69 สุขเล่า....เร้าใจ


สุขใจที่ได้เล่า

ในวันที่ 15  สิงหาคม 2555  ที่ผ่านมา  มีเวทีเรื่องเล่า  ในหัวข้อ “ สุขเล่า  เร้าใจ”  จากทีมลูกจ้างที่กำลังจะเกษียณของศูนย์อนามัยที่ 10  ซึ่งวันนี้ได้ส่งตัวแทนมาเล่าหลายคน  เช่น  อ้ายบุญธรรม พรหมมา ,อ้ายศรันยพงษ์ ช่างกล่อม ,พี่จิราภรณ์  ปัญญา ,พี่บัวเหลียว  ,พี่ประชุมพร  อนันตประดิษฐ์ และพี่แสงทวน  ตันทา  โดยทุกคนได้หมุนเวียนกันเล่าเรื่องราวตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำงานที่องค์กรนี้   ผู้เขียนเองติดภารกิจไม่ได้เข้าฟังในเวทีเรื่องเล่าวันนั้น    ด้วยความที่สนใจและอยากรับรู้เรื่องเล่าเหล่านั้น ผู้เขียนจึงต้องติดต่อขอให้ท่านเหล่านั้นเล่าเรื่องราวให้ฟังซ้ำตัวต่อตัว  เพื่อจะได้เก็บเรื่องราวมาเขียนในบันทึกนี้  ซึ่งโดยรวมเล่าคล้ายๆกันว่า

 

บางคนก็เล่าว่า  มาทำงานเป็นลูกจ้างแรกๆก็ได้รับเกียรติมาก มีความรับผิดชอบมาก  ได้รับมอบหมายให้ทำหลายตำแหน่ง   หมายถึงแล้วแต่เขาใช้ให้ไปทำ  ฮา.....      

บางคน...เล่าว่าได้มาทำเพราะใจรักอยากทำ    

แต่....บางคนทำเพราะไม่มีทางเลือก   ด้วยเหตุจำเป็นที่จะต้องหารายได้มาเลี้ยงชีวิตและครอบครัว   ต้องส่งลูกให้เรียน   ถึงไม่รักแต่ก็ต้องทำใจให้รักและมีความสุขกับงานที่ทำ

 

แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนเล่าเหมือนๆกัน  คือ   เมื่อมาทำงานในองค์กรนี้แล้ว ก็ต้องรับผิดชอบงานและทำให้ดีเต็มความสามารถ  ลองตามอ่านเทคนิคในการทำงานให้มีความสุขจากพี่ๆดูนะคะ

 

  • งานทุกอย่างที่เป็นอาชีพสุจริต  ล้วนแต่มีคุณค่า ดังนั้นขอเพียงแต่คุณ มองให้เห็นคุณค่าในงานที่คุณทำอยู่ว่า   เป็นการได้ช่วยเหลือเกื้อกูล  เป็นประโยชน์กับคนอื่น  โดยเฉพาะคนไข้   คิดให้ได้อย่างนี้แล้วความภูมิใจ ความมั่นใจในการงานของตนเองก็จะดี  การทำงานก็จะมีความสุขมากขึ้น

  • ทำตัวเองให้เป็นคนที่มีความรู้สึกกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา    เพราะความเป็นคนไม่อยู่นิ่งจะทำอะไรมันก็ดูน่าสนุกไปหมด   

  • ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใสเพราะเมื่อเราทำงานด้วยความสุจริตก็ไม่ต้องมานั่งระแวงภัยที่จะตามมาในอนาคตซึ่งเกิดจากการตามจับผิด โดยหน่วยงานของทางการต่างๆ ถ้าเราทำวันนี้ให้ถูกต้องก็ไม่ต้องนั่งกังวลว่าวันวานมันจะผิด

  • ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องเล็กน้อย   อย่า เก็บทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันมาคิด หรือนำมาเป็นอารมณ์ซะทุกเรื่อง ให้คิดว่าผ่านมาแล้วก็ผ่านไป   เช่น วันนี้โดนหัวหน้าตำหนิว่าทำงานแย่มาก  เพื่อนร่วมงานพูดจา  นินทา  เพราะสิ่งเหล่านี้มี ผลกระทบทำให้ไม่มีเวลาคิดในเรื่องดีๆ 

  • ต้องรักองค์กร   เพราะ องค์กร เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของเรา   ต้องใช้เวลาในชีวิตประจำวันของเราที่ทำงาน มากกว่าอยู่ที่บ้านของตัวเองเสียอีก     ถ้าเราคิดว่าไม่มีองค์กรไหนที่ไม่เห็นความสำคัญของตัวคุณ   เท่าองค์กรที่คุณกำลังทำงานอยู่  เพราะเขายอมรับและให้โอกาสเราได้ทำงาน

  • ในชีวิตการทำงาน ไม่มีใครประสบความสำเร็จในการทำงานโดยลำพังได้ ทุกคนมีศักยภาพมีคุณค่าในตัวเขา   ต้องให้เกียรติความคิดหรือความสามารถของเพื่อนร่วมงานหรือ คนรอบข้าง   

  • ปรับตัวให้เข้ากับคนได้ทุกประเภททุกระดับ 

 

 

ผู้เขียนถามว่า  เวลามีปัญหาในการทำงานทำอย่างไร  ส่วนใหญ่ตอบว่า

  • แก้ปัญหาด้วยตนเองก่อน   ถ้าไม่ได้

  • ปรึกษาเพื่อนร่วมงาน   ถ้าเพื่อนช่วยเหลือไม่ได้

  • ปรึกษาหัวหน้างาน

 

สำหรับ ความภาคภูมิใจที่ได้ทำงานในองค์กรนี้   ทุกคนล้วนมีสิ่งที่ดีๆที่ทั้งได้รับจากองค์กรและทำให้กับองค์กร  เช่น 

ป้าปุ๊

 

 

พี่ปุ๊  จากงานคลินิกส่งเสริมสุขภาพ   ซึ่งเป็นคนชอบนันทนาการ  เล่าว่า   รู้สึกยินดีและดีใจมากๆที่ได้เป็นตัวแทนขององค์กรเข้าร่วมหรือดำเนินเกี่ยวกับ การลีลาศ   การร้องเพลง  ยังได้เป็นตัวแทนรับผิดชอบจัดงานลีลาศศูนย์อนามัยที่ 10  ซึ่งจัดให้มีทุกเดือน

 

พี่บัวเหลียว

 

 

พี่บัวเหลียว    จากงานโภชนาการ   เล่าว่า  ดีใจที่ได้มีส่วนทำอาหารอร่อยๆ  ให้กับชาวศูนย์อนามัยที่ 10  และแขกที่มาเยือนอื่นๆ   และสิ่งที่ดีใจและภาคภูมิใจมาก  คือ  ได้รับเกียรติเป็นครูพี่เลี้ยงคอยสอน  แนะนำ  แก่นักศึกษาฝึกงานจากที่ต่างๆ  เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฏ เชียงใหม่  , วิทยาลัยเทคนิค  เป็นต้น

 

พี่จิราภรณ์

 

 

พี่ จิราภรณ์  จากงานวางแผนครอบครัว  บอกว่า ความประทับใจอย่างแรกคือ  มีเรื่องเดือดร้อนจะได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ทุกระดับเสมอ   ต้องขอขอบคุณมากๆ    นอกจากนั้นยังเล่าว่า  ทุกวันมีความสุขที่ได้รับมอบหมายจากชมรมจริยธรรมให้นำสวดและดูแลความเรียบร้อย  ห้องสวดมนต์  เพราะเป็นสิ่งที่ใจรักและมีความสุขที่ได้ทำ 

 

พี่ประชุมพร

 

พี่ประชุมพร จากงานซักฟอก - จ่ายกลาง เล่าว่า ทำงานที่องค์กรนี้มานานมาก  ตั้งแต่เงินเดือน 430  บาท จนปัจจุบันเป็นหลักหมื่นแล้ว ก็ยังได้รับความดูแลเอาใจใส่จากคนในองค์กรเสมอมา     ประทับใจมากที่ให้โอกาสได้ไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ

 

อ้ายบุญธรรม

 

 

อ้ายบุญธรรม   จากงานห้อง Lab  เล่าว่า  ความภาคภูมิใจ  คือ การได้ทำงานที่รับผิดชอบให้ดีที่สุด   และช่วยประหยัดให้องค์กรได้บ้าง   เช่น  การคิด นวัตกรรมแผ่นวางสไลด์จากวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว  เป็นต้น

 

อ้ายศรันยพงษ์  

อ้ายศรันยพงษ์   จากงานจ่ายกลาง เล่าว่า  ทำงานที่นี่มานาน   และทำไปหลายแผนกมากจนสุดท้ายมาอยู่ที่งานจ่ายกลาง  มีความประทับใจ คือ การได้รับการดูแลในเรื่องสุขภาพจากองค์กรมาตลอด  และยังได้เปิดโอกาสให้ไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ  ด้วย

 

 

สุดท้าย ....พี่ๆฝากบอกว่า  หากเราเป็นคนหนึ่งที่ไม่มีโอกาสได้ทำงานที่เรารัก   วิธีแก้ไขคือ...ให้รักในงานที่กำลังทำ

 

ลองทำตามผู้ใหญ่ดูนะคะ   รับรองไม่ผิดหวัง

 

หมายเลขบันทึก: 499707เขียนเมื่อ 22 สิงหาคม 2012 22:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 สิงหาคม 2012 20:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขอให้กำลังใจค่ะ..คิดดี...ทำดี..ชีวีเป็นสุขนะคะ..

 "สุขเล่า....เร้าใจ"....การให้...ดีที่สุด ทั้งผู้รับ...และผู้ให้ค่ะ

 "ความเป็นคน...ไม่ควรแบ่งชนชั้น"

งานทุกอย่างที่เป็นอาชีพสุจริต ล้วนแต่มีคุณค่า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท