Flipped classroom คือการเรียนแบบพลิกกลับ โดยเปลี่ยนรูปแบบวิธีการสอนจากแบบเดิมที่ครูเป็นผู้สอนในห้องเรียน นักเรียนกลับไปทำการบ้านที่บ้าน เปลี่ยนเป็นนักเรียนเป็นผู้ค้นคว้าหาความรู้ ผ่านเทคโนโลยี ที่ครูจัดให้ก่อนเข้าชั้นเรียน และมาทำกิจกรรมโดยครูคอยให้คำแนะนำในชั้นเรียนแทน
Flipped Classroom เริ่มมีการนำมาใช้ในการเรียนการสอนเป็นครั้งแรก ในปี 2007 โดย โจนาธาน เบิร์กแมน และแอรอน แซมส์ ครูในรัฐโคโลราโด ได้ถ่ายวิดิโอ การสอนของตนเองไว้สำหรัยนักเรียนที่ขาดเรียน เมื่อคลิปการสอนแพร่กระจายออกไป ครูอีกหลายคนจึงเริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีต่างๆเช่น Podcasts หรือ You Tube เพื่อสอนนักเรียนนอกห้องเรียน และใช้เวลาในห้องเรียนสำหรับการทำแบบฝึกหัดหรือการรวมกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกัน สิ่งสำคัญของ Flipped Classroom ก็คือการใช้ "เทคโนโลยี" การเรียนการสอนที่ทันสมัย และนักเรียนมีโอกาสเรียนผ่าน"กิจกรรม" ซึ่งทั้งสองกระตุ้นให้เกิด สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ อย่างเต็มที่
ปัจจัยที่ทำให้ Flipped Classroom เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คือผลลัพธ์ที่ออกมาดีกว้าการสอนแบบเดิมโดยจากสถิติ ระบบการเรียนการสอนแบบเดิมที่ทำให้เด็กนักเรียนทั่วอเมริกันออกจากไฮสกูล ไปปีมากกว่า 1.3 ล้านคน และมีเพียง 69 % ของนักเรียนเท่านั้นที่จบการศึกษา
ไม่มีความเห็น