัวเมืองจำนวนมากแล้ว) คือ การที่รถออกจากไฟแดงช้ามาก
ผมเก็บสถิติได้ว่าถ้าเปิดไฟแดง ๓๐ วินาทีจะมีรถวิ่งออกได้ประมาณ 7 คันเท่านั้น เพราะรถ ๓-๔ คันแรกจะออกตัวช้ามาก อ้อยสร้อยกันอยู่นั่นแหละ ที่ออกตัวช้าก็เนื่องจากเห็นว่าตัวเองไปพ้นไฟนี้แน่ๆ ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบอะไร
โดยเฉลี่ยกว่ารถคันแรกจะออกตัวใช้เวลา ๓ วิ อีก ๓ วิ คันที่ ๒ อีก ๓ วิคันที่สาม ฯลฯ พอออกตัวได้แล้ว ก็อ้อยสร้อยอีกแล้ว ไม่รีบเร่งตัวออกไป ก็เลยได้ ๗ คันนี่แหละ
ถ้าเรามาปรับนิสัยกันใหม่ พอไฟเขียวขึ้น ให้ทุกคันออกตัวพร้อมกัน มันทำยากสักหน่อย แต่ถ้าฝึกให้เป็นนิสัยก็ทำได้ โดยเฉพาะวันนี้มีไฟเขียวแบบนับเวลาถอยหลังให้แล้ว พอใกล้เวลาก็เตรียมใส่เกียร์พร้อมออกทันที
พออกตัวแล้วให้คันหน้าและคันต่อๆมารีบเร่งตัวออกให้เร็วที่สุด ผมลองกำหนดว่า ให้ออกตัวด้วยความเร่งที่จะทำความเร็ว ๖๐ กม. ต่อ ชม. ในเวลา ๑๐ วินาที ถ้าทุกคันทำกันแบบนี้ จะสามารถผ่านรถได้ถึง ๖๙ คัน (สมมติว่ารถแต่ละคันใช้พื้นที่ถนนยาว ๖ เมตร)
นี่มันได้จำนวนตั้งเกือบ ๑๐ เท่ากว่าระบบอ้อยสร้อยเดิมๆ แต่เอาหละ คงมีคนชักช้าบ้าง ก็น่าจะได้ลดลงมาเหลือ ๘ เท่า ก็ยังดีนะ
รัฐบาลท้องถิ่น เช่น กทม. ควรออกมารณรงค์ ผ่านสื่อให้คนขับรถรู้วิธีกันให้หมด
แล้วถ้าเราเพิ่มวินัยจราจร ลดความเห็นแก่ตัว (โดยเฉพาะการแซงคิวตรงยูเทิร์น ซึ่งเป็นอีกสาเหตุสำคัญของปัญหารถติด) ใช้เทคโนโลยีให้ไฟเขียวมันเรียงคิวกันเปิดเป็นช่วงๆ ตามจังหวะ (หรือเรียกว่า timing ไฟ) มันก็เพิ่มอีก ๓ เท่าได้ไม่ยาก (รวมเป็น ๒๔ เท่า)
...คนถางทาง (๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๕)
โอ๊ยปวดหัว ขมอง พบ.คิดบ่ทัน อ่ะ
มีพาดพิง อ.ถางในบันทึกนี้ค่ะ http://www.gotoknow.org/blogs/posts/511585
ทุกวันนี้ในโคราช รถเยอะมากๆ แล้วแต่ละคนก็ขับรถเหมือนมือใหม่ เฮ้อ คงสนองนโยบายรถคันแรกค่ะ -- ถ้าจะออกตัวอย่างท่านอาจารย์เสนอ คงอีกนานอ่ะ