หลายครั้งมักถามตนเองว่าเรากำลังเดินไปไหน
หลายครั้งก็มักได้คำตอบว่าเดินไปสู่ความเป็นคนธรรมดา
...........................................................................
นึกถึงหนังสือคลาสิกอย่างวอลเดน(Walden)
ธอโร(Henry David Thoreau)ผู้หาญกล้าละทิ้งความเป็นอยู่สบายในเมืองทุกอย่าง
ไปใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายท่ามกลางบึงหญ้าและป่าเขา
พึ่งพาตนเองอย่างเป็นอิสระ
ทำงานเพียงเพื่อให้ประทังชีวิตให้อยู่รอด
เอาเวลาที่เหลือเรียนรู้ธรรมชาติ อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ฝึกฝนตนเอง
ช่างเป็นชีวิตที่เป็นอิสระอย่างคนธรรมดายิ่งนัก
นึกถึงชาวอามิช(Amish) ที่ยังคงดำรงตนในวิถีดั้งเดิม
ยึดหลักคำสอนศาสนาไว้อย่างเหนียวแน่น
ผืนผ้าปักที่ดูเรียบง่ายไม่ต้องการลวดลายสีสันฉูดฉาด
ตุ๊กตาทำมือที่ไร้หน้า
เหมือนจะบ่งบอกว่าฉันไม่ต้องการหน้าตาทางสังคม
อยู่อย่างธรรมดาและเรียบง่าย
พึ่งพาตนเองเป็นหลักเช่นกัน
คุณศิริพร โชติชัชวาลย์กุล ผู้หญิงที่ทำงานเป็นข้าราชการในเมืองหลวงมีหน้ามีตาในสังคม
ไม่เคยใช้ชีวิตอยู่กับชนบทหรือแบบชาวสวนเลย
กลับสวนกระแสของสังคมลาออกจากราชการในวัยที่กำลังสาว
ไปเริ่มต้นใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายโดยไม่หวั่นเกรงอุปสรรคใดๆ
จนสามารถสร้าง “อาศรมวงศ์สนิท” ขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก
เพียงแค่ยอมละทิ้งทุกอย่างไว้
คุณโจน จันได บอกว่า “...ชีวิตมันเป็นเรื่องง่ายๆ แต่เราทำให้มันยากเอง และอันนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ผมได้เรียนรู้คือ ใช้เวลาไม่มากนักในการหากิน มันเหลือกินแล้ว...ทำไมต้องทำให้มันยาก..”
จริงด้วย ชีวิตมันมีแค่อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค
เพียงเพื่อให้เราอยู่รอดอยู่อย่างมีความหมาย
แต่ไม่ได้ให้เราอยู่อย่างสบาย
พอเราคิดว่าอยากอยู่สบาย
มันก็เลยไม่เคยพอและไม่เคยอยู่สบายสักที
ต้องไล่ตามกิเลสตนเองที่ยิ่งมียิ่งเพิ่มพูน
มันสะสมมาทีละนิดๆ จนเราไม่รู้ตัว
พอกพูนตัวตนให้หนาขึ้น
ยิ่งสูงยิ่งหนาวเหน็บจนยากที่จะละทิ้งอาภรณ์ห่มกาย
ยากที่จะกลับไปเป็นคนธรรมดา
สบายดีครับ เก็บตัวเข้าพรรษาครับ เกี่ยวกันไหมนี่
หายไปนาน คิดถึงทั้งพ่อ และน้องซอมพอมากครับ...สบายดีนะครับ