๑๓๔. เหนื่อยไหม?


เหนื่อยไหม?

 

 

เหนื่อยไหม?

                  นับจากที่ผู้เขียนได้ปฏิบัติงานตั้งแต่เริ่มรับราชการ งานที่ทำส่วนใหญ่จะเป็นงานที่ต้องปฏิบัติเกี่ยวกับงานบุคคลเสียเป็นส่วนมาก เป็นอันทราบ ๆ กันว่า การทำงานเกี่ยวกับบุคคล จะเป็นเรื่องสิทธิประโยชน์ของคนในองค์กร ไม่ว่าเรื่องใด ๆ ลงท้าย ก็คือ ผลประโยชน์ของคนในองค์กรนั้น ๆ สุดท้ายก็มาลงว่า ใครมีหน้าที่ทำ?...(กองบริหารงานบุคคล)... ทำเพราะอะไร? (มีใครทราบบ้างว่า...เหตุที่ต้องทำเราทำเพราะหน้าที่ที่เราได้รับมอบหมาย)...บางครั้งการทำงานของเราเองก็ไปขัดเอาความรู้สึกของคนในองค์กร...มีใครทราบบ้างหรือไม่ว่า...การที่ไปขัดในความรู้สึกของเขานั้น เนื่องมาจากเหตุและผลหรือหลักการของการทำงาน...มีใครทราบบ้างไหมว่า...ในความเป็นจริงของตัวผู้เขียนเองนั้น ไม่ต้องการทำเพื่อให้ไปขัดกับความรู้สึกของใครหรอก...แต่ในบางเรื่อง ต้องว่ากันด้วยหลักเกณฑ์ หลักปฏิบัติที่ถูกต้อง เป็นกฎ กติกา ของสังคมหรือคนในองค์กร...

                  ถ้าถามความรู้สึกของผู้เขียนเองแล้ว...ไม่ต้องการที่จะทำอะไรแล้วไปขัดผลประโยชน์ใครนักหรอก แต่ทำเพราะมีเหตุ มีผล...จะมีใครบ้างที่ทราบถึงข้อนี้...มีคนถามผู้เขียนว่า "เหนื่อยไหม?...ท้อหรือไม่?" บางครั้งก็อยากตอบเขาไปว่า "เหนื่อยงานนะไม่ว่า แต่เหนื่อยใจนี่สิ ที่จะทำให้ท้อ"...แต่พอนึกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง นี่คือ...ปัญหาของการทำงานเลยเชียวล่ะ ขึ้นอยู่กับที่ว่า เราจะทนกับปัญหาและแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร? เพราะทั้งหลายทั้งปวง เป็นหน้าที่ตัวเราต้องปฏิบัติ เพราะเป็นหน้าที่ที่เราต้องรับผิดชอบ...ใช่ว่าความจริงแล้ว เราต้องการทำเสียเมื่อไหร่?...ถ้าเราไม่ทำ งานมันก็ไม่เกิด...แต่ถ้างานเกิดมันก็อาจไปขัดต่อความคิด ความรู้สึกของผู้อื่นได้ เพราะการทำงาน ความคิดของแต่ละคน เราจะไปห้ามไม่ให้มันเกิดนั้นคงเป็นไปไม่ได้...สุดท้าย มันก็จะมาลงที่ตรงตัวเรา ซึ่งเป็นฝ่ายที่ได้ปฏิบัติ...เขาจะรู้บ้างหรือไม่? ว่าตัวเราใช่อยากที่จะทำ แต่จำเป็นต้องทำเพราะหน้าที่ที่ได้มอบหมายให้ปฏิบัติ...

                       ผู้เขียนเคยบอกหลาย ๆ ท่านไปว่า "ตั้งแต่บัดนี้ไป ขอนับถอยหลังของอาชีพการรับราชการ" เพราะเหตุใดรึ จึงต้องบอกแบบนั้น...เพราะผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า วัน เวลา ในแต่ละวัน แต่ละเดือน แต่ละปี นั้นผ่านไปเร็วมาก เดี๋ยวเดียวเองผ่านไปแล้ว ๑ วัน ๑ เดือน ๑ ปี แล้วก็ ๑๐ ปี (ตามเป้าหมายที่ตัวเราได้บอกไว้)...สำหรับช่วงเวลาที่ยังเหลืออยู่ที่จะปฏิบัตินี้ ขอทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย + ขอทำความดีให้กับส่วนราชการให้มากที่สุด แม้จะไม่ได้ความดีตอบแทนในชาตินี้ ก็ขอให้ผลบุญ กุศลที่ตัวผู้เขียนเองได้ปฏิบัติ ติดตามเป็นผลบุญของตัวผู้เขียนเองไปถึงชาติหน้า ภพหน้า (ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะได้เกิดในชาติหน้า ภพหน้าอีกหรือไม่)...แต่คิดอยู่เสมอว่า คนเราในชาตินี้ที่เกิดมาเป็นมนุษย์ เหตุที่คนเรามีความแตกต่างกัน ไม่ว่า ทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ นั้น อยู่ที่ผลบุญ ผลกรรมที่ตนเองได้กระทำมาแล้ว นั่นเอง...เหตุที่คิดแบบนี้ อาจเป็นเพราะตัวเรานับถือศาสนาพุทธ ซึ่งพระพุทธเจ้า ทรงสอนในเรื่องของ "กฎแห่งกรรม" เอาไว้..."ทำดี ย่อมได้ดี...ทำชั่ว ก็ย่อมได้ชั่ว" เป็นธรรมดาของผู้ที่เกิดมาเป็นมนุษย์...

 

 

สิ่งหนึ่งในตอนนี้ ที่เป็นกำลังใจ + สู้ต่อปัญหาในการทำงาน นั่นคือ...เจ้าฟ้าคราม...

สาวน้อยกลอยใจของย่า...นั่นเอง...

 

 

ตอนนี้ เจ้าฟ้าคราม ถ้าถูกย่าถามว่า...ตาหวาน...ทำอย่างไร? เจ้าก็จะแสดงอาการให้เห็นดังภาพทันที ทำให้ย่าหายเหนื่อยจากงานไปได้สักระยะหนึ่ง...เรียกว่า...หนูเป็นเหมือนยาชูกำลังให้ย่าเลยทีเดียว...

 

หมายเลขบันทึก: 505972เขียนเมื่อ 17 ตุลาคม 2012 21:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม 2013 15:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • ขอบคุณค่ะ kunrapee Blank
  • เพลงไพเราะมากเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจด้วยนะคะ

เห็นหน้าแล้วน้องหายเหนื่อยเลยค่ะ

  • ขอบคุณที่มาเยี่ยมค่ะ น้อง tuknarak Blank
  • เดี๋ยวนี้ เจ้าฟ้าครามชอบทำท่าทางแปลก ๆ ขึ้นเรื่อย ๆ เลยค่ะ
  • พอย่าถามและบอกอะไรไป จะตอบ จ๊ะ ๆ ๆ อยู่เสมอค่ะ
  • ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจด้วยนะคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท