วันลอยกระทง...วันเสียสาว (18+น)


การที่ความรู้ที่ดีเหล่านี้ควรจะตกทอดไว้แก่ชนหมู่มาก จึงนับว่าเป็นการสมควรทีสุด

จริงหรือที่เขาว่ากันเช่นนั้น

ตามความเห็นของข้าพเจ้าเองนะครับ

จากที่รู้ ๆ มาว่า อิทธิพลของพระจันทร์ในลักษณะข้างขึ้นข้างแรมนั้น

มีผลต่อระดับฮอร์โมนเพศหญิงในเพศหญิงนะครับ

เหมือนกับระดับน้ำทะเล หรือแม่น้ำลำคลองก็คงจะอะไรเทือกนั้น

เพราะคนจีนมักจะเปรียบสตรีเพศ กับพระจันทร์ นั่นก็คือธาตุหยิน

ที่แปลว่า ความมืด ความแปรเปลี่ยน ความไม่มีรูปร่างแน่นอน

แต่ว่าในที่นี้ สรุปเอาเองว่า พระจันทร์เต็มดวงในคืนวันเพ็ญ โดยเฉพาะเดือน 12 นี้แหละ

ที่ส่งผลต่อระดับฮอร์โมนเพศหญิง

กล่าวคือ ผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์จะมีระดับฮอร์โมนเพศหญิงสูงที่สุดในรอบปี

นั่นก็จะส่งผลต่อความต้องการทางเพศสูงที่สุดในรอบปี นั่นเอง


ความเชื่อโบราณ นั้นเชื่อว่า

ระดับฮอร์โมนเพศหญิงสูงที่สุดในรอบปี

นอกจากจะทำให้มีความต้องการทางเพศสูงแล้ว

ยังทำให้ความงดงามในสตรีนั้น มีความโดดเด่นอย่างที่สุดของที่สุด

หากใครงามอยู่แล้ว ก็จะงามขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

และสตรีนางใด ต้องการจะได้ "ธิดา" ไว้สืบวงศ์ตระกูล

ก็จะถือเอาวันลอยกระทงนี้

เป็นวันส่งตัวเข้าหอที่ดีที่สุดได้วันหนึ่งเลย

(18+น) และการจะเป็นสาวสองพันปีได้นั้น

เธอจะต้องเป็นผู้ที่ควบคุมกามกิจด้วยตนเองตั้งแต่ต้นจนจบกามกิจนั้น

ขยายความคือว่า เธอจะต้องเป็นคนเล้าโลมฝ่ายชายให้มีความต้องการจนถึงขีดสุด

ขอใช้ความหยาบสักหน่อยก็คือ เธอจะต้องปรนนิบัติให้ฝ่ายชายรู้สึกว่า

เขากำลังเสพกามกับสุดยอดนางโลมแห่งยุค เลยก็ว่าได้

และเธอจะต้องสามารถควบคุมจังหวะจะโคลนในการถึงภาวะสุดยอดด้วยตัวของเธอเอง

ในตอนจบกามกิจนั้น

หากเธอต้องการจะได้ระดับฮอร์โมนของสาวสองพันปีเอาไว้ในกำมือ

เธอจะต้องอยู่ข้างบนเหนือร่างฝ่ายชาย

เพราะนั่นแสดงว่า เธอคือสุดยอดหญิงงาม

แล้วนั่นเอง


"ธิดา" ที่เกิดจากแม่ผู้งามพร้อมด้วยจริตจกร้านยามปฏิสนธินั้น

จะกลายเป็นสุดยอดหญิงงามต่อไปในภายภาคหน้า

กล่าวคือ งามทั้งรูปกายแลสติปัญญา


หากแม้นต้องการจะได้ "บุตรชาย" ไว้สืบวงศ์ตระกูล

ก็จะเลือกใช้ "วันมหาสงกรานต์"

ที่ถือว่าเป็นวันที่พระอาทิตย์ร้อนแรงที่สุด ตามปฏิทินจันทรคติ

แต่กรณีนี้ ฝ่ายชายจะต้องเป็นผู้ควบคุมกามกิจทั้งหมดเอง

ส่วนฝ่ายหญิงเป็นเพียงผู้สนองตอบก็เท่านั้น

จึงจะทำให้ได้ "บุตรชาย" ที่เข้มแข็งห้าวหาญประดุจขุนพลกล้า

แต่ถ้าหากผิดพลาดได้ "ธิดา" 

เธอก็จะงามงด แต่ก็จะแฝงไว้ด้วยความแกร่งแรงร้อนของพระอาทิตย์

ไว้ในตัวของเธอ


เพราะการจะได้บุตรธิดาแล้วแต่สวรรค์ประทานประการหนึ่ง

แต่ทุกสิ่งสามารถลิขิตได้หากเรารู้หลักแก้ไข

กล่าวคือ จะต้องนับวันตกไข่ในตัวแม่ว่าจะสุกที่สุดวันใด

หากไม่ตรงกับวันมหาสงกรานต์ก็อาจจะเกิดการผิดพลาดอย่างที่ว่าได้ครับ

และจำนวนวันในการปฏิบัติกามกิจเป็นประการสำคัญ

(หากปฏิบัติถี่ ๆ ก็จะได้ลูกสาว

ปกิบัติห่าง ๆ หรือวันเดียวที่นับเอาวันที่ไข่สุกที่สุด ก็จะได้ลูกชาย)

ทุกอย่างละเอียดอ่อนมาก ๆ เลยครับ

แพทย์หลวงของจีนจึงต้องเก่งทั้งเรื่องดาราศาสตร์และกายศาสตร์

จึงจะทำให้พระจักพรรดิทรงได้ "โอรสสวรรค์" มาจุติ


ตามคติโบราณประเพณีนั้น

ความรู้เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ 

หรือเรื่องบนเตียง

มักจะมีหลักการจำกัดอยู่ในวงของชนชั้นสูงเท่านั้น

อาจจะเป็นเพราะต้องการจะจำกัดอำนาจความเป็นผู้นำชนชาติเอาไว้แต่เพียงเหล่าตน


แต่หากเมื่อกาลสมัยแปรเปลี่ยน 

การที่ความรู้ที่ดีเหล่านี้ควรจะตกทอดไว้แก่ชนหมู่มาก

จึงนับว่าเป็นการสมควรทีสุด

เพราะชนชาติจักจำเริญวัฒนาสถาวรได้นั่น

ก็เนื่องด้วยชนในชาติมีความจำเริญทั้งกายแลจิตใจเป็นที่สุด

หมายเลขบันทึก: 510375เขียนเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2012 21:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ธันวาคม 2012 18:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณ Chef Loves ที่ของเก่ามาเล่า เป็นความรู้ใหม่ในการประกอบ "กามกิจกำหนดกติกาเพื่อบุตร ธิดา" ตามที่ต้องการ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท