ใครบ้างที่สอนลูกผิดเหมือนผม


เว็บเพื่อสังคม

      ผมสอนลูกผิด   

    จะดีหรือไม่ถ้าผมบอกชาวบ้านให้รู้ว่า "ผมสอนลูกผิด" เกิดจากความผิดประการใดก็แล้วแต่ ผิดเพราะสภาพแวดล้อม ผิดเพราะไม่กระหนักในสิ่งสำคัญที่จะปลูกฝังลูก หรือผิดเพราะคิดไม่ถึง ผมเองคิดว่าเป็นเรื่องดีที่สุดที่ได้มาบอกกล่าวเรื่องนี้ อย่างน้อยพอเป็นแนวคิดก็ยังดี

     ที่บอกว่าผิดเพราะสภาพแวดล้อมขออธิบายขยายความดังนี้ สมัยเมื่อ 40 ปีก่อน สมัยนั้นผมยังเป็นเด็ก สภาพแวดล้อมที่ผมได้สัมผัสคือความลำบาก ทุรกันดาร จะไปไหนมาไหนต้องเดินลุยโคลนตม สภาพเช่นนี้สอนเราให้เป็นคนแข็งแกร่ง หรือไม่ก็สถานการณ์บีบบังคับให้เราต้องทำ เช่น หุงข้าวด้วยไม้ฟืน ด้วยถ่าน ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อม เหล่านี้ก็ฝึกให้เรามีจิตใจแข็งแกร่ง เช่นกัน ส่งผลให้มีอดทน มีความพยาม รู้จักรับผิดชอบ

     ขอเล่าชีวิตของเด็กเมื่อ 40 ปีก่อน ขอเล่าสัก 4 เรื่อง เรื่องรับผิดชอบหุงหาอาหาร การไปโรงเรียน เรื่องซักผ้า หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

     ประการแรกคือเรื่องหุงหาอาหาร ทีกล่าวว่าหุงหาอาหาร เพราะมีทั้งการปรุง และการหาอาหารมาปรุง (ในบางครั้ง)

     ผมหุงข้าวเป็นเมื่ออายุประมาณ 7 ขวบ ก่อนนั้นส่วนใหญ่พี่ ๆ จะเป็นผู้รับผิดชอบ เมื่อพี่เห็นว่าพอจะฝึกน้องได้ก็จะสอนน้องให้รับผิดชอบบ้าง การหุงข้าวสมัยนั้นใช้ถ่านหรือไม้ฟืน ขอยกกลอนสอนศิษย์ประกอบความเข้าใจ

     ปรุงอาหารสมัยนั้นขั้นตอนยาก
 ความลำบากสอนสิ่งดีมากมีถม
ยามก่อไฟกับฟืนฝืนอารมณ์
รบกับลมดับไฟไม่ได้ความ

     ต้องอดกลั้นอดทนจนไฟติด
รวมพลังจิตเพียรทำซ้ำสองสาม
คอยสุมไฟพัดเป่าเข้าชั่วยาม
ข้าวเม็ดงามใกล้สุกรุกไฟฟืน

      คอยเช็ดน้ำดงหม้อรอข้าวสุก
โยงข้าวรุกหอมหวนน่าชวนชื่น
สิ่งเรียนรู้แสนดีที่ยั่งยืน
ทุกวันคืนบ่มนิสัยให้สันดาน

      บางครั้งไม่มีกับข้าวจำเป็นต้องจัดหา หากไม่มีอาหารทีเก็บถนอมไว้ในรูปแห้ง ย่าง รมควัน ฯลฯ ก็จำเป็นต้องจัดหาจากแหล่งต่าง ๆ แต่ไม่ได้หมายถึงซื้อ ขอยกกลอนสอนศิษย์ อธิบายความ

     หากับข้าวปูปลาเวลาว่าง
รู้แนวทางเสาะแสวงแห่งวิถี
ภูมิปัญญาหลายหลากล้วนมากมี
หลายวิธีรับรู้จากปู่ตา

      เสาะพืชพันธุ์ผลไม้สารพัด
อีกทั้งสัตว์บกน้ำตามเสาะหา
เพียงเพื่อท้องเพื่อปากฝากชีวา
เก็บเกี่ยวมาแต่พอเพียงเลี้ยงครอบครัว

      จะเห็นว่าการหุงหาอาหารสมัยก่อนนั้นไม่เรื่องที่ง่ายนัก ต้องใช้ความพยายาม ความอดทน บางครั้งก็ต้องแก้ปัญหา ประสบการณ์เหล่านี้ล้วนแต่สร้างความแข็งแกร่ง ในเรื่องความอดทนพยายามได้เป็นเยี่ยม

     ประการที่สองคือเรื่องไปโรงเรียน ข้อนี้จะชี้ให้เห็นว่าคนสมัยก่อนต้องเดินไปโรงเรียน อันที่จริงเรื่องนี้อาจจะรวมไปถึงการเดินทางไปที่อื่น ๆ ก็ได้ ขอยกคำกลอนสอนศิษย์ประกอบ

     ฝึกความแกร่งเช้าเย็นเป็นนิสัย
จะไปไหนบุกป่าช่างน่าหลง
ทางลดเลี้ยวเคี้ยวคดในไพรพง
ไม่พะวงบากบั่นแม้กันดาร

     ถึงจุดหมายปลายทางอย่างถูกต้อง
จะฟ้าร้องฝนพรำจำอาจหาญ
พิษภัยพืชภัยสัตว์อาจรอนราญ
มิสะท้านสะทกหวั่นตกใจ

     ความแข็งแกร่งสอนเราเอาเสร็จสิ้น
ช่างชาชินมิอาทรมิอ่อนไหว
จะบุกป่าขึ้นเขาลำเนาไพร
ถึงแม้ไกลเหมือนใกล้คล้ายที่เดิม

     เกิดจากความแข็งแกร่งแห่งลำบาก
ประหนึ่งภาคปฏิบัติจัดส่งเสริม
สร้างเสริมจิตเสริมกายได้เต็มเติม
ยามแรกเริ่มวัยเยาว์อยู่เนานาน

     จึงรู้ผิดรู้ถูกปลูกนิสัย
มีจิตใจมั่นคงตรงมาตรฐาน
ทำอะไรถูกต้องสอดคล้องการ
เสริมสันดานสิ่งดีมีคู่กาย

     มีความคิดตริตรองต้องเหตุผล
รู้จักตนพาพึ่งซึ่งจุดหมาย
เป็นคนไข้ข้ามพ้นขีดอันตราย
อยู่สบายในสังคมสมดังปอง

    ด้วยสภาพพื้นที่ในการเดินทางมักจะกันดาร เช่น ต้องบุกน้ำ ลุยโคลน บุกป่า ลงห้วย ขึ้นเขา จึงต้องมีใจเด็ดเดี่ยว อดทน พยายาม ที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรค์ต่าง ๆ นานา ให้ได้ สมัยนั้นร้องเท้าก็หาซื้อยาก ชาวชนบทนิยมเดินเท้าเปล่า แต่ถ้ามีก็คงใช้เดินบุกป่า ขึ้นเขาเท่านั้น คงใช้ไม่ได้กับที่เป็นน้ำ และโคลนแน่นอน มักจะใช้ร้องเท้าเพื่อเดินบุกป่า หรือตอนถางป่าเท่านั้น เป็นรองเท้าที่ทำใช้เอง โดยทำกับหนังวัว หนังควาย

     เรื่องที่สามคือเรื่องซักผ้า เด็กสมัยนั้นพ่อแม่มอบหมายให้ซักเอง การทำอยู่ประจำ เป็นเคยชิน ทำให้เราเกิดความรู้สึกว่าไม่หนักหนาอะไร รู้สึกสนุกด้วยซ้ำ เท่ากับสร้างความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ยกกลอนสอนศิษย์สะกิดใจ

    เสื่อที่นอนหมอนมุ้งรุ่งเก็บจัด
ทำถนัดไม่เหนื่อยหนักแม้ซักผ้า
พ่อแม่ใช่คาดคั้นคอยบัญชา
ฤๅระอาเบื่อหน่ายทำได้ดี

     ประการสุดท้ายคืองานที่ได้รับมอบหมาย พ่อแม่ฝึกให้ลูกรู้จักรับผิดชอบงาน ในแต่ละวันพ่อแม่จะมอบหมายหน้าที่ให้ลูกคนนั้นคนนี้ตามความเหมาะสม โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป งานเหล่านี้เช่น ตักน้ำใส่โอ่ง หาไม้ฟืน เผาถ่าน เก็บผัก ทำสวนครัว เอาอาหารให้ไก่ ฯลฯ ลูกทุกคนได้รับมอบหมายจากพ่อแม่หมุนเวียนกันไปตามความเหมาะสม

     ประสบการณ์ด้านอื่นหยิบยื่นให้
สร้างกายใจมีพลังดังขุนเขา
เด็กเจ็ดปีทำงานการหนักเบา
ตื่นแต่เช้าหุงหาข้าวปลาแกง

    เปิดเล้าเป็ดเล้าไก่เตรียมไล่ทุ่ง
พอใกล้รุ่งจูงควายไม่หน่ายแหนง
ทั้งกายใจหมั่นเพียรไม่เปลี่ยนแปลง
ดังหนึ่งแกล้งออกฤทธิ์ผิดธรรมดา

    ในความเป็นจริงเด็กยุคนั้นบางคนต้องรับผิดชอบงานมากกว่าที่กล่าวมา แม้จะงานที่ไม่จัดในประเภทงานหนักก็จริง แต่งานประเภทนี้ล้วนสร้าง ล้วนฝึกนิสัยด้านดีอย่างมาก ที่กล่าวมาคือเรื่องสภาพแวดล้อมในสมัยเมื่อ 40 ก่อน เป็นตัวช่วยฝึกฝนคนให้เป็นคนมีความแข็งแกร่ง อดทน พยามยาม รู้จักรับผิดชอบงาน รู้จักช่วยเหลือ ฯลฯ คุณธรรมเหล่านี้ล้วนสร้างคนให้เป็นคนดี มีคุณภาพ

     ถึงยุคของลูกผม สภาพเช่นนั้นมันหมดไป เด็กสมัยใหม่จึงไม่พบกับปัญหาอุปสรรค์ดังกล่าว เมื่อสังเกตพบว่าว่าพฤติกรรมของลูกในด้านต่าง ๆ ผิดกับตัวเอง ก็คิดทบทวนหาคำตอบ ตั้งสมมุติฐาน และคิดว่าส่วนหนึ่งน่าจะมาจากมาจากสภาพแวดล้อมทางสังคม ถ้าเราเห็นความสำคัญในเรื่องนี้มาก่อนก็คงหาแนวทางแก้ปัญหาโดยหาสิ่งทดแทน หรือวางแผนสร้างงานให้ลูกได้รับผิดชอบที่พอจะใกล้เคียงกัน ซ้ำร้ายไปกว่านั้นสิ่งที่ควรจะให้ลูกทำเรากลับไม่ให้ทำ เช่นซักผ้าของตนเอง ล้างจาน เป็นต้น ผิดเพราะไม่กระหนักที่จะปลูกฝังลูกให้รู้จักรับผิดชอบให้รู้จักอดทน รู้จักความพยายาม รู้จักแก้ปัญหา

      ขอยกตัวอย่างสนับสนุนเรื่องนี้อีกประเด็น ลูกของคนใกล้บ้านคนหนึ่ง พ่อต้องตื่นเช้าขับรถรับส่งเด็กนักเรียน แม่ต้องไปกรีดยางพารา ลูกวัยเจ็ดขวบต้องรับผิดชอบตัวเอง ในเรื่องอาหาร อาบน้ำ แต่งตัว ถึงวันเสาร์ วันอาทิตย์ ช่วยแม่เก็บน้ำยาง ปฏิบัติเช่นนี้อยู่ตลอดจนถึงมัธยมศึกษาปีที่หก เด็กคนนี้มีพฤติกรรมคล้ายกับผมเมื่อตอนเป็นเด็กคือ มีความอดทน ขยัน รู้จักรับผิดชอบ จึงมีความเห็นว่า แม้ว่าปัจจุบันสภาพแวดล้อมทั่ว ๆ ไป คลายปัญหา คลายอุปสรรค์จากสมัยก่อนไปมาก ซึ่งเด็กสมัยใหม่ไม่ได้ประสบ แต่หากเด็กได้ถูกฝึกให้รับผิดชอบงาน หรือเขาต้องทำด้วยสภาพที่จำยอมก็ตาม ย่อมส่งผลต่อการสร้างลักษณะนิสัยที่ดีให้กับเด็กได้เช่นกัน

     การนำเรื่อง "สอนลูกผิด" น่าจะมีประโยชน์ต่อท่านที่หลงผิด หรือนึกไม่ถึงอย่างผม จะได้วางแผนให้ถูกต้องเหมาะสมต่อไป

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #เว็บเพื่อสังคม
หมายเลขบันทึก: 501357เขียนเมื่อ 6 กันยายน 2012 09:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2012 16:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท