กลับจากสอนเรื่องทักษะชีวิตที่เหมาะสม โดยเฉพาะเรื่องเพศ ที่ร.ร.แห่งหนึ่ง ในอำเภอรอบนอกสุราษฏร์ธานี เด็กกลุ่มนี้เป็นวัยรุ่นตอนกลางและตอนปลาย หลังจากสอนเสร็จได้มีโอกาสคุยกับอาจารย์ที่ดูแลเด็ก ได้รับข้อมูลที่น่าสนใจ น่ากลัว และน่าเป็นห่วงมาก ๆ เลย อาจารย์บอกว่า จริง ๆ เด็กพวกนี้เขารู้หมดแล้วล่ะ พฤติกรรมของเขาพ่อแม่ก็ยังเอาไม่อยู่ เวลาเรียกผู้ปกครองให้มาที่ร.ร.พ่อแม่ก็ไม่มา บอกว่าให้ออกก็ได้ เพราะไม่อยากให้เรียนแล้วเหมือนกัน สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือ มีเด็กท้องแล้วต้องออกไปหลายคน ช่วงเวลาที่เป็นปัญหาที่สุดก็คือ ช่วงปิดเทอม เพราะตอนเปิดเทอมนั้น ครูยังมีโอกาสได้ดูแล ได้พูดคุย ตักเตือนบ้าง แต่ปิดเทอมเนี่ยเป็นช่วงเวลาที่เขามีอิสระ เพราะพ่อแม่ก็ทำงาน ไม่ได้ตามมาดู คิดแต่ว่าให้ลูกไปเที่ยวพักผ่อนสมองบ้าง แต่เขาจะรู้บ้างไหมว่าลูก ๆ เขาทำอะไรกันบ้าง
อาจารย์บอกว่าพอเปิดเทอมใหม่มา ก็จะมีเด็กหายไปคนสองคน เพราะท้อง เรียนต่อไม่ได้ แล้วก็เหมือนเดิมที่ฝ่ายชาย ไม่มีปัญหาอะไร มีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่ต้องออกไปต้องอุ้มท้องเลี้ยงลูก มีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงนะ เด็กคนหนึ่งมีลักษณะเป็นทอม พ่อกับแม่ไม่ชอบ ไม่อยากให้มีพฤติกรรมแบบนี้ เด็กก็อาจจะประชด ไปคบกับผู้ชาย สุดท้ายท้องต้อง drop เรียนไป และที่แปลกนะ รู้หรือเปล่าว่าสมัยนี้ผู้หญิงเป็นฝ่ายรุก ฝ่ายจีบผู้ชายนะ เริ่มตั้งแต่การขอเบอร์โทรศัพท์ แล้วก็ตามง้อ เด็กผู้ชายไม่ต้องเหนื่อยเหมือนสมัยเราเลย แล้วปัญหาตบกันก็มีบ่อยเพราะแย่งผู้ชายกัน ส่วนเด็กผู้ชายก็มี 2 แบบ คือ พวกหนึ่งก็สนใจเรื่องผู้หญิง อีกพวกหนึ่งก็ใช้ยาเสพติด พวกกระท่อม เด็กผู้ชายกลุ่มนี้มักไม่สนใจเรื่องผู้หญิงเท่าไหร่ ชอบอยู่เงียบ ๆ แล้วคอยตามแต่เพื่อนที่มียาเท่านั้น ส่วนผู้หญิง อาจารย์บอกว่าเขาจะคุยกันแต่เรื่องผู้ชาย เล่น facebook เท่านั้น ดังนั้นใครที่ไม่มีแฟนก็ไม่มีเรื่องจะคุยกับเพื่อน เขาก็จะรู้สึกเป็นปม ที่เล่ามานี้อาจารย์บอกไม่ใช่เด็กทั้งหมดที่เป็นแบบนี้นะ เด็กที่สนใจเรียนอย่างเดียวก็มี แต่น้อยหน่อย
พอรู้แบบนี้พวกเรายิ่งต้องเลี้ยงดูลูกสาวของเราให้รักในคุณค่าของตัวเอง เลี้ยงให้เขารู้สึกพึงพอใจในความเป็นตัวของเขาเอง เพราะเราเชื่อว่าเมื่อลูกสามารถรักตัวเองได้ ภูมิใจในความเป็นตัวของเขาเองได้ เขาก็ต้องทำสิ่งดี ๆ ไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของเขา ไปแย่งผู้ชายกัน หรือทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องใกล้ชิด ให้ความรัก ความอบอุ่น ให้เวลา พูดคุยใส่ข้อมูลให้เขารู้เท่าทันกับสิ่งที่เป็นอยู่นี้ ความรู้สึก ความต้องการ อารมณ์ทางเพศต่าง ๆ การแสดงออกที่เหมาะสม ซึ่งหมายถึง เราต้องลงทุนกับเรื่องนี้ คิดเสมอว่า ลูกเรายังไม่รู้ ไม่มีใครสอน เราต้องเป็นผู้สอนเขา ในเวลาที่เหมาะสมกับช่วงอายุแล้วต้องอย่าช้าเกินไปก่อนที่เขาจะไปเรียนรู้จากที่อื่น และต้องพูดคุยกันในบรรยากาศที่อบอุ่นด้วย สำหรับลูกผู้ชายก็ต้องสอนให้เป็นสุภาพบุรุษ รู้จักควบคุมอารมณ์ มีการแสดงออกกับเพศตรงข้ามที่เหมาะสม ถูกต้อง เพราะเราต้องรับผิดชอบลูกของเรา อย่าให้เวลาในการหาเงิน เวลาในการหาความสุขส่วนตัวเรามาแย่งเวลาอันมีค่าแบบนี้ เพราะถ้าเราให้เวลากับเขาช้าเกินไป ก็หมดโอกาสแล้ว เพราะโลกมันหมุนไปเร็วมาก และเรื่องบางเรื่อง อย่างเช่นเรื่องนี้ รอให้สายไม่ได้เสียด้วยแหละ
บันทึกอีกนะคะพี่แป๋วจะรอติดตาม
ขอบคุณอีกครั้ง ช่วงนี้ไฟแรง แล้วก็พอมีเวลา ก็ได้รับแรงเชียร์จากนู๋แหละ จะพยายามนะคะ ขอบคุณจริง ๆ
ช่วงเวลาที่เป็นปัญหาที่สุดก็คือ ช่วงปิดเทอม เพราะตอนเปิดเทอมนั้น ครูยังมีโอกาสได้ดูแล ได้พูดคุย ตักเตือนบ้าง แต่ปิดเทอมเนี่ยเป็นช่วงเวลาที่เขามีอิสระ เพราะพ่อแม่ก็ทำงาน ไม่ได้ตามมาดู คิดแต่ว่าให้ลูกไปเที่ยวพักผ่อนสมองบ้าง แต่เขาจะรู้บ้างไหมว่าลูก ๆ เขาทำอะไรกันบ้าง
ผมชื่นชอบบทสังเคราะห์นี้มาก สะท้อนถึงมูลเหตุของการก่อเกิดปัญหาที่กล่าวถึง นั่นทำให้มองกลับมายังเด็กๆ ในหมู่บ้าน ปิดเทอมพ่อแม่มารับไปกรุงเทพฯ เพื่อใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น เพื่อให้พ่อกับแม่ทำงานและมีเวลาอยู่กับพวกเขา ซึ่งอย่างน้อยก็ดีกว่าอยู่คนละทิศคนละทาง...กระมังครับ
ขอบพระคุณครับ
ใช่ค่ะ บางทีพ่อแม่ลืมนึกไป เคยชินกับการที่ลูก ๆ ไปร.ร. ไม่ได้อยู่กับตน เลยลืมไปว่า ปิดเทอมเขาไม่ได้ไปร.ร.นะ เราต้องวางแผนว่าจะให้เขาทำอะไร บางทีต้องวางไว้ล่วงหน้าเหมือนกัน เพราะเนี่ยอาจเป็นช่องว่างที่เกิดอะไรขึ้นได้สารพัด ถ้าวางแผนไม่ดี
น้องแป๋วสบายดีนะครับ@ด้ว ย ค ว า ม ร ะลึ กถึ ง @
สบายดีค่ะพี่ป๋อง ดูหน้าตามีความสุขมากเลยนะ คิดถึงค่ะ
ความรัก ความอบอุ่นคือยาขนานวิเศษค่ะ