ตามอำนาจหน้าที่ของกรมบัญชีกลางมี 13 ภารกิจ แบ่งเป็น 2 ด้านหลัก คือ ด้านการกำกับดูแล Regulator เกี่ยวกับการกำหนดกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ด้านการเงินการคลัง การพัสดุ การตรวจสอบภายใน การบัญชี การบริหารบุคคลลูกจ้าง ความรับผิดทางแพ่ง พัฒนามาตรฐานค่าตอบแทนสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ และการบริหารเงินนอกงบประมาณ ด้านการให้บริการ Service Provider พัฒนาระบบบริหารการคลังภาครัฐเกี่ยวกับการรับ-จ่ายเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ GFMIS การบริหาร
เงินคงคลัง การอบรมพัฒนาบุคลากรภาครัฐ และสนับสนุนการบริหารเศรษฐกิจการคลังในส่วนภูมิภาค
1. การเพิ่มรายได้ให้แก่บุคลากรภาครัฐ ได้มีการแก้ไขปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555 ตามนโยบายรัฐบาลให้ผู้จบปริญญาตรีต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาทต่อเดือน
จำนวนผู้มีสิทธิที่ได้รับเงิน พ.ช.ค. เพิ่มทั้งที่จบปริญญาตรีและต่ำกว่าปริญญาตรี
ประเภท |
วุฒิปริญญาตรี/คน |
ต่ำกว่าปริญญาตรี/คน |
จำนวนเงิน/ล้านบาท (ม.ค.-ก.ย.) |
จำนวนเงินต่อปี (ล้านบาท) |
ข้าราชการ |
257,400 |
29,110 |
10,872 |
14,496 |
ลูกจ้างประจำ |
2,217 |
1,464 |
99 |
132 |
ลูกจ้างชั่วคราว |
27,362 |
74,869 |
3,393 |
4,524 |
พนักงานราชการ |
59,368 |
59,500 |
3,042 |
4,056 |
รวม |
346,365 |
164,943 |
17,406 |
23,208 |
ทหารกองประจำการ |
138,015 คน |
|
990 |
1,325 |
รวมทั้งสิ้น |
649,323 คน |
|
18,396 |
24,533 |
2. การพัฒนาระบบประกันสุขภาพ โดยบูรณาการ ๓ กองทุน เพื่อดูแลสิทธิประโยชน์ของประชาชน บุคลากรภาครัฐ และผู้ประกันตน ในการให้บริการกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ซึ่งสามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลใดก็ได้ที่ใกล้ที่สุดโดยรวมสถานพยาบาลของเอกชนด้วย
3. โครงการรถคันแรกตามนโยบายฯ ยกระดับคุณภาพชีวิต ได้ดำเนินการเกี่ยวกับการจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้มีสิทธิโดยโอนเงินเข้าบัญชีของเจ้าของรถยนต์โดยตรง โดยจะดึงข้อมูลจากกรมสรรพสามิตมาดำเนินการเบิกจ่ายในระบบ GFMIS และตรวจสอบกับเอกสารที่กรมสรรพสามิตแจ้งมาให้ถูกต้องตรงกัน และจะโอนเงินเข้าบัญชีของเจ้าของรถผู้มีสิทธิผ่านระบบ Smart ของธนาคารกรุงไทย โดยจะแบ่งจ่ายเดือนละ 2 รอบ คือ ทุกวันที่ 5 และวันที่ 20 ของเดือน ตามจำนวนเงินที่ได้คืน เช่น 84,000 บาท 90,000 บาท หรือ 100,000 บาท และเงินจำนวนดังกล่าวจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องนำมาคำนวณรายได้เพื่อเสียภาษี คาดว่าจะมีรถที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 425,000 คัน ใช้งบประมาณ 30,000 ล้านบาท
4. งานด้านการจัดซื้อจัดจ้าง
4.1 การทบทวนและปรับปรุงหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้างของทางราชการ ปรับปรุงและจัดทำหลักเกณฑ์ในการคำนวณราคากลางใหม่ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2555 โดยปรับปรุงแนวทาง/วิธีปฏิบัติและข้อกำหนด
ให้ชัดเจนและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น กำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณค่างานต้นทุน (Direct Cost) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Indirect Cost) ค่าใช้จ่ายพิเศษและค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็นต้องมี เพื่อให้ได้ราคางานก่อสร้างที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด
4.2 การพัฒนาระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร e-GP ระยะที่ ๒ พัฒนาระบบงาน
เพื่อรองรับการจัดซื้อจัดจ้างครบทั้ง 12 วิธี และครอบคลุมกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด โดยหน่วยงานภาครัฐปฏิบัติงานผ่านระบบ e-GP ระยะที่ 2 และจัดอบรมการใช้งานแล้ว ยกเว้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยจะขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปฏิบัติงานในระบบ e-GP ด้วย
มีระบบการบริหารสัญญา (e-Contract Management) ตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่จัดเตรียมร่างสัญญาจนกระทั่งสัญญาฉบับนั้นหมดภาระผูกพันตามสัญญา มีการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิคส์ ได้แก่ ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) และใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Certificate Authority) และวางแนวทางการพัฒนาระบบงานต่อเนื่องในระยะที่ ๓ โดยเพิ่มวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง 2 วิธี ได้แก่
- e-Market เป็นการจัดซื้อจัดจ้างสินค้า ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมาตรฐาน มีข้อกำหนดและคุณสมบัติไม่ซับซ้อน เช่น กระดาษ ปากกา เป็นต้น เพิ่มความสะดวกในการค้นหารหัสสินค้า GPSC
- e-Bidding เป็นการจัดซื้อจัดจ้างที่มีความซับซ้อน เช่น งานก่อสร้างที่ต้องใช้ความประณีตเป็นพิเศษ
5. การพัฒนามาตรฐานค่าตอบแทนสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ ดำเนินการการปรับปรุงการบริหารค่าใช้จ่ายประเภทค่ารักษาพยาบาลและสวัสดิการ
5.1 กำหนดรูปแบบการเงินการคลังด้านสุขภาพระยะยาว (Long term health financing) โดยการ
- กำหนดรหัสยาและเครื่องมือแพทย์ให้เป็นมาตรฐาน จัดทำราคาแนะนำเป็นราคาจัดซื้อยาของโรงพยาบาล และกำหนดราคาเบิกจ่ายจากกองทุน
- ให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังลงทะเบียนเลือกโรงพยาบาลประจำตัว
- กำหนด DRG แยกตามความรุนแรงของโรคให้เป็นมาตรฐาน
5.2 บูรณาการระบบการให้บริการสาธารณสุขและจัดทำ Basic Benefit Package
- ขยายระบบบริการสุขภาพโรคเอดส์และโรคไต
- มาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านยา เช่น แพทย์ต้องระบุเหตุผลการใช้ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติไว้ในเวชระเบียนหรือใบสั่งยา
- ส่งเสริมการใช้ยาสามัญทดแทนยาต้นแบบที่มีราคาแพง
- จัดทำระบบขออนุมัติก่อนใช้ยา (Prior Authorization) สำหรับกลุ่มยาราคาแพง
โดยสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลข้าราชการ ลูกจ้างและพนักงานของรัฐ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 เบิกจ่ายเพียง 61,844.27 ล้านบาท จากงบประมาณที่ตั้งไว้ 64,000 ล้านบาท และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2555 เบิกจ่ายแล้ว 56,419.29 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่สูงกว่างบประมาณที่ได้รับเช่นเดียวกับปีก่อน
6. การเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินงาน (Anti-Corruption) กระทรวงการคลังได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต (Anti-Corruption Cooperation Committee) โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นรองประธาน อธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการ ที่ปรึกษาฯ หรือรองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่กำหนดมาตรการและเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาและการต่อต้านการทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง กำหนดมาตรการทางธุรกิจสำหรับป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่นระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยเน้นการกำกับดูแลด้านบริษัทเอกชนด้วยมาตรการด้านตลาดทุน การเปิดเผยข้อมูลทางบัญชี มาตรการจูงใจและมาตรการลงโทษหรืออื่นๆ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมายหรือระเบียบใดๆ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานเพื่อจัดประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อกำหนดมาตรการและแนวทางการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลกรมบัญชีกลางมีภาพลักษณ์
ที่ดีในด้านความโปร่งใส และมักจะได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการในคณะกรรมการต่างๆ เพื่อการตรวจสอบการทุจริต รวมถึงการกำหนดมาตรฐานด้านการตรวจสอบภายในภาครัฐ
7. การติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ตามนโยบายรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจกำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2555 จำนวน 2,380,000 ล้านบาท คือภาพรวมร้อยละ 93 และงบลงทุนร้อยละ 72 ของงบลงทุน ผลการเบิกจ่าย ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2555 ภาพรวมเบิกจ่ายจำนวน 1,265,987.60 ล้านบาท จากวงเงินหลังโอนเปลี่ยนแปลง จำนวน 1,587,365.59 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 79.75 งบลงทุนเบิกจ่ายจำนวน 183,444.17 ล้านบาท จากวงเงินงบประมาณหลังโอนเปลี่ยนแปลง จำนวน 322,224.51 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 56.93 ต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ 3.07 (เป้าหมายร้อยละ 61.00)
ณ สิ้นปีได้ปรับเป้าหมายการเบิกจ่ายเพิ่มขึ้น โดยภาพรวม จากร้อยละ 89.40 เป็นร้อยละ 91.21 และงบลงทุนจากร้อยละ 63 เป็นร้อยละ 65.55
นโยบายการกันเงินงบประมาณ ปี พ.ศ. 2555 ไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีไม่มีหนี้ผูกพัน จากการตรวจสอบในระบบ GFMIS ยังมีหลายส่วนราชการมีเงินงบลงทุนเหลือโดยยังไม่ได้ก่อหนี้ผูกพัน จำนวน 1.2 แสนล้านบาท โดยมีส่วนราชการรายงานข้อมูลเข้ามา 255 หน่วย เป็นเงิน 89,721 ล้านบาท ซึ่งจำนวนนี้ได้เสนออนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีไม่มีหนี้ผูกพัน แต่ต้องก่อหนี้ให้ทันภายในสิ้นเดือนธันวาคาม 2555 สำหรับอีก 73 หน่วย ไม่ได้แจ้งเข้ามา แต่นโยบายการกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีก็ยังให้โอกาสขออนุมัติเข้ามา และใช้แนวทางเดียวกันคือ ถ้าคาดว่าจะก่อหนี้ผูกพันทันภายในธันวาคม 2555 ก็อนุมัติให้กันเงิน
8. แนวคิดและวิธีการการส่งเงินชดเชย กบข. เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2555 กรมบัญชีกลางได้ประชุมหารือกับ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ข้อสรุปว่าเลือกแนวทางให้สมาชิก กบข. สามารถเลือกได้ว่าจะรับบำนาญตามสูตรการคำนวณบำนาญแบบเดิม (พระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494) หรือ แบบ กบข. (พระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการคำนวณภาระงบประมาณที่จะเพิ่มขึ้นเพื่อนำเสนอกระทรวงการคลังต่อไป
9. รายงานการเงินรวมภาครัฐ การจัดทำรายงานการเงินรวมภาครัฐ หรือการทำงบการเงินของแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2555 และได้เสนอให้ผู้บริหารของหน่วยงานภาครัฐให้ความสำคัญในการจัดทำรายงานการเงินให้มีความครบถ้วน สมบูรณ์และน่าเชื่อถือ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์และตัดสินใจเชิงนโยบายด้านการเงินการคลังได้อย่างถูก
10. การบริหารจัดการเงินนอกงบประมาณ จัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบบริหารเงินนอกงบประมาณ
ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2555 เห็นชอบแล้ว ประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์ 15 โครงการ แบ่งเป็น 3 ด้าน คือ
1.ด้านการกำกับและบริหาร เช่น พัฒนาระบบประเมินผลการดำเนินงาน การประเมินสถานะการเงินของเงินนอกงบประมาณ และการนำส่งเงินนอกงบประมาณส่วนเกินเป็นรายได้แผ่นดิน 2. ด้านสารสนเทศ เช่น พัฒนาระบบฐานข้อมูลระบบบริหารเงินนอกงบประมาณ (e-Nonbudgeting) 3.ด้านการพัฒนาประสิทธิภาพบุคลากร เช่น โครงการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “การจัดทำรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 170
_________________________
ไม่มีความเห็น