白天
Bai2Tian = ป๋าย-เทียน
เวลากลางวัน
เมื่อเรารู้จักคำว่า 白Bai2 = ป๋าย
แปลว่า สีขาว ไปแล้วนะครับ
白Bai2 = ป๋าย
นอกจากจะแปลว่า สีขาว แล้ว
白Bai2 = ป๋าย
ยังหมายถึง ความสว่าง กระจ่างใส
หรือ ความแจ้งในตอนกลางวัน
ก็ได้ครับ
การเขียนคำว่า白Bai2 = ป๋าย
จะเขียนคล้ายคำว่า 日Ri4 = ร(ยื้)อ แปลว่า พระอาทิตย์
แต่ว่า จะมีความกว้างมากกว่า ครับ
และตรงส่วนหัว จะมีขีดหนึ่งเส้น
ลากจากขวา-มาซ้าย
เดาความว่า...
เพราะสมัยจีนโบราณ ต้องใช้ที่ฝนหมึก
เมื่อจะเขียนหรือจาร อะไรก็ตาม
จะต้องกระดกพู่กัน ลงบนถ้วยฝนหมึก
จึงเป็นที่มาของคำว่า白Bai2 = ป๋าย
ที่แปลว่า สีขาว นั่นเองครับ
คำตรงกันข้ามกับ日Ri4 = ร(ยื้)อ แปลว่า พระอาทิตย์
ก็คือ 月Yue4 = เยว้ แปลว่า พระจันทร์
ดังนั้นคำตรงกันข้ามกับคำว่า白天Bai2Tian = ป๋าย-เทียน แปลว่า เวลากลางวัน
จึงกลายเป็นคำว่า 夜Ye4 = เย้ แปลว่า เวลากลางคืน
เดาความจากตัวอักษร夜Ye4 = เย้ แปลว่า เวลากลางคืน
ก็คือ คนจีนโบราณ ยามที่ออกนอกบ้านสำหรับเพศชาย
ก็มักจะต้องสวมหมวก จึงกลายเป็น “ส่วนบนสุด” ของคำว่า 夜Ye4 = เย้ แปลว่า เวลากลางคืน
ทำไมจึงต้องเป็นตัวกำกับหมวดของคน ซึ่งก็คือ ตัว 人(http://ctext.org/dictionary.pl?if=en&rad=9)
เพราะที่บอกว่า ส่วนมากจะเป็นเพศชาย ที่สวมหมวก ยามที่ออกนอกบ้าน
เมื่อสมัยก่อนยังไม่มีแสงไฟ สว่างเหมือนเดี๋ยวนี้
ผู้ชายที่หนีเที่ยว แล้วกลับดึก ๆ ดื่น ๆ
ก็อาจจะเดินโซซัดโซเซ
สะดุดขาตัวเอง
หรืออีกนัยหนึ่งก็ว่า..เมาสุรา จนมองเห็นพระจันทร์มีรูปร่างบิดเบี้ยวเหยเก
จึงทำให้ตัวอักษร “ส่วนล่างขวามือสุด” ที่อาจจะแผลงมาจากคำว่า月Yue4 = เยว้ แปลว่า พระจันทร์
เลยกลายเป็นเขียนในแบบที่แปลกตาไปนั่นเอง
ไม่มีความเห็น