คนชราปลูกสมุมไพรใฝ่ธรรมะ กิจกรรมของผู้สูงอายุไทเทยิ่น ที่ไม่ยอมเป็นไม้ใกล้ฝั่ง


ผู้สูงอายุไทไทยินไม่สิ้นพลัง ลุกขึ้นมาทำกิจกรรมเพื่อสังคม เป็นแบบอย่างและเป็นเสาหลักของสังคมให้ได้ยึดถือปฏิบัติตาม

คนชราปลูกสมุมไพรใฝ่ธรรมะ

ความสุขของผู้สูงอายุไทเทยิ่น

 

            ผู้สูงอายุเป็นวัยที่ต้องได้เอาใจใส่ตัวเองให้มากขึ้นและต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากคนรอบข้าง ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อให้ผู้สูงอายุนั้นมีความสุขในช่วงบั้นปลายของชีวิต

            ในอดีตผู้สูงอายุเปรียบเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง ไม่มีเรียวแรงกระทำการใดๆ ต้องพึ่งลูกหลานเป็นมือเป็นแขนให้ ทว่าปัจจุบันผู้สูงอายุหลายรายไม่ยอมที่จะให้สังคมมองแบบนั้นอีกต่อไป เมื่อคนแก่ได้ลุกขึ้นมากิจกรรมเพื่อสังคม เป็นแบบอย่างและเป็นเสาหลักของสังคมให้ได้ยึดถือปฏิบัติตาม

            เช่นเดียวกับชมรมผู้สูงอายุหมู่บ้านไทเทยิ่น เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 76 คน ที่วันนี้ได้ลุกขึ้นมาทำกิจกรรมเพื่อเป็นแบบอย่างของคนในชุมชนในการใช้ชีวิตแบบพอเพียง ด้วยการทำโครงการ “พืชผักสมุนไพร วัยชรา ใฝ่หาธรรมะ” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

            แต่เดิมหมู่บ้านไทเทยิ่นมีการปลูกไม้กระถางประดับตลอดแนวริมคลองปากทางเข้าหมู่บ้าน ช่วยให้หมู่บ้านสวยงามและเป็นระเบียบน่าอยู่ จากจุดเริ่มนี้ ทำให้ชมรมผู้สูงอายุหมู่บ้านไทเทยิ่นนำมาเป็นประเด็นมาพูดคุยกัน จนกระทั่งได้ข้อสรุปว่าน่าจะเปลี่ยนการปลูกไม้ประดับมาปลูกพืชผักสวนครัว หรือพืชสมุนไพร แทน เพราะจะได้ใช้ประโยชน์ได้ด้วย

            สมพร พะยอมใหม่ ประธานชมรมผู้สูงอายุหมู่บ้านไทเทยิ่น เล่าว่า หลังจากได้รับทุนจาก สสส.แล้ว ก็ดำเนินกิจกรรมโดยชวนสมาชิกปลูกพืชผักสมุนไพรเองใช้เอง เพราะเห็นว่าสมาชิกบางรายที่เจ็บป่วยเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต ไขมันในเส้นเลือด และโรคหัวใจ เป็นต้น พืชผักสมุนไพรบางอย่างมีอยู่แล้วในครัวเรือน สามารถนำมาใช้ได้ทันที ประหยัดค่าใช้จ่าย และยังช่วยให้ชีวิตปลอดภัยจากโรคแทรกซ้อนอื่นๆ เพราะยาแผนปัจจุบันบางตัวมีผลกระทบข้างเคียงต่อร่างกาย แต่พืชผักสมุนไพรถ้ารู้จักใช้ให้ถูกต้องจะไม่มีผลข้างเคียง บางอย่างจะช่วยบำรุงร่ายกายให้มีชีวิตที่ดีขึ้นด้วย ตรงตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

            พืชผักสมุนไพรที่ทางชมรมผู้สูงอายุหมู่บ้านไทเทยิ่น สนับสนุนให้สมาชิกปลูกติดบ้าน ก็มี สะระแหน่ โหระพา กะเพรา มะกรูด เป็นต้น ซึ่งนอกจากเป็นผักสวนครัวแล้วยังเป็นสมุนไพรที่สามรถปลูกขึ้นง่าย และนำไปเป็นส่วนประกอบปรุงอาหารได้หลากหลาย ส่วนพืชสมุนไพรอื่นๆ เช่น ย่านาง สามารถรักษาและบรรเทาได้หลายโรค เรียกส่าเป็นสมุนไพรรักษาได้ 108 โรค นอกจากนี้ยังมี วอเตอร์เครส หรือที่คนไทยเรียก “สลัดน้ำ” เป็นผักในตระกูลดอกกะหล่ำ ซึ่งเป็นผักที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ต้านมะเร็ง ขณะที่มะตูมก็ช่วยในเรื่องของการลดความดัน ลดคอลเลสรตอรอล

            ขณะที่ชื่อโครงการระบุว่า “พืชผักสมุนไพร วัยชรา ใฝ่หาธรรมะ” และธรรมะ เข้ามาเกี่ยวข้องกับพืชผักสมุนไพรได้อย่างไรนั้น สมพร บอกว่า หลังจากที่ใช้การทานสมุนไพรเพื่อรักษาโรคแล้ว ในส่วนนี้ถือเป็นการรักษาทางด้านร่างกาย ส่วนด้านจิตใจก็ต้องใช้ธรรมะเข้าช่วยรักษา เป็นการควบคุมอารมณ์ เมื่อสุขภาพจิตแจ่มใส่ดีสุขภาพร่างกายก็จะดีตามไปด้วย

            “กิจกรรมในส่วนนี้เราได้พาสมาชิกไปอบรมการทำสมาธิที่ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เพื่อให้ความรู้เรื่องศีล สมาธิและปัญญา และเป็นการฝึกอบรมธรรมะในเบื้องต้น ให้เข้าใจคำว่าไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปัญญา) มากขึ้น ให้เข้าถึงหลักการในการนั่งสมาธิ เดินจงกลมได้อย่างถูกต้อง” ลุงสมพร เล่า

            การฝึกสมาธิในลักษะนี้ สมาชิกชมรมฯเชื่อว่าสามารถนำเอาไปปฏิบัติได้เอง ทำให้คนที่ร่วมปฏิบัติมีสติสัมปชัญญะในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรค เปลี่ยนแปลงทัศนคติให้ดีขึ้น เพื่อความสุขในการดำเนินชีวิต ซึ่งจากการสอบถามผู้สูงอายุที่ได้ไปอบรม พบว่า ได้มีการฝึกสมาธิและเดินจงกรมมาต่อเนื่อง

            ที่เห็นได้เด่นชัดผลของการอบรมธรรมะ คือมีสมาชิกคนหนึ่งซึ่งแต่ก่อนจะเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านไม่มีเพื่อนฝูง ทราบว่าเป็นโรคเครียด แต่หลังจากที่เราได้ชักชวนไปเข้ารับการอบรมธรรมะ จิตใจของสมาชิกท่านนั้นแจ่มใส รอยยิ้มมีความสุข และออกมาพบปะพูดคุย มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านมากขึ้น

            “อย่างตัวผมเองหากมีเวลาก็จะนั่งทำสมาธิ หรือหากเป็นวันสำคัญทางศาสนาก็จะเข้าวัดฟังธรรม ไปร่วมกิจกรรมอยู่เสมอ” เป็นคำสารภาพของ จรัส ทรัพย์มูล นายทะเบียนชมรมผู้สูงอายุหมู่บ้านไทเทยิ่น ก่อนจะกล่าวเพิ่มเติมว่า การปลูกพืชผักสมุนไพร การปฏิบัติธรรมะ ช่วยให้คนแก่ได้ออกกำลังกาย ได้มีกิจกรรมร่วมกันกับคนวัยเดียวกัน เป็นการเปิดพื้นที่ให้คนแก่ได้มีพื้นที่แสดงออก เพราะคนแก่บางทีจะไปคุยกับคนหนุ่มสาวก็เข้าใจกันยาก แต่เมื่อคนแก่รุ่นเดียวก็จะคุยถูกคอและเกิดความสบายใจ ซึ่งเมื่อใจมีความสุขย่อมส่งผลดีไปถึงสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงตามไปด้วย

            ชมรมผู้สูงอายุหมู่บ้านไทยเทยิ่น ถือเป็นแบบอย่างของผู้สูงอายุ ขอเพียงมีพื้นที่ให้คนแก่ได้แสดงพลัง สมกับคำว่า “สูงวัยอย่างมีคุณค่า ชราอย่างมีความสุข”

ชวนกันออกกำลัง เพื่อร่างกายแข็งแรง

ผักสวนครัวที่ผู้สูงอายุหมู่บ้านไทเทยิ่นช่วยกันปลูกริมทางเดินเข้าหมู่บ้าน

คุณสมพร พะยอมใหม่ ประธานชมรมผู้สูงอายุหมู่บ้านไทเทยิ่น

หมู่บ้านไทเทยิ่นพาสมาชิกไปอบรมการทำสมาธิที่ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เพื่อให้ไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปัญญา) และนำไปปฏิบัติจริง

หมายเลขบันทึก: 504820เขียนเมื่อ 7 ตุลาคม 2012 17:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2012 16:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สว ดวงใจ..ใฝ่ธรรม
สาธุครับผม

  • น่าชื่มชมนะจ๊ะ
  • อีกไม่นานคุณมะเดื่อก็คงเดินตามรอยท่านเหล่านี้บ้าง

สวัสดีค่ะ

ชื่นชมและอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ  :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท