ผมได้ผ่านประสบการณ์ในการเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งในยุโรป อเมริกา เอเชีย รวมทั้งการเจรจาการค้า ทั้งซื้อทั้งขาย มีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว นอกจากนี้ยังได้พบกับผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์เหมือนกันทั้งที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลว ประกอบกับยังได้พบและทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมากมายทั้งภาครัฐ เช่น สถานทูต สถานกงสุลใหญ่ เป็นต้น สำหรับภาคเอกชน เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น กลุ่มซีพี กลุ่มเบทาโกร กลุ่ม SCG กลุ่มธนาคาร เป็นต้น กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กมากมาย ทั้งการท่องเที่ยว โรงแรม ขนส่ง โรงงานผลิตต่าง ๆ มากมาย จะเห็นได้ว่ามีหลายองค์กร หลายหน่วยงานที่เหมือนกันแต่ประสบความสำเร็จและล้มเหลวต่าง ๆ กันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยความพร้อมที่สำคัญดังต่อไปนี้คือ บุคลากร การเงิน อุตสาหกรรมที่ทำ กฎหมาย และผู้นำ โดยจะขอยกเป็นตัวอย่างให้เข้าใจได้โดยง่ายดังนี้
บุคลากร ต้องมีความพร้อมในด้านภาษาอังกฤษ หรือภาษาท้องถิ่น และต้องมีความพร้อมจะอยู่ที่ต่าง ๆ ประเทศ หรือเดินทางไปต่างประเทศด้วยตัวเองได้
การเงิน ด้วยประสบการณ์ที่ได้พบมาผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหาการเงิน และต้องอยู่ในสถานะการเงินที่ดี เช่น พร้อมนำเงินลงทุนทั้งก้อน หรือทั้งจำนวนของงบประมาณที่ต้องลงทุนรวมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างน้อย 1-2 ปี ของการลงทุนทั้งหมดมาใช้จ่ายได้ โดยไม่ใช่เงินกู้ เพราะว่าจะได้ไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจหลักและธุรกิจใหม่ที่จะลงทุน หรือทำการค้าระหว่างประเทศ
อุตสาหกรรมทีทำ หรือจะทำ ต้องมีความชำนาญและสอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่นั้น ๆ และควรจะมีอายุของธุรกิจในระยะยาวเท่านั้น การลงทุนในต่างถิ่นไม่ควรทำอะไรที่ไม่มีความชำนาญ และต้องมีผลตอบแทนในระดับที่คุ้มค่ามาก ๆ ด้วย
กฎหมาย การทำธุรกิจในต่างประทศต้องศึกษากฎหมายในประเทศนั้น ๆ ใหม่ ก่อนการตัดสินใจลงทุนทั้งในด้าน ภาษี ข้อจำกัดที่ต้องห้ามต่าง ๆ เป็นต้น
ผู้นำ ต้องมีความกล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ กล้าเสี่ยง และกล้าที่จะล้มเหลวแล้วไม่เดือดร้อน อย่าคิดเพียงเพื่อหาโอกาสใหม่ ๆ แต่ต้องมีความพร้อมถึงจะไปลงทุน ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วท่านจะพบว่า หนีเสือในไทย ไปปะจระเข้ที่ต่างประเทศ และการคาดหวังว่าจะมีโอกาสโชคดีไม่มีแล้วในปัจจุบัน
บันทึกดีมากครับ
ขอเพิ่มเติมคำสุดท้ายอีกหน่อยนะครับ การคาดหวังว่าจะมีโอกาสโชคดีไม่มีแล้วในปัจจุบัน ต้องฝีมือล้วน ๆ ครับ ธนพล