รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบวิถีพุทธ
"การศึกษา" นับว่ามีความสำคัญมากต่อการพัฒนาบุคลากรตลอดจนไปถึงเป็นพื้นฐานของการพัฒนาส่วนอื่น ๆ ด้วย เพราะไม่ว่าจะทำการพัฒนาส่วนใดต้องเริ่มมาจากการพัฒนาคนเสียก่อน ดังนั้นการพัฒนาคนสามารถทำได้หลาย ๆ รูปแบบ อย่างที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาคนคือการให้การศึกษา ดังนั้นการพัฒนาประเทศต้องพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาคนโดยต้องคำนึงถึงการศึกษาเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การศึกษาวิถีพุทธ เป็นการศึกษาที่มุ่งเน้นให้ผู้ศึกษาเข้าใจธรรมชาติ ของโลกและชีวิตที่แท้จริง และฝึกให้ผู้ศึกษาสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ตั้งแต่ระดับการดำเนินชีวิตประจำวันของคนทั่วไป คือ การกิน อยู่ ดู ฟัง จนถึงระดับการดำเนินชีวิตของนักบวชผู้มุ่งมีชีวิตที่บริสุทธิ์ และในทุกระดับยังผลให้ผู้ศึกษาเองมีความสุขพร้อมๆ กับช่วยให้คนรอบข้างและสังคมมีความสุขพร้อมกันไปด้วยอย่างชัดเจน
โรงเรียนวิถีพุทธจึงเป็นหนึ่งในโรงเรียนรูปแบบใหม่ ที่จะช่วยผลักดันให้เด็กและเยาวชนไทยสามารถพัฒนาตามศักยภาพ เป็นคนดี คนเก่งของสังคม และสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข
รูปแบบโรงเรียนวิถีพุทธ
จุดเน้น โรงเรียนวิถีพุทธดำเนินการพัฒนาผู้เรียนโดยใช้หลักไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา อย่างบูรณาการ ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านการพัฒนา“การกิน อยู่ ดู ฟัง เป็น” คือ มีปัญญารู้เข้าใจในคุณค่าแท้ ใช้กระบวนการทางวัฒนธรรมแสวงปัญญา และมีวัฒนธรรมเมตตา เป็นฐานการดำเนินชีวิต และเป็นการอบรมเพื่อพัฒนากาย ความประพฤติ จิตใจ และปัญญาของผู้เรียนทุกวัยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งยังมีผู้บริหารและคณะครู รวมถึงบุคลากร เป็นกัลยาณมิตร
ลักษณะโรงเรียนวิถีพุทธ เน้นการจัดสภาพทุก ๆ ด้าน เพื่อสนับสนุนให้ผู้เรียนพัฒนาตามหลักพุทธธรรมอย่างบูรณาการที่ส่งเสริมให้เกิดความเจริญงอกงามตามลักษณะแห่งปัญญาวุฒิธรรม ๔ ประการ คือ
๑. สัปปุริสสังเสวะ หมายถึงการอยู่ใกล้คนดี ใกล้ผู้รู้ มีครู อาจารย์ดี มีข้อมูล มีสื่อที่ดี
๒. สัทธัมมัสสวนะ หมายถึง เอาใจใส่ศึกษาโดยมีหลักสูตร การเรียนการสอนที่ดี
๓. โยนิโสมนสิการ หมายถึง มีกระบวนการคิดวิเคราะห์พิจารณาหาเหตุผลที่ดีและถูกวิธี
๔. ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ หมายถึง ความสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตได้ถูกต้องเหมาะสม
แนวการสอนวิถีพุทธ แบ่งได้เป็น ๒ อย่างคือ
๑.การสอนเป็นรูปแบบคือ การสอนวัฒนธรรมไทย เช่น การไหว้ การทำบุญตามประเพณี การทำตัวเป็นพุทธมามะกะ
๒.การสอนแบบตัวแท้จริง คือ สอนหลักการแนวคิดของแนวพุทธ ซึ่งคงสรุปได้ว่าแนวพุทธที่เรานำมาสอนคงเป็นการสอนในแบบไตรสิกขา
การบริหารจัดการโรงเรียนวิถีพุทธ
มีขั้นตอนสำคัญ เช่น การเตรียมการ เตรียมทั้งบุคลากร ผู้เกี่ยวข้อง แผนงาน ทรัพยากร ที่มุ่งเน้นสร้างศรัทธาและฉันทะในการพัฒนา การดำเนินการจัดสภาพและองค์ประกอบต่างๆ ที่จัดเพื่อส่งเสริม ให้เกิดความเจริญงอกงามหรือปัญญาวุฒิธรรม ในการพัฒนาผู้เรียน การดำเนินการพัฒนาทั้งผู้เรียนและบุคลากร ตามระบบไตรสิกขาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้สภาพและ องค์ประกอบที่จัดไว้ ขั้นต่อมา คือ การดูแลสนับสนุน ใกล้ชิด ด้วยท่าทีของความเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน ที่จะทำให้การพัฒนานักเรียนและงาน ดำเนินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อจากนั้น มีการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยอิทธิบาท 4 และหลักอุปัญญาตธรรม คือ ความไม่สันโดษในกุศลธรรม และความไม่ระย่อในการพากเพียร เป็นต้น ขั้นสุดท้ายของกระบวนการบริหารแต่เป็นฐานสู่การพัฒนาในลำดับต่อไป คือ ขั้นประเมินผลและเผยแพร่ผลการดำเนินงาน
การดำเนินงานที่ผ่านมาของโรงเรียนวิถีพุทธส่วนใหญ่นั้น นักเรียนเข้าสู่ระเบียบวินัยเป็นผู้มีความประพฤติดี คิดดี มีคุณธรรม คณะครู – ผู้บริหาร ร่วมแรงร่วมใจในการพัฒนาการเรียนการสอน กิจกรรมเสริมการเรียน ตลอดจนจัดหลักสูตรสถานศึกษาที่บูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นและเชื่อมโยงกับชุมชนได้ ผลที่ตามมาคือ ผู้ปกครอง ครอบครัวให้การยอมรับเชื่อถือและพอใจในพฤติกรรมที่ดีของนักเรียน
การศึกษาที่กลายเป็นการบริโภคความรู้แต่ขาดการเรียนรู้ ฉะนั้นความท้าทายของโรงเรียนวิถีพุทธน่าจะเป็นเรื่องการสร้างคนดีที่เก่ง และมีความสามารถทางวิชาการ ที่ไม่ยิ่งหย่อนกว่ามาตรฐานการศึกษาสากล และยิ่งไปกว่านั้นคือสามารถเรียนรู้ถึงระดับคุณค่าของสาระวิชาต่างๆที่เป็นไปเพื่อความดีความงามได้
ดังนั้น หากทำได้จริง คนดีย่อมมีแนวโน้มที่จะเก่ง และใช้ศักยภาพได้เต็มที่กว่าคนอื่นๆ เช่นนั้นหรือไม่ เป็นคำถามที่คงต้องรอคอยการพิสูจน์ เพื่อให้คำตอบแก่สังคมไทยในเรื่องทิศทางการศึกษากันต่อไป
J J J J J J J J J J
ไม่มีความเห็น