กำแพงภาษา


จุดนี้เองที่บอกว่า ถึงแม้พวกเขาจะเป็นคนฝรั่งแต่ก็หาได้เชี่ยวชาญภาษาสากลเช่นอังกฤษประเทศต้นตำหรับไม่

 

เมื่อวานมีสองสามีภรรยาคนไทย ชักชวนให้เราไปท่องเที่ยวที่บ้านเกิดของพวกเขา พร้อมกับชาวต่างชาติ สองคน อายุประมาณ 24-25 ปี

พวกเขามาทำปริญญานิพนธ์ในเมืองไทยประมาณครึ่งปี

พี่ทั้งสองคนไหว้วานให้เราช่วยเป็น “ล่าม” จำเป็น ให้สักหน่อย ด้วยความที่อยากจะฝึกวิทยายุทธทางด้านภาษา จึงตอบตกลงไปอย่างทันควัน

ขอเท้าความสักหน่อยว่า เด็กต่างชาติทั้งสองนายเป็นชาวยุโรป แต่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็น “ภาษาแม่” จึงทำให้การสื่อสารระหว่างข้าพเจ้ากับทั้งสองเป็นได้อย่างเชื่องช้า

จุดนี้เองที่บอกว่า ถึงแม้พวกเขาจะเป็นคนฝรั่งแต่ก็หาได้เชี่ยวชาญภาษาสากลเช่นอังกฤษประเทศต้นตำหรับไม่

ข้าพเจ้าจึงบอกให้ทั้งสองคน พูดให้ช้าลง เพราะพวกเขาติดสำเนียงรัวลิ้นตามภาษาแห่งตน

 

การท่องเที่ยวก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคาดเพราะอากาศค่อนข้างร้อนแรง เกือบตลอดทั้งวัน จึงทำให้เด็กทั้งสองต้องทาครีมกันแดดอยู่ตลอด มีอยู่คำหนึ่งที่ข้าพเจ้าไม่เคยใช้ ก็คือคำว่า “แสบผิว” จึงไม่สามารถสื่อสารได้อย่างที่ต้องการจะพูดออกไป

ตามความเห็นของข้าพเจ้า มองว่า การจะนำพาผู้คนที่ยังไม่ถึงแก่วัยที่จะเข้าใจสภาพการณ์ต่าง ๆ ได้ดีไปท่องเที่ยวในสถานที่ในประเทศไทยนี้ไม่เป็นการเอื้ออำนวยทั้งความสะดวกของบางสถานที่ เช่นที่ข้าพเจ้าไปมา ไม่ได้มีการพัฒนาให้น่าท่องเที่ยวแม้แต่น้อย ทั้ง ๆ ที่มีเจ้าหน้าที่ของอุทยานอยู่หลายคน

จึงอยากจะวิงวอนให้เจ้าหน้าการท่องเที่ยวทั้งหลายได้ช่วยกันพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของไทยให้มีความสะอาดและปลอดภัยมากกว่านี้

เพราะชาวต่างชาติเขาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเขาก็พากันขยาดไม่กล้าจะมาท่องเที่ยวอย่างเบิกบานสำราญใจได้เลย จริง ๆ นะ

โดยเฉพาะอุทยานที่เป็น “น้ำตก” ควรได้รับการพัฒนาให้เกิดความปลอดภัยเป็นอันดับต้น ๆ

 

ข้อควรระวังในการนำพาชาวต่างชาติที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรือยังไม่มีความเป็นผู้ใหญ่มากพอ ไปด้วยกันนั้น ก็ไม่ควรส่งเสริมให้ดื่มของมึนเมา เพราะเมื่อเกิดอาการเมามึนมาแล้ว จะยากแก่การสื่อสารเป็นที่สุด

 

ดังที่เกิดเหตุกับข้าพเจ้าเมื่อวานนี้

พวกเขาไม่พอใจที่พี่คนขับรถของเราขับไม่ตรงตามเลนของถนน ก็ทำให้พวกเขาไม่พอใจ ถึงขั้นจะลงเสียกลางทางในเวลาค่ำคืนมากแล้ว ทำให้ข้าพเจ้าเสียขวัญว่าจะเลยเถิดกลายเป็นปัญหาใหญ่โตกับคนที่พาไปทั้งหมด

จากข้อสังเกตถึงเรื่องการขับขี่ให้ตรงในเส้นทางของตน ของคนไทยกับชาวต่างชาติ ค่อนข้างละเอียดอ่อน ทั้งที่ข้าพเจ้าพยายามบอกว่า ตามลักษณะของผู้ขับขี่ในเมืองไทย ก็ไม่ใช่ความผิดถ้าหากอยู่ในวิจารณญาณที่ว่า อาจจะไม่มีรถราสวนมาใน "อีกเลนหนึ่ง" ก็สามารถขับขี่คร่อมเลนได้

แต่ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่พี่คนขับหักหลบรถที่สวนทางมา ยังความตกใจให้กับเด็กทั้งสองเป็นอันมาก

จนถึงขั้นที่ว่า มีความประสงค์จะลงเสียกลางทางในบริเวณที่เป็น “ป่าเขา” เสียให้ได้สิ

 

บทสรุปตามความคิดเห็นของข้าพเจ้า ก็คือ การดื่มวัตถุมึนเมานำมาซึ่งปัญหาที่คาดไม่ถึง ทั้งเล็กหรือใหญ่ก็ตามที

เป็นข้อเตือนใจให้คนไทยที่คิดจะมีเพื่อนชาวต่างชาติต่างภาษา ในเวลาอันสั้น และพวกเขายังอาจจะเรียกได้ว่า เป็น “เยาวชน” ที่มีความคิดเป็นของตนเองตามอย่างวัฒนธรรมแห่งตน ก็ย่อมต้องเข้าใจสภาพการณ์ต่าง ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อความปลอดภัยของเราเองและเพื่อนชาวต่างชาติที่จะยิ่งเข้ามาในประชาอาเซียนแห่งนี้

เตรียมอกเตรียมใจเอาไว้ให้ดีเถิด ข้อสำคัญคือว่า ภาษาของคุณแน่นพอหรือยัง หวังว่าคงจะไม่ใช่ความรู้เท่าหางอึ่งแต่ยังอยากจะมีหน้าไปแบกรับภาระเท่าภูผา นะจะบอกให้ 555

 

ปล. ขอเตือนอีกอย่างว่า ชาวต่างชาติมองว่าเราล้าหลังจากพวกเขาไปหลายขุมนะครับ พวกเขามีสายตาดูถูกอยู่ในทีนะ แม้ว่าพวกเขาจะยังเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่

ขอโทษหากต้องใช้คำพูดที่แรงจนเสียดแทงใครบางคนจนเกินงาม ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

คำสำคัญ (Tags): #กำแพง#ภาษา#สเปน
หมายเลขบันทึก: 505622เขียนเมื่อ 14 ตุลาคม 2012 20:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม 2012 20:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท