ดอกไม้นั้นเบ่งบาน
อีกไม่นานคง "ร่วงโรย"
ความงามเพียงฉาบฉวย
แล้วแห้งโรยและร่วงไป
ดอกหนึ่งนั้นบานเบ่ง
"ไม่รีบเร่งและรีบร้อน"
เพียงแสงตะวันรอน
แล้วเอนนอนเบื้องธรณี
ดอกหนึ่งคนนับหน้า
ว่าปัญญา "ใสดั่งแก้ว"
เจียมตนที่ดีแล้ว
ก็นอบน้อมพร้อมวาจา
ดอกหนึ่งชอบอวดหน้า
ว่าปัญญา "ใสดั่งแก้ว"
ผิตัวว่าเลิศแล้ว
แต่แท้ขุ่นและมัวหมอง
เป็นความงามที่แฝงด้วยสิ่งต่างๆ กลอนเพราะมากค่ะ
เยี่ยมมากครับ ถือเป็นพัฒนาการอีกขั้นหนึ่งในการใช้รูปมาประกอบพร้อมบทกลอนอันมีความหมาย ;)...
แวะมาชมบทกลอนที่อ่อนหวานและมีความหมายค่ะ
สวัสดีค่ะ พ.แจ่มจำรัส ขอบคุณที่ช่วยให้ความหมายของ "ดอกไม้"
ในมุมมองที่สวยงามเสมอ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะ คุณครู Wasawat Deemarn แต่...หนูต้องพัฒนาอีกเยอะ และต้องการคำแนะนำจากคุณครูอีกเยอะเลยค่ะ : )
ขอบคุณ คุณ Bright Lily นะค่ะ ที่แวะมาให้กำลังใจ
ขอบคุณนะค่ะ : )
หากเปรียบคุณเป็นดอกไม้ สำหรับฉันแล้วคุณคือกุหลาบแสนสวย ที่มีความสวยงามมีประโยชน์ต่อผู้อื่น และมีหนามที่สามารถปกป้องตัวเองได้