หลังจากที่ผมได้มีบันทึกเรื่อง "รถกับข้าว" กับวัฒนธรรม "ซื้ออยู่ ซื้อกิน" เมื่อเย็นวานนี้ ผมกับแม่ เราได้ร่วมกันทำ R2R เล็ก ๆ ขึ้นในบ้านระหว่างการทำกับข้าวเย็น ซึ่งเป็นอาหารมื้อที่ถือว่าสำคัญที่สุดในบ้านเล็ก ๆ ของเรา
บันทึกนี้ผมจึงขออนุญาตตั้งชื่อว่า Baby R2R ซึ่งเป็นการทำวิจัยเล็ก ๆ ของเรา แม่และลูก เปรียบเทียบระหว่างการซื้ออาหารถุง อาหารสำเร็จรูปจากร้านค้าหรือรถกับข้าว กับการประกอบอาหารด้วยแรงกายและแรงใจ
เปรียบเทียบถึงความแตกต่างทั้งในด้านกระบวนการ วิธีทำ รสชาด และสุดท้าย สิ่งที่ได้รับทั้งทางด้านรสสัมผัส กายสัมผัส และใจสัมผัส
คำว่า Baby นั้นไม่ได้หมายความว่า เด็ก ๆ, วิจัยเด็ก ๆ หรือว่าเด็ก ๆ ทำวิจัยนะครับ
คำ ๆ นี้ผมประยุกต์มาจาก ชื่อเสียงของเปียโนรุ่นหนึ่ง เป็นเปียโนในระดับกลาง ที่มีชื่อเรียกว่า "Baby Grand Piano"
ซึ่งถ้าจะแบ่งชั้นของเปียโนก็จะแบ่งได้เป็นสองชั้นหรือสองประเภทหลัก ๆ นั่นก็คือ Upright Piano กับ Grand Piano
ซึ่ง Upright ก็จะเป็นเปียโนที่มีการตั้งสายแนวตั้ง หรือเป็นเปียโนที่ส่วนใหญ่ใช้อยู่ในบ้านหรือในโรงเรียนดนตรีทั่วไป ดังเช่นในรูปนี้ครับ
ส่วน Grand Piano นั้น จะเป็นเปียโนขนาดใหญ่ที่มีการตั้งสายแนวนอน ซึ่งเราจะได้เห็นตามคอนเสิร์ต หรือตามโรงแรมใหญ่ ๆ
(รูปภาพจาก www.howardkanovitz.com/1180s.htm)
คราวนี้ Baby Grand ก็เป็นเปียโนที่มีคุณสมบัติเหมือน Grand Piano โดยทั่วไป แต่ย่อขนาดลงมาเพื่อสะดวกต่อการขนย้าย ประหยัดพื้นที่ และราคาต่ำกว่า Grand Piano ซึ่งทำให้ผู้ซื้อนั้นสามารถหาซื้อได้ง่ายกว่า และที่สำคัญที่สุด เสียงและลิ่มนิ้วจะมีสัมผัสที่ดีคล้ายคลึง Grand Piano
Baby Grand จึงเป็นเปียโนที่สร้างแทรกขึ้นมาให้มีคุณสมบัติเหมือน Grand แต่ราคาอยู่ในระดับ Upright รุ่นบน
(รูปภาพจาก www.minister-music.com/)
ดังนั้น Baby R2R จึงเปรียบเสมือนกับการทำวิจัยในแบบฉบับที่ง่าย ๆ แต่ทรงคุณค่า ประหยัดเวลา ใช้พื้นที่ที่เป็นประโยชน์ แต่คุณสมบัติที่ Baby Grand Piano ทรงคุณค่าเทียบเท่าหรือไม่แพ้กับ Grand Piano ไม่แพ้กับการทำวิจัย 5 บทและวิจัยชุมชน โดยถ้ามองถึงประโยชน์โดยภาพรวมหรือระยะยาวเมื่อเทียบกับต้นทุนและสิ่งที่ได้รับโดยตรงรวมถึงโดยอ้อมแล้ว อาจจะได้ประโยชน์มากกว่าวิจัยแบบ Grand เลยทีเดียว
โดยเรื่องแรกที่ผมจะขออนุญาตนำเสนอนั้น ได้แก่เรื่องของ "แกงเขียวหวาน" อาหารที่อยู่คู่กับเมืองไทยมานานแสนนาน
เป็นอาหารที่ในแทบทุกแผงขายอาหาร หรือร้านขายข้าวแกงจะต้องมีติดหม้อหรือติดร้าน เฉกเช่นเดียวกับ "ผัดกระเพรา" ของร้านขายอาหารตามสั่งเลยทีเดียว
รายละเอียดของที่มาและที่ไปจนกว่าจะได้มาเป็น "แกงเขียวหวาน" ฉบับปรุงเองตั้งแต่ต้นจนจบ เมื่อเปรียบเทียบกับ "แกงเขียวหวาน" ฉบับแกงถุง จะเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
โปรดติดตามได้ในบันทึกแรกกับเรื่องของ "กะทิ" ครับ