ขอบคุณคณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์และ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล


  • บทเรียนจากความจริง

    ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
  • บทความจากหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2555 ติดตามอ่านย้อนหลังได้ที่ลิงก์ข้างล่างนี้ครับ
          http://www.naewna.com/columnist/1104

ขอบคุณคณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์และ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล

ผมในฐานะที่เป็นอาจารย์เก่าคณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ขอชื่นชมในบทบาททางวิชาการที่ได้จัดงานประจำปี โดยเชิญ

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล มาแสดงความคิดเห็นและกล้าหาญที่วิจารณ์รัฐบาลชุดคุณยิ่งลักษณ์อย่างมีเหตุมีผลน่ารับฟัง
โดยเฉพาะได้เน้น 2 เรื่อง

รัฐบาลชุดนี้ขาดวินัยการเงินอย่างหนัก เน้นนโยบายประชานิยมอย่างไม่ลืมหูลืมตาโดยไม่มองว่าอนาคตการคลังของประเทศจะเป็นอย่างไรนั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

และที่สำคัญที่สุดก็คือ ได้เตือนสติรัฐบาลว่า นโยบายจำนำข้าวเป็นนโยบายที่อันตรายต่อการก่อหนี้สาธารณะในระยะยาวอย่างแน่นอน ปัจจุบันหนี้สาธารณะเพิ่มจากยุคคุณอภิสิทธิ์ซึ่งมี 40% ของ GDP ขึ้นมาเป็น 45% แล้ว ในขณะที่มีเสียงคัดค้านจากนักวิชาการทุกๆ สำนัก TDRI, NIDA แต่รัฐบาลก็เดินหน้านโยบายโดยไม่คำนึงถึงปัญหาระยะยาวของประเทศ จึงขอให้ผู้อ่านช่วยกันดูแลประเทศระยะยาวให้ได้ เพราะปัญหาความเสี่ยงไม่มีวินัยการคลังของประเทศจะมีมากขึ้นและอาจจะไปสู่ความหายนะได้

ปัญหาอีกเรื่องหนึ่งซึ่งจะมาแรงในปีนี้ คือ ภาวะภัยแล้งในการเพาะปลูกปีใหม่ เพราะรัฐบาลชุดนี้เน้นนโยบายเฉพาะหน้า
ในการป้องกันน้ำท่วมโดยไม่ดูถึงผลกระทบด้านภาวะภัยแล้งเลยซึ่งปัจจุบันภัยแล้งกำลังจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในทุกภาค

ผมได้ทราบมาจากแหล่งข่าวของกรมชลประทานว่าปีนี้ภัยแล้งจะกระทบการเพาะปลูกอย่างหนัก เพราะนโยบายการแก้ปัญหาน้ำท่วมส่งผลกระทบต่อภัยแล้งอย่างมหาศาล และเป็นอันตรายใหญ่หลวงต่อความเป็นอยู่ของคนจนหรือเกษตรกรมากกว่าปัญหาน้ำท่วมเสียอีกที่กระทบคนในเมืองมากกว่าจึงขอให้ผู้อ่านจับตาปัญหาภัยแล้งปีนี้ให้ดี

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ก็คือ ความพยายามของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ในการที่จะล้างแค้นคุณอภิสิทธิ์ โดยการถอดยศของคุณอภิสิทธิ์เพราะเรื่องหนีทหาร และวิธีการทำก็รีบร้อนผิดสังเกตไม่ให้โอกาสคุณอภิสิทธิ์ได้ชี้แจง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอับอายของรัฐบาลชุดนี้อย่างมาก-ผมขอให้กำลังใจคุณอภิสิทธิ์ และหวังว่าท่านผู้อ่านจะสนับสนุน ให้กำลังใจคุณอภิสิทธิ์เช่นกัน

วิธีการเล่นการเมืองสกปรกแบบนี้ เป็นวิธีการที่ลดแรงกดดันในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจจากฝ่ายค้านในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้

นอกจากนั้น ยังมีการขัดแย้งทางการเมืองเรื่องที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่สนับสนุนให้กรุงเทพมหานครได้รับการจัดสรรงบประมาณที่พอเพียงสำหรับสร้างสนามแข่งฟุตซอลโลก จน FIFA ไม่อนุมัติให้จัด ซึ่งเป็นการเล่นการเมืองเพื่อผลประโยชน์ระยะสั้นๆ

การเป็นรัฐบาลต้องมองผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ว่าเมื่อเป็นผลงานของพรรคฝ่ายค้านก็ต้องขัดขวางทุกๆ เรื่องรัฐบาลต้องดูแลความต่อเนื่องของนโยบายที่ผ่านมาด้วย อะไรที่เป็นนโยบายเดิมที่ดีก็ควรจะสานต่อ ผมจึงอยากให้กำลังใจ ท่านผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร (ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร) และอยากให้ท่านผู้อ่านใช้เหตุผลวิเคราะห์

ข่าวสุดท้ายที่สำคัญมากๆ ก็คือ เรื่องการกุข่าวลอบสังหารคุณทักษิณที่พม่า และในที่สุดคุณทักษิณก็ไม่เดินทางมาที่ท่าขี้เหล็ก ชายแดนพม่าแล้ว ซึ่งดูจากความเป็นจริงแล้วเป็นเรื่องที่สร้างขึ้นมาโดยไม่คิดว่าคนไทยส่วนมากจะจับโกหกได้ และการเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์ Wall Street ก็ย้ำแล้วว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

และน่าเศร้าที่สุด ก็คือ ระดับเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) (พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร) ออกมาเห็นด้วยกับข่าวดังกล่าวโดยเปลี่ยนใจภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง โดยไม่ได้วิเคราะห์ข่าวอย่างมืออาชีพ จึงถูกคุณถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ อดีตเลขาธิการ สมช. แนะนำให้ลาออกไปเล่นการเมือง ไม่ใช่เป็นข้าราชการประจำ แต่ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเฉพาะคุณทักษิณ

สุดท้าย เรื่องการเลือกตั้งในอเมริกา ผลออกมาว่าโอบามาได้ประมาณ 50 และรอมนีย์ได้ประมาณ 47 ซึ่งห่างกันไม่มากนัก แต่เมื่อดูคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้งที่ได้ โดยวัดจากรัฐต่างๆ ปรากฏว่าโอบามาชนะหมด เช่น

- Ohio

- Virginia

- Wisconsin

- Colorado

- และสุดท้ายที่ Florida โอบามาก็ยังนำอยู่

มีเหตุผลมากมาย แต่ผมคิดว่าเหตุผลที่สำคัญที่สุด คือ โอบามาใช้นโยบายบริหารมูลค่าเพิ่มจากความหลากหลาย (Value diversity) ได้ดีกว่ารอมนีย์

กล่าวคือ สังคมอเมริกาโครงสร้างผู้มีสิทธิเลือกตั้งในปี 2012 ซึ่งได้เปลี่ยนไปจากเดิมมาก

- เดิมจะเป็นผิวขาว และมีแนวคิดคล้ายๆ กัน คือ เห็นอเมริกายิ่งใหญ่ ต้องใช้ระบบตลาดนำ แต่ปัจจุบันประเทศอเมริกาเปลี่ยนไปมาก มีความหลากหลาย(Diversity) มากมาย เช่น คนที่เข้าเมืองมาอยู่ในอเมริกา เป็นคนเม็กซิโกเชื้อสายสเปนอยู่มากมาย โดยเฉพาะจากประเทศในอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ปัจจุบันมีสิทธิเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก

- มีคนเอเชียอาศัยอยู่มากขึ้น ขนาดมีคนไทย คือ คุณลัดดา แทมมี่ดักเวิร์ธ ได้รับเลือกเป็นสส.รัฐอิลลินอยส์เป็นผู้หญิงเชื้อสายไทยคนแรกที่ได้รับเลือกเข้ารัฐสภาสหรัฐ

- ผู้หญิงก็มองการเมืองแตกต่างกับผู้ชาย

- คนผิวดำก็ยังมีความคิดแตกต่างกับคนผิวขาว

- และสุดท้าย คนอายุน้อยๆที่เลือกตั้งครั้งแรก ก็มีความคิดเห็นไม่เหมือนคนที่มีอายุมากกว่า

กลุ่มเหล่านี้ คุณรอมนีย์ยังจับแนวไม่ได้ คิดว่าการเลือกตั้งในอเมริกาคงเป็นกลุ่มเดิม จึงเน้นเรื่องเศรษฐกิจและแก้ปัญหาการว่างงานก็คงพอ แต่ปรากฏว่าไม่พอ เพราะคุณรอมนีย์มีฐานเสียงที่แคบแต่แน่น ไม่ได้ขยายฐานเสียงที่มาจากความหลากหลายตามที่ผมได้กล่าวมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ในขณะที่คุณโอบามาใช้ประโยชน์เต็มที่จากความหลากหลาย

ดังนั้น 3V ของผมตัวสุดท้าย คือ Value Diversity ซึ่งช่วยคุณโอบามาได้มาก และไปสู่ชัยชนะในที่สุด

บทเรียนครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าการเมืองในประเทศไทยอย่างพรรคประชาธิปัตย์ก็เช่นกัน ต้องขยายฐานเสียงให้กว้างขึ้น เพิ่ม Value diversity มองไปที่กลุ่มต่างๆ ให้ครบโดยเฉพาะการเพิ่มฐานเสียงในภาคอีสานและภาคเหนือ มิฉะนั้นการเลือกตั้ง ครั้งหน้าก็ต้องแพ้อยู่ดี!!

ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ
[email protected]
www.gotoknow.org/blog/chiraacademy
แฟกซ์ 0-2273-0181

หมายเลขบันทึก: 508857เขียนเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2012 15:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 กันยายน 2013 21:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท