* เรื่องนี้แม้จะเกิดขึ้นมานานแล้ว บางคนยังไม่มีโอกาสได้ตามอ่านกัน..เพราะยังมีเรื่องอื่นต้องทำก่อน แต่ถ้าเข้ามาอ่านในบล็อกนี้จะเป็นการเดินเรื่องรวดเดียวเลยครับ. ตั้งแต่เริ่มทำการ จนจบ.เพราะโดนจับ. นั่นสิครับรู้ก็รู้..แล้วพวกพี่ยังจะด้านหน้ามาปล้นกันอีกทำไม ?
ผมทำแบบนี้ครับ. - ระหว่างทำแผนประกอบฯ
เหตุเกิดเมื่อวันที่ ๑๗ ก.ย. และได้มีการสืบสวนจนทราบว่า..ผู้ก่อเหตุดังกล่าวคือ นายโกศล ไม่ทราบนามสกุล. ชาวมอญ กับนายเมฆ เพื่อนร่วมสัญชาติ.โดยตำรวจภูเก็ตได้ประสานกับตำรวจในพื้นที่ต่าง ๆ จนนำไปสู่การจับกุมนางมูซา เมียของนายโกศล. พร้อมของกลางทองคำรูปพรรณ ๗๘ บาท ซึ่งให้การกับเจ้าหน้าที่ว่านายโกศลยังหลบหนีอยู่ในภูเก็ต เจ้าหน้าที่จึงได้ระดมกำลังกันค้นหา และปิดล้อมพื้นที่บริเวณน้ำตกกะทู้ และหมู่บ้านสิงห์ทองธานี อ.กะทู้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับแจ้งว่านายโกศลหลบซ่อนตัวอยู่ และได้ลงจากเขามาหาอาหาร ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว.
เราได้ออกหน้ากล้องแล้วเว้ย ! - กูบอกมึงแล้วว่าอย่าปล้น !
ความคืบหน้า เมื่อเวลา ๑๒.๔๕ น.วันนี้ ๒๑ ก.ย. นายโกศล สัญชาติพม่า ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต เลขที่ ๔๙๐ / ๒๕๕๕ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์..เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกาย และจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะ ได้มามอบตัวที่ สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมของกลาง สร้อยคอทองคำหนัก ๑ บาท โดยมี พ.ต.อ.พีระยุทธ์ การะเจดีย์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต..พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.อ.วันไชย ปาละวัน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต. เป็นผู้รับมอบตัว เบื้องต้นรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นายโกศล กล่าวว่า..การมอบตัวครั้งนี้เนื่องจาก..
ตำรวจไทยกับผลงาน. - จับเมียโจรและทองได้ก่อน.
ขณะที่ตนหลบหนีอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เมืองภูเก็ต ได้เห็นข่าวของโทรทัศน์ ออกข่าวการติดตามไล่ล่าตัว กระทั่งนางมูซาภรรยาของตน. ซึ่งป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วถูกจับกุมได้ก่อน.ทำให้รู้สึกเป็นห่วงภรรยา จึงตัดสินใจนั่งรถจักร ยานยนต์รับจ้างมาที่ สภ.เมืองภูเก็ตเพื่อมอบตัว และขอชดใช้กรรมที่ก่อไว้ เนื่องจากว่าถ้าไม่เข้ามอบตัวก็ไม่มีสิทธิจะได้เจอหน้าภรรยาสุดที่รัก โดยขอเห็นหน้าภรรยาชั่วโมงเดียวก็ดีใจแล้ว มิฉะนั้นนางมูซาต้องรับกรรมไปคนเดียวแน่..ช่างรักเมียดีแท้ ! นายโกศลกล่าวอีกว่า หลังจากก่อเหตุได้นำทองส่วนของตน..ไปให้ภรรยาขายเพื่อนำเงินไปรักษาตัว..
ผมผิดไปแล้วครับ. - ออกจากคุกคงจะทำอีกครั้ง.
ส่วนตนขอติดตัวมาแค่ทองบาทเดียว พอเจ้าหน้าที่ทราบว่า ตนหลบซ่อนอยู่ที่แค้มป์คนงานที่น้ำตกกะทู้ ก็ได้เข้าตรวจค้น ในจังหวะนั้นได้ยินเสียงสุนัขเห่า จึงวิ่งหนีไปซ่อนในป่านาน ๒ วัน จนมีสภาพอิดโรย และหิวข้าวอย่างมาก..เมื่อวานนี้ได้เดินลงมาขอข้าวจากชาวบ้านรับประทาน แต่มีคนจำได้ และโทรแจ้งตำรวจอีก ทำให้ต้องหนีเข้าป่าอีกรอบ.