ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) พระองค์ได้ทรงนำพาราชอาณาจักรสยามให้พ้นภัยจากวิกฤตการณ์แห่งการตกเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตกในยุคแห่งการล่าอาณานิคม โดยการที่พระองค์ทรงปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าให้ทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ ในยุคนี้เองที่แนวคิดของรัฐสมัยใหม่ได้เกิดขึ้นบนแผ่นดินสยาม การรวมศูนย์อำนาจการปกครองมาสู่ส่วนกลาง ยกเลิกระบบเจ้าเมืองและจัดตั้งระบบราชการสมัยใหม่ และสิ่งหนึ่งที่พระองค์ได้ทรงทำและเป็นคุณูปการอันใหญ่หลวงต่อพสกนิกรชาวสยาม และนำมาซึ่งความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองจวบจนทุกวนนี้ก็คือ เรื่องของการยกเลิกระบบศักดินา และการเลิกทาส ดังจะเห็นได้จากพระบรมราชโองการพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ทรงดำริที่จะให้มีการยกเลิกระบบทาส เพราะว่าพระองค์ทรงต้องการที่จะปลดเปลื้องข้อผูกมัดความไม่เสมอภาคและความทุกข์ยากต่าง ๆ ของประชาชน และทรงเล็งเห็นว่าการมีทาสเป็นอุปสรรคหรือเครื่องกีดขวางความเจริญของการพัฒนาประเทศ อันนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคม ดังจะเห็นในชาติตะวันตกหลาย ๆ ประเทศ เช่น ประเทศฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกาที่เรื่องของการต่อสู้ของทาสเพื่อที่จะเป็นอิสระนั้นนำมาซึ่งความขัดแย้งและแตกแยกในสังคม
"ประเพณีทาสที่มีอยู่ในพระราชอาณาจักรสยาม ถึงเป็นวิธีทาสทำสารกรมธรรม์ ขายตัวด้วยใจสมัคร มิใช่ทาสเชลยที่เป็นการกดขี่อย่างร้ายแรงก็จริง แต่เป็นเครื่องกีดขวางทางเจริญ ประโยชน์และสุขสำราญ ของมหาชนอยู่อย่างหนึ่ง ซึ่งจำเป็นจะต้องเลิกถอน อย่าให้มีประเพณีทาสในพระราชอาณาจักรนี้ กรุงสยามจึงจะมีความสมบูรณ์เท่าทันประเทศอื่น"