MASKII (Method for Analysing and Structuring Knowledge) คือ การหา critical knowledge domain ในองค์กร และ การวางแผนกลยุทธ์ เพื่อพัฒนากลยุทธ์ของสถาบัน
รูปแบบ คือ การระบุกลยุทธ์ของสถาบัน และ ดูความรู้ที่จะทำให้ความรู้โอนถ่ายไปสู่บุคลากรคนอื่น จะเป็น implicit k and explicit k ไม่รวม tacit k เพราะอยู่ใต้จิตสำนึก
โดยทั่วไปบริษัททั่วไปไม่ได้วิเคราะห์ว่าทำไมต้องใช้ KM
โดยปกติจะใช้ middle top down approach โดยครั้งแรกต้องดูในสถาบันมีองค์ความรู้อะไรบ้างมีความรู้ที่จำเป็น ต่อมาจึงวิเคราะห์ และ วางแผลกลยุทธ์ และนำมา map ในเชิง matrix
เมื่อสัมภาษณ์เสร็จจะนำไปสร้างRadar Diagram และ นำไปวิเคราะห์ว่าการไปดูแต่ละหัวข้ออะไรยากง่ายกว่ากัน ประเด็น คือ การหาช่องว่างระหว่าง Knowledge Gap and Strategic Gap โดยต้องมีองค์ความรู้เพิ่มเติม หากจะก้าวไปจะต้องหาอะไรมาเพิ่มเติม
การดู strategic capability ซึ่งต้องมาดู know how competency และ การจัดลำดับความสำคัญ ต้องไปดูประเด็นการจัดความสำคัญ
ประเด็นที่สอง เป็นประสบการณ์จาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เล่าสู่กันฟัง โดย ผศ.ดร.ลักคณา KM ที่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เริ่มปี ๕๒ เป็นศิษย์ ดร.ประพนธ์ ผาสุกยืด ของ สคส โดยที่ ม.กรุงเทพ วันไหนว่างจะทำ KM จนปี ๕๓ ไปพบ ดร.วินเซ็นต์ ที่ George Washington U เนื่องจากอาจารย์หนึ่งคนทำหลายอย่างจึงปรับเป็น ระดับกลยุทธ์ เพราะ output จาก km ไม่ชัดเจน และ กลายเป็นภาระ และ มีการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ต่างๆของภาคการศึกษา ของ สกอ สมศ Edpex การแข่งขันทั้งระดับชาติและระดับสากล