ตามสื่อต่างๆ จะมีการเล่าเรื่อง เล่าข่าว ผ่านคอลัมน์ดังๆในสื่อสิ่งพิมพ์ หรือรายการดังๆตามสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ
อยากให้บล๊อกแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ..... เล่าสู่กันฟังนี้ เป็นเวทีที่ทุกท่านได้เล่าประสบการณ์ที่ได้ไปสัมผัสมา เพื่อให้เกิดบรรยายกาศของการแชร์ความรู้ร่วมกัน
ระหว่างวันที่ 22-23 สิงหาคม 2549 ได้มีโอกาสเข้าร่วมการสัมมนาวิชาการสภาคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 26 เรื่อง บัณฑิตศึกษาเพื่อการพัฒนาประเทศ ที่โรงแรมอิมพีเรียลธาราแม่ฮ่องสอน โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้บริหารมหาวิทยาลัย/คณะ คณาจารย์และผู้รับผิดชอบหลักสูตรบัณฑิตศึกษา จากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และเอกชนเอกชน จำนวนประมาณ 100 คน จึงขออนุญาตแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ... เล่าสู่กันฟัง ดังนี้
ปาฐกถาพิเศษ การพัฒนาบัณฑิตศึกษาเพื่อการพัฒนาประเทศโดย ศาสตราจารย์ ดร. เทียนฉาย กีระนันทน์ รองประธานกรรมการคณะกรรมการการอุดมศึกษาสรุป บทบาทของบัณฑิตศึกษา เสาะแสวงหาความรู้ (research) เผยแพร่ความรู้ (presentation/ publication) เป็นแหล่งอ้างอิง (source of references) รวมทั้งสร้างและรักษาคนดีปราชญ์ของแผ่นดิน ปัจจุบันมีพัฒนาการในการจัดการศึกษาบัณฑิตศึกษาหลายรูปแบบ มีการแสวงหาความรู้ผ่านการจัดหลักสูตรปริญญาตรีแบบก้าวหน้า (Honors program) หลักสูตรปริญญาควบ (ตรี-โท-เอก ตรี-เอก) ประกาศนียบัตรบัณฑิต ประกาศนียบัตรบัณฑิตขั้นสูง การฝึกอบรมวิชาชีพ/หลังปริญญาเอก (post doctoral) บางหลักสูตรมีการสร้างความรู้แต่ไม่เกิดองค์ความรู้ การเป็นแหล่งอ้างอิงและการรักษาคนดีมีแนวโน้มน้อยลง มี ข้อสังเกตในส่วนของการบริหารจัดการหลักสูตร เช่น สภามหาวิทยาลัยของแต่ละสถาบันอนุมัติหลักสูตรเอง และเสนอสกอ. เพื่อทราบ ใครรับผิดชอบ มีการจัดหลักสูตรปริญญาโท แผน ข ภาคพิเศษ มากขึ้น มีการเรียนการสอนกระบวนวิชาเบื้องต้น (Introduction to …..) ในบางหลักสูตร ปริมาณ VS คุณภาพ การพัฒนาบัณฑิตศึกษา ควรเน้นการสร้างองค์ความรู้ พัฒนาความสามารถ ทักษะ ประสบการณ์ การกระตือรือล้น และสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ให้ความสำคัญของงานวิจัยโดยถือว่าบัณฑิตศึกษาเป็นสินทรัพย์ของการวิจัย ควรจัดให้มีระบบ TA & RA แทนการให้ทุนเล่าเรียน หลักสูตรควรพัฒนาความพร้อมด้านอาจารย์ ปัจจัยเกื้อหนุนอื่น พัฒนาห้องสมุดและแหล่งสืบค้น รวมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการผลิตบัณฑิต |
บรรยายพิเศษ ทิศทางการบริหารจัดการบัณฑิตศึกษาเพื่อการพัฒนาประเทศโดย ศาสตราจารย์ ดร. เมธี ครองแก้ว คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์สรุป การจัดการศึกษาทุกระดับต้องคำนึงถึง Demand side /Supply side ผู้เรียน ต้องการเพิ่มความรู้/ทักษะ เปลี่ยนเรียนรู้สาขาใหม่ เพิ่มรายได้ สาขาที่ผู้เรียนต้องการ : ตามพฤติกรรมและจิตวิทยา ลงทุนตามความต้องการของตลาด การคาดการณ์และความเสี่ยงในการทำงาน รายได้และสถานภาพทางการเงินของครอบครัว สถาบันผู้ผลิต/หลักสูตร : ต้องการขยายโอกาสทางธุรกิจ/การบริการวิชาการ เพิ่มองค์ความรู้ ทักษะ ขุมปัญญา ต้องการ/แข่งขันการสนับสนุนงบประมาณ สนองตอบความต้องการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ/พัฒนาประเทศ มุ่งสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ สถานการณ์ณ์ปัจจุบัน Demand side /Supply side อยู่ต่างระดับ ทำให้เกิดปัญหาระดับประเทศ คนเรียน basic science มีน้อย ทำให้เป็นจุดอ่อนของการแข่งขันและความสามารถในการพัฒนาประเทศ รวมทั้งมีผลต่อความแข็งแกร่งทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ คนเรียน social science มีมาก ทำให้เกิดจุดอ่อนของการทำงานหนักและการตาม ขาดผู้นำในทุกระดับ ทิศทางการจัดการศึกษาบัณฑิตศึกษา ต้องศึกษานโยบายของรัฐในการสนับสนุนการจัดการศึกษา แนวโน้มปัจจุบันจะสนับสนุนระดับอาชีวศึกษามากขึ้น แต่ละสถาบันต้องพัฒนาศักยภาพของอาจารย์ เน้นการมีคุณภาพ มุ่งสู่ความเป็นเลิศ รวมทั้งทุ่มเทด้านการวิจัยและสร้างผลงานให้ปรากฏ ขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงต้นทุนการผลิตและศักยภาพของผู้เรียนด้วย |
บรรยายพิเศษ บัณฑิตศึกษาเพื่อการพัฒนาประเทศโดย ดร. พีรพันธุ์ พาลุสุข ผู้ช่วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสรุป แนวทางการดำเนินการบัณฑิตศึกษาของแต่ละสถาบัน ศึกษาทิศทางการพัฒนาประเทศจาก นโยบายของรัฐ แผนพัฒนาฯ ระยะที่ 10 นโยบายอุดมศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ/สกอ. ทบทวนบทบาทและขอบข่ายการจัดการศึกษาของสถาบัน : ผลิตกำลังคนตามความต้องการ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน- พัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการและทิศทางการพัฒนาประเทศ (สาขาเป็นที่ต้องการเร่งด่วน สาขาขาดแคลน- ปฏิรูปการเรียนการสอนให้เป็น R&D เน้นการปฏิบัติจริง โดยวางแผนการจัดการศึกษาโดยสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาคการผลิตและสถานประกอบการ- เน้นคุณภาพบัณฑิตให้เป็นมาตรฐานสากล สามารถเป็นกลไกในการสร้างงานวิจัยที่มีคุณภาพ- สร้างนักวิจัยมืออาชีพในสถาบัน สร้างงานวิจัยพื้นฐานและงานวิจัยประยุกต์ในสาขาที่มีความเชี่ยวชาญและมีความเป็นเลิศ รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณสำหรับการสร้างงานวิจัยให้แก่นักศึกษา- สร้างระบบติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล เพื่อการสร้างระบบการประกันคุณภาพที่เป็นวัฒนธรรมขององค์กร แนวทางการพัฒนาบัณฑิตศึกษาให้มีมาตรฐาน ดึงดูดและรักษาคณาจารย์ที่มีคุณภาพ พัฒนาคณาจารย์และแลกเปลี่ยนคณาจารย์ขยายการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา สร้างสมดุลระหว่างมาตรฐานสากลกับความต้องการของท้องถิ่น ให้มีความอิสระและเสรีภาพทางวิชาการ สร้างผู้นำที่มีความสามารถสูง ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศในการสำรวจและจัดทำข้อมูลสารสนเทศ |
อภิปรายร่วม การดำเนินการของ สภาคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (สคบท).โดย รศ. ดร. วินัย อาจคงหาญ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประธาน สคบท.ผศ. ดร. สมศักดิ์ ดำริชอบ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต เลขาธิการ สคบท.สรุป สคบท. รับที่จะดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลนักศึกษาบัณฑิตศึกษาที่สำเร็จการศึกษา รวมทั้งฐานข้อมูลคณาจารย์และความเชี่ยวชาญ เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ ตลอดจนการจัดกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในการสอบวิทยานิพนธ์ของนักศึกษา |
นอกจากนี้ยังมีการบรรยายพิเศษ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยนายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และการอภิปรายร่วม โดย ดร. จำรูญ คำนวณตา กรรมการสภามหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ นายต่อบุญ พ่วงมหา ผู้บริหารบริษัทเอ็มเวป ประเทศไทยจำกัน ดำเนินรายการโดย ผศ. ดร. ประยุทธ วาศ์แปง คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ |
การจัดการศึกษาให้ทั่วถึงและให้เปล่า (Availability)
การจัดการศึกษาที่ทุกคนเข้าถึงได้ (Accessability)
การจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับ (Acceptability)
การจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับผู้เรียน (Adeptability) ถึงตรงนี้ทำให้ฉุกคิดในใจ ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่งที่อยู่ในสถาบันการศึกษา ซึ่งจะต้องมีหน้าที่ช่วยกันบริหารจัดการศึกษา เพื่อให้ผู้ด้อยโอกาส ไม่ว่าจะทางร่างกาย ความคิด สติปัญญา ได้รับโอกาสในเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ในส่วนของสถาบันการศึกษาทุกระดับ ท่านได้แนะนำให้แต่ละสถาบันบริหารจัดการในส่วนนี้ โดยเริ่มจากนโยบาย วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน รวมทั้งการกำหนดบทบาทหน้าที่สำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในส่วนที่รับทราบจากการสัมมนาครั้งนี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้กำหนดนโยบายและมีการดำเนินการแล้วบางส่วน เช่น การจัดตั้งโครงการศูนย์วิจัยและการบริการการศึกษาพิเศษ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีการเปิดหลักสูตร สาขาวิชากายภาพบำบัด/กิจกรรมบำบัด ระดับบัณฑิตศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ โดยได้รับงบประมาณทุนสนับสนุนการศึกษา จากกระทรวงศึกษาธิการ สำหรับผู้พิการจากจังหวัดในภาคเหนือตอนบน สิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไป คงเป็นการจัดระบบบริหารจัดการเพื่อดูแลนักศึกษาพิเศษ (Disability Support Service Center, DSSC) โดยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ห้องสมุด IT สภาพทางกายภาพของที่เรียน ทั้งสถานที่/โสตทัศนูปกรณื สื่อการเรียนการสอน รวมทั้งรูปแบบและวิธีการสอนที่จะเอื้อต่อนักศึกษากลุ่มนี้ ซึ่งขณะนี้ยังมีไม่มากในมหาวิทยาลัย แต่ต่อไปจะมีมากขึ้น ในการสัมมนาครั้งนี้ ได้รับฟัง ความคิดเห็นของนักศึกษาพิเศษ ซึ่งส่วนใหญ่ศึกษาอยู่ในกลุ่มคณะสังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ รวมทั้งคณะวิจิตรศิลป์ ส่วนใหญ่คณะจะจัดให้มี Buddy ช่วยดูแลช่วยเหลือทั้งด้านการเรียน ความเป็นอยู่ ตลอดจนเป็นล่ามไปในตัว ที่สำคัญนักศึกษากลุ่มนี้ต้องเรียนหมวดศึกษาทั่วไปในส่วนของวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ที่คณะวิทยาศาสตร์ (SC 100 Math 100 ฯลฯ) ซึ่งจะมีปัญหาเรื่องการเรียน รวมถึงวิธีการสอนของอาจารย์ ความพร้อมของสื่อการสอน หนังสือ ตำรา ฯลฯ ทั้งนี้จะได้นำหารือในกรรมการประจำคณะฯต่อไปขอบคุณครับ โลกข้างนอกกำลังเติมหลากหลายวิธีเข้ามา โลกข้างในต้องปรับตัวและเปิดใจกว้างที่จะเรียนรู้มากๆครับ
มีใครสงสัยไหมว่า เขาคิดกันเร็ว หรือเราคิดกันช้า ...หมายถึง inertia อื่นๆนะครับไม่ใช่แค่ความคิด คล้ายว่า สมองไปแต่องคพายศอื่นมันหนักเลยหน่วงไปทั้งหมด
ยังต้องช่วยเร่งกันต่อไปครับ
ขอเรียนผู้สนใจว่า ได้ย้ายคอลัมภ์ "แลกเปลี่ยนเรียนรู้... เล่าสู่กันฟัง" ไปเป็นบล๊อกใหม่ในชื่อเดิมแล้ว เชิญติดตามตอนต่อไป