วันนี้เริ่มเรื่องด้วยคลื่นนิ่ง ก็เลยลองถามเด็กๆ ว่า รู้จักคลื่นนิ่งไหม? แน่นอน ทุกคนรู้จัก ก็เลยถามว่า คลื่นนิ่งหน่ะ.....อะไรที่...นิ่ง? ก็สนุกสนานกันไป ทำให้รู้ว่าคำถามง่ายๆ ที่เราอาจมองข้ามก็ทำให้เด็กๆ เกิดความฉงนขึ้นมาได้ หลายคนตอบแบบท่องนิยามมาได้ว่า คลื่นนิ่งคืออะไร แต่เมื่อถามว่า อะไรที่"นิ่ง".. ครานี้แหล่ะครับนิ่งไปเกินครึ่งห้อง... มีนักศึกษาคนหนึ่งพยายามตอบ เราก็พยายามถามช่วย (guiding by asking, not by telling) ก็ได้ผลครับ... เค้าแสดงความเข้าใจได้... ก็เลยถือโอกาสเจรจา..ว่า
เวลาที่มีเพื่อนสงสัย...แล้วถาม
หรือ เวลาคนสอนถามแล้วมีเพื่อนพยายามตอบ
ให้พวกเราจงมีความชื่นชม และแสดงออกอย่างถูกต้อง
ห้องเรียนของเราไม่เจริญ ก็เพราะเวลามีใครคุยกับคนสอน
เพื่อนๆ ก็เอาแต่อิจฉา, หาว่าเสียเวลาบ้าง,
หาว่าอวดเก่งบ้าง ความคิดแบบนี้ .. ความอวดโง่แบบนี้ ขอให้หมดไปจากห้องเรียนไทยได้แล้ว
จากนั้นก็นำเสนอเรื่องการเคลื่อนที่ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าผ่านผิวรอยต่อ ซึ่งคณิตศาสตร์ของมันก็น่าปวดหัวพอควร พยาน เอ๊ย ผู้เรียน ก็พยายามลอก เอ็ย จดบันทึก สิ่งที่สำคัญคือ ปริมาณที่บอกค่าสัดส่วนของคลื่นที่สามารถสะท้อนจากผิว และสามารถทะลุผ่านไปในตัวกลางที่สองได้ แน่นอน ถ้าสะท้อนมาก ก็ทะลุเข้าไปได้น้อย... ก็เหมือนการสอน ที่ไม่ใช่แค่วิธีการสอน หากแต่ต้องรวมเอาทัศนคติต่อวิชา ทัศนคติต่อคนสอนเข้าไปด้วย เพราะการสอนด้วยวิธีเดียวกัน แต่ เด็กชอบไม่เท่ากัน ยังไง...ก็สะท้อนเยอะ... และแม้จะส่งผ่านไปได้ ก็อาจจะทะลุหูขวาออกไปซะงั้น วันนี้ก็เลยจบลงได้แค่ตรงที่ ปริมาณที่บอกถึงการสะท้อนและการส่งผ่าน (ของแสงที่ผิวรอยต่อของตัวกลาง)
เอาล่ะ คาบหน้า ก็จะเป็นเรื่องของการนำค่าทั้งสองไปใช้ออกแบบการเคลือบ การฉาบผิววัสดุต่างๆ ใครรู้แล้ว ก็ไม่ต้องมา ใครไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องมา แต่ถ้าใครข้องใจ...ว่ามันจะทำได้ไง... ก็มาเล๊ยยย
การสอนเนื้อหาที่ยากๆแต่สามารถทำให้นักศึกษาเข้าใจได้ง่าย นำไปใช้ได้ เป็นเรื่องที่ดีครับ