วัดนิคมเขมาราม (เขาบ่มกล้วย)


วัดนิคมเขมาราม (วัดเขาบ่มกล้วย)

นายอานนท์ ภาคมาลี (หมอแดง)

  

                                         


ประวัติความเป็นมา เมื่อสมัยจอมพลป. (แปลก) พิบูลย์สงคราม เป็นผู้ริเริ่มจัดสร้างนิคมส้างตนเอง พระพุทธบาทสระบุรี ก่อนปีพุทธศักราช2500โดยจัดสรรที่ดินให้ราษฏรเป็นที่ทำกิน โดยตัดถนนและแบ่งที่ดินจัดสรร ครอบครัวละ 25 ไร่ โดยถนนยังเป็นดินอยู่ การคมนาคมยังไม่สะดวก โดยแต่ละครอบครัวใช้ทางเดินเป็นทางเท้าและใช้เกวียนเป็นพาหนะ เดินทางเข้าออก เข้ามาประกอบอาชีพทำไร่ ทำสวน เดิมเป็นตำบลธารเกษม ลักษณะเป็นพื้นที่ป่าดงดิบ นิคมสร้างตนเองพระพุทธบาท ใช้รถแทรกเตอร์ ปรับปรุงถนน และแบ่งแนวเขตให้กับราษฏร ไปเรื่อยๆทั้งเขตลพบุรีและสระบุรี ต้นปีพุทธศักราช 2500 มีพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อพระสุวรรณ คมทีโร ธุดงค์ผ่านมาทางถ้ำ ที่เป็นป่ารกชัฏ และได้ธุดงค์ขึ้นไปพักค้างแรมบนถ้ำ โดยไม่เกรงกลัวอันตรายใดจากสัตว์ร้ายต่างๆ เช่น เสือ ช้าง หมี และงูจงอาง งูเหา งูเหลื่อม งูหลาม และผีสาง นางไม้ ที่จะมาทำอันตราย ท่านมานั่งวิปสสันากรรมฐาน เวลาผ่านไปหลายวัน ชาวบ้านทราบข่าวว่ามีพระภิกษุมาพักในถ้ำและได้นำอาหารคาวหวานมาถวายท่านทุกวัน วันหนึ่งชาวบ้านบรรทุกกล้วยเต็มเกวียนเพื่อจะนำออกมาขายและแลกสินค้าที่ตลาดอำเภอพระพุธบาท พอดีถึงหน้าถ้ำเกวียนติดหล่ม ไม่สามรถเดินทางออกไปได้ ประกอบกับมีฝนตกหนักคาดว่าฝนจะตกหลายวัน จึงนำกล้วยมาไว้ในถ้ำเพื่อหลบฝนป้องกันไม่ให้กล้วยเน่าและเสีย ปรากฏว่ารุ่งเช้ากล้วยที่นำมาหลบฝนในถ้ำเกิดสุกหมด เป็นที่เล่ากันปากต่อปากในหมู่บ้านว่าถ้ำบ่มกล้วย

พระสุวรรณ คมทีโร จำพรรษาอยู่ในถ้ำบ่มกล้วยหลายพรรษา จนในวันที่ 19 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช2506 นายทอง พุทธศิลป์ เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างวัด และได้รับอนุญาตให้สร้างวัดขึ้น และนิมนต์พระสุวรรณ คัมที่โร มาเป็นเจ้าอาวาส แต่ท่านปฏิเสธในการรับตำแหน่ง และไปกราบเรียนเชิญพระอาจารย์บุญช่วยมาปกครองดูแล ตั้งแต่พุทธศักราช 2507 ถึงพุทธศักราช 2509 วันที่ 13 กันยายน 2509 กระทรวงศึกษาธิการประกาศตั้งเป็นวัด ตั้งชื่อว่านิคมเขมาราม(ชาวบ้านเรียกว่าวัดเขาบ่มกล้วย) เพราะอยู่ในพื้นที่ของนิคมสร้างตนเอง ในปีพุทธศักราช2510 พระครูสิริสรคุณ (พระอาจารย์เบ้) มารับแต่งตั้งมาเป็นเจ้าอาวาสวัดนิคมเขมาราม และดำเนินการที่จะสร้างพระอุโบสถ โดยอาศัยชาวบ้านในตอนเย็นและกลางคืนช่วยกันขนหินขนดินมาถมพื้นที่จะสร้างพระอุโบสถ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมากว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร ได้ผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2511 และลุงหอม (จำนามสกุลไม่ได้) สร้างเหรียญกลมรูปไข่ จำนวนสร้างจากการบอกเล่าน้อยมาก ประมาณ 100 เหรียญ สร้างหอสวดมนต์กว้าง 8 เมตร ยาว 14 เมตร สร้างด้วยคอนกรีตและไม้ ที่วัดนี้เคยมีโรงเรียนประถมศกษาของทางราชการตั้งอยู่ในเนื้อที่ 6 ไร่ มีพระภิกษุจำพรรษา 14 รูป

ในปีพุทธศักราช 2514 มีการออกเหรียญรูปไข่หลวงพ่อสุวรรณ คมทีโร บางท่านบอกว่าออกประมาณ 500 เหรียญ (ปัจจุบันเป็นที่ต้องการของนักสะสมพระเครื่องในพื้นที่)

ประมาณปีพุทธศักราช 2521 มีการแยกการปกครองจากตำบลธารเกษมมาเป็นตำบลพุคำจาน โดยมีทั้งหมด 9 หมู่บ้าน โดยกำนันเกลี้ยง อินทร์เปียม เป็นกำนัน และมีการก่อสร้างสถานีอนามัยตำบลพุคำจาน โดยนายอานนท์ ภาคมาลี  ได้รับคำสั่งให้มาปฏบัติงานที่สถานีอนามัยพุคำจานแห่งนี้เป็นคนแรกเมื่อ 1 ตุลาคม พุทธศักราช 2522 ข้าพเจ้าไปกราบไหว้หลวงพ่อสุวรรณ คมทีโรเป็นประจำ และฝากตัวเป็นลูกสิทธิ์ท่าน วันหนึ่งหลวงพ่อให้เด็กมาตาม บอกว่าท้องอืด ข้าพเจ้าไปหาหลวงพ่อสุวรรณ คมทีโร พร้อมจัดยาให้ และบอกให้ผมนั่งรอหน้ากุฏิ ประมาณสองชั่วโมง หลวงพ่อสุวรรณ คมทีโร บอกให้แบมือ พร้อมมอบเหรียญรูปไข่ปีพุทธศักราช 2514 ให้ ท่านบอกแคลัวคลาดปลอดภัย (ปัจจุบันนี้ข้าพเจ้านำไปชุบทอง) และปีในมหามงคล2525 มีการสร้างเหรียญและพระสมเด็จ และต่อมามีการสร้างรูปหล่อหลวงพ่ององค์เล็ก จำนวนสร้างน้อยมาก มีการสร้างรุ)หล่อพระสมเด็จพุฒาจารย์โต ไว้ที่ประตูเข้าวัด ตอนที่เอามา จะเอาเข้าไปประดิษฐ์ที่ฐานผมและอีกเพื่อนอีกสามคนบอกว่าเข้าไม่ได้ ข้าพเจ้าบอกว่าจุดธูปบอก ทุกอย่างเข้าได้และเคลื่อนย้ายได้ง่ายไม่ไปชนกับขอบประตู และมีการสร้างเหรียญหลวงพ่อสุวรรณกับอาจารย์เบ้หน้าหลังเหรียญเดียวกัน

วัดนิคมเขมาราม ตั้งอยู่ที่บ้านถ้ำบ่มกล้วย หมู่ที่ ๒ บ้านบ่อมะแฟน ตำบลพุคำจาน อำเภอพระพุทธบาท

จังหวัดสระบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๑๐ ไร่ ๑๖ ตารางวา น.ส. ๑ เลขที่ ๘

อาณาเขต ทิศเหนือยาว ๗๒ วา ๒ ศอก ติดต่อกับที่ธรรณีสงฆ์ ทิศใต้ยาว ๕๖ วา ติดต่อกับทางสาธารณะ

ทิศตะวันออกยาว ๖๕ วา ๒ ศอก ติดต่อกับภูเขาและทางสาธารณะทิศตะวันตกยาว ๕๖ วา ติดต่อกับที่ดินของเอกชนมีที่ธรณีสงฆ์จำนวน ๑ แปลง เนื้อที่ ๓๒ ไร่ ตั้งอยู่ท้องที่ตำบลธารเกษม

พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบสูงอยู่ติดกับเชิงภูเขา มีถนนสาย ๕ ซอย ๑ เป็นทางคมนาคม สะดวก อาคาร

เสนาสนะต่างๆ มี อุโบสถกว้าง ๖ เมตร ยาว ๑๖ เมตร สร้าง พ.ศ. ๒๕๑๘ โครงสร้างคอนกรีตเสริม

เหล็ก ศาลาการเปรียญกว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๒๔ เมตร สร้างด้วยคอนกรีต พ.ศ. ๒๕๑๗  เป็นอาคารไม้ ๒ ชั้น กุฏิสงฆ์ จำนวน ๑๗ หลัง เป็นอาคารไม้ และฌาปนสถาน

หลวงพ่อสุวรรณ คัมทีโรท่านมีวาจาสักดิ์สิทธิ์ ท่านจะไม่ว่าใครไม่ว่าใครจะทำอะไร มีผู้คนจำนวนมากมายมากราบนมัสการท่านไม่เคยขาดและยังนำบุตรหลานมาฝากให้อุปสมบท ท่านอยู่กุฏิหลังเล็กๆ แค่เสื่อกับหมอน ไม่รับตำแหน่งใดๆ เงินที่ชาวบ้านถวายมาท่านทำบุญให้วัดหมด ท่านอยู่อย่างสันโดษ สมรรถะ วันหนึ่ง นายสมาน อุดทาเรือน เมามาและมากวนหลวงพ่อ ข้าพเจ้าบอกนายสมาน อุดทาเรือนให้กลับบ้านอย่ากวนหลวงพ่อ โดยไม่เชื่อฟังข้าพเจ้า หลวงพ่อสุวรรณ คมทีโร ท่านคงรำคาญ บอกหมอแดงอย่าไปยุ่งกับมัน เดี๋ยวมันก็เป็นบ้าเอง พ่อตอนเช้านายสมานเป็นบ้า หัวเราะและร้องๆไห้ บางครั้งก็แก้ผ้า ข้าพเจ้าไปหาผู้ใหญ่ขาว อุดทาเรือน ที่เป็นบิดา บอกว่านายสมาน อุดทาเรือน ไปรบกวนหลวงพ่อ ท่านรำคาญ ขอให้ไปกราบขอโทษท่าน แต่ผู้ใหญ่ขาว อุดทาเรือนไม่เชื่อ ข้าพเจ้าบอกทุกครั้งที่เจอกัน ลูกเมียแยกทางกัน ไม่มีใครคบ ทำงานไม่ได้ จนหนึ่งปีผ่านไป จึงไปขอขมาลาโทษท่าน ท่านบอกว่าผ่านวันนี้ไปก็หาย และก็หายเป็นปกติจริงๆ

หมายเลขบันทึก: 510561เขียนเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2012 20:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 ธันวาคม 2012 03:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

มีเรื่องมากมายในพื้นที่ ที่เหลือเชื่อ หากไม่พบกับตัวเอง ก็ยากอธิบาย

ขอบคุณครับ น้ามาน , ลุงโก๊ะ ผมโตมา ก็เห็นว่าเมาแล้ว ตาขาว ยายเพียร อ่านอะไรแบบนี้ แล้วคิดถึงครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท