หน้าแรก
สมาชิก
วิทยา
สมุด
ส่วนผสมของความรัก...
เผยแพร่ผลงานวิชาการ
วิทยา
วิทยา วิทยา วรพันธุ์
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
เผยแพร่ผลงานวิชาการ
ชื่อเรื่อง
รายงานการพัฒนาการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์
เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนามนราษฎร์สงเคราะห์
อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์
ผู้ศึกษา
นางดลนภา วรพันธุ์
ตำแหน่ง
ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
หน่วยงาน
โรงเรียนนามนราษฎร์สงเคราะห์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์
เขต 3
ปีที่ศึกษา
2554
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐาน
เรื่องการหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง การหาร
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ
เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง การหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง การหาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3ก ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554
โรงเรียนนามนราษฎร์สงเคราะห์ อำเภอนามน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 จำนวน 24 คน ได้มาโดยวิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มี 4 ชนิด คือ แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องการหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 18 แผน ทำการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ แผนละ 1 ชั่วโมง จำนวน 18 ชั่วโมง แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่องการหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 9 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.20 ถึง 0.80 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.87 และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่องการหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมติฐานใช้ t - test
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
มีประสิทธิภาพเท่ากับ 87.22/83.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เท่ากับ 0.7368 หมายความว่า นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะที่ผู้ศึกษาค้นคว้าพัฒนาขึ้นมีความรู้เพิ่มขึ้นคิดเป็น
ร้อยละ 73.68
4. นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมาก
โดยสรุปพบว่าแบบฝึกเสริมทักษะเรื่องการหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาควรให้ความสนใจในการจัดอบรมเพื่อเผยแพร่ความรู้ในการสร้างแบบฝึกเสริมทักษะที่มีประสิทธิภาพ ควรมีการศึกษาตัวแปรต่างๆ ที่มี ผลการเรียนของนักเรียนหลังจากเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร เช่น ความสนใจ เจตคติ ความคงทนในการเรียนรู้ ฯลฯ และควรมีการสร้างแบบฝึกเสริมทักษะในเนื้อหาเรื่องอื่นๆ และในระดับชั้นต่างๆ ต่อไป
เขียนใน
GotoKnow
โดย
วิทยา
ใน
ส่วนผสมของความรักในจิตมนุษย์
คำสำคัญ (Tags):
#ผลงาน
#ผลงานวิชาการ
หมายเลขบันทึก: 505294
เขียนเมื่อ 12 ตุลาคม 2012 01:55 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 12 ตุลาคม 2012 01:55 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
วิทยา
สมุด
ส่วนผสมของความรัก...
เผยแพร่ผลงานวิชาการ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท