- เนื่องจากคนในสมัยก่อนเชื่อกันว่าโรคเกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ จึงมักจะทำการรักษาด้วยวิธีการทางไสยศาสตร์ ตามความเชื่อในชุมชน
- ต่อมา มีการพัฒนา โดยใช้สมุนไพรในการรักษาโรคต่าง ๆ แต่เมื่อเกิดโรคระบาดขึ้นก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากมาย เนื่องจากไม่มีใครเข้าใจสาเหตุและวิธีการกำจัดโรค
- จากนั้นในสมัยรัชกาลที่ 1 เริ่มมีการบันทึก รวบรวมตำรายาต่างๆ ไว้
- การแพทย์ตะวันตกเข้ามามีบทบาทในประเทศไทย โดยคณะมิชชันนารี ทำให้สามารถยับยั้งโรคระบาดได้ และมีการเผยแพร่การรักษาแบบตะวันตก แต่ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จนัก เพราะการรักษาพยาบาลแผนไทยเป็นสิ่งที่สืบทอดต่อกันมาจนเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทย
- ในสมัยรัชกาลที่ 5 เริ่มมีจัดโรงพยาบาลขึ้น และมีการเรียนการสอนวิชาแพทย์
- มีการจัดตั้งสถานีอนามัย โรงพยาบาลตามจังหวัดชายแดน โดยจะไม่มีการเก็บค่ารักษาพยาบาล แต่ก็ยังมีข้อเสียคือไม่มียา อีกทั้งจำนวนแพทย์และพยาบาลที่มีอยู่ก็ไม่เพียงพออีกด้วย
เมื่อเกิดโรคระบาด ก็มีเพียงเพิงที่พักสำหรับให้น้ำเกลือเท่านั้น เพราะยังไม่มีใครรู้วิธีการรักษาโรคระบาดเหล่านั้น
มีสถานีอนามัยในชุมชนที่อยู่ห่างไกล
- มีการกระจายสู่ชนบทมากขึ้น ก่อตั้งสถานีอนามัยและโรงพยาบาลประจำอำเภอ ทำให้ประชาชนได้รับการรักษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน ตลอดจนการบริการสาธารณสุขเคลื่อนที่
- มีการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการรักษามากขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
- มีระบบบริการที่หลากหลาย ซึ่งใกล้ชิดประชาชนและมีความพร้อมมากขึ้น
1) การบริการปฐมภูมิ : เน้นครอบคลุม มีการผสมผสานทั้งด้านการรักษา การส่งเสริมสุขภาพ และการป้องกันควบคุมโรค
2) การบริการทุติยภูมิ : เน้นการรักษาโรคที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น มีการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่สูงขึ้น เช่น โรงพยาบาลอำเภอ
3) การบริการตติยภูมิ : จะเน้นการรักษาในสาขาเฉพาะทาง เช่น โรงพยาบาลในโรงเรียนแพทย์
- เน้นรณรงค์ให้มีการป้องกันการเกิดโรค ส่งเสริมให้มีการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น แทนที่จะเน้นการรักษาโดยไม่คำนึงถึงการป้องกันโรค
- มีการพัฒนาคุณภาพของบุคลากรทางการแพทย์ และบริการสาธารณสุขทุกระดับ
- มีระบบส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในการรักษามากกว่า
- มีนโยบายการพัฒนาสุขภาพของประชาชน
- เพิ่มจำนวนบุคลากรทางด้านสาธารณสุขให้เพียงพอ เช่น โครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท
- มีการให้ความรู้ด้านสุขภาพเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชนให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น
- มีโครงการประกันสุขภาพต่างๆ เช่น
1) โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค : เป็นโครงการที่ทำให้ประชาชนได้รับการบริการที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะมีฐานะอย่างไร
2) บัตรทอง : เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริมสุขภาพ การควบคุมโรค การรักษาพยาบาล การป้องกันความพิการ ตลอดจนการอื่นใดเพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่หน่วยบริการนั้น ๆ จัดขึ้น
3) ประกันสังคม : ระบบประกันสังคมที่ถือเป็นหลักปฏิบัติกันในปัจจุบัน มีทั้งหมด 8 ประเภท คือ
3.1) การประกันการเจ็บป่วย
3.2) การประกันการคลอดบุตร
3.3) การประกันอุบัติเหตุและโรคอันเกิดจากการทำงาน
3.4) การประกันทุพพลภาพ
3.5) การประกันชราภาพ
3.6) การประกันการสงเคราะห์ครอบครัว
3.7) การประกันการเสียชีวิต
3.8) การประกันการว่างงาน
4) สวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการ ลูกจ้างประจำและผู้รับบำนาญ : เป็นโครงการที่ให้สิทธิการรักษาพยาบาลแก่ข้าราชการ/ลูกจ้างประจำ/ผู้รับบำนาญ และ บิดา มารดา คู่สมรสและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ในสถานรักษาพยาบาลต่าง ๆ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้
30 บาทรักษาทุกโรค ใครคิด. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://linesiam.multiply.com/journal/item/119/119?&show_interstitial=1&u=%2Fjournal%2Fitem. (วันที่ค้นข้อมูล : 10 สิงหาคม 2555)
กระทรวงแรงงาน, สำนักงานประกันสังคม. การประกันสังคมในประเทศไทย. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.sso.go.th/wpr/category.jsp?lang=th&cat=141. (วันที่ค้นข้อมูล : 15 สิงหาคม 2555)
ใครมีสิทธิ์ได้บัตรทอง. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.oknation.net/blog/cheeraphong45/2010/05/13/entry-1. (วันที่ค้นข้อมูล : 13 สิงหาคม 2555)
สิทธิประโยชน์ที่แตกต่าง บัตรทอง - ประกันสังคม. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.consumerthai.org/main/index.php?option=com_content&view=article&id=1679%3A2011-03-07-06-00-19&catid=204%3A2012-05-15-05-32-54&Itemid=196. (วันที่ค้นข้อมูล : 15 สิงหาคม 2555)
สุภณิดา ปุสุรินทร์คำ. ความเป็นมาของระบบสาธารณสุขไทย. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://supanida-opal.blogspot.com/2011/06/blog-post_9080.html. (วันที่ค้นข้อมูล : 10 สิงหาคม 2555)
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอรัตภูมิ, กลุ่มงานสนับสนุนวิชาการ. สิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากบัตร 30 บาท. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://province.moph.go.th/rattaphum/UC.htm. (วันที่ค้นข้อมูล : 11 สิงหาคม 2555)
553070022-9 นางสาวญาดา จารุอมรจิต
553070052-0 นายปุณณวิช โล่ห์วงศ์วัฒน
553070002-5 นางสาวกนกวรรณ ธเนศพลกุล
553070025-3 นางสาวณิชกานต์ ประพันธศักดิ์
553070060-1 นางสาวภวิกา สุพรรณนนท์
553070079-0 นางสาวสุชีรา นกแก้ว
553070217-4 นายอธิวัฒน์ อุ่นพิกุล
553070184-3 นายภรัณยู เจริญวานิช
553070127-5 นางสาวณัฐชยาภรณ์ จันทร์ส่อง
553070192-4 นายวงศธร สว่างขจร
553070093-6 นางสาวกรกนก ตรีศิริรัตน์
553070148-7 นางสาวธันยพร วรรณชู
553070123-3 นายณรงค์ฤทธิ์ สิงห์สาย
553070151-8 นายธีรพัฒน์ ใจสุข
553070105-5 นางสาวคคนางค์ จันทรโยธา
553070196-6 นางสาววรัชญา วิริยะสุนทร
553070144-5 นายธวัชชัย อุตมัง
553070259-8 นางสาวแพรวา พนาเวศร์
553070233-6 นางสาวสุรอนงค์ สุขเกษม
ดีมากเลยครับ!
ระบบประกันสุขภาพ ถือเป็นการตอบสนองความต้องการพื้นฐานของเราได้ดีเลยนะคับ : ))
ได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับพัฒนาการการบริการสุขภาพเยอะเลย
โครงการบัตร 30 บาททุกโรค เป็นโครงการที่เข้าถึงได้ทุกคนจริงๆ ชอบโครงการนี้ๆ
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ ทำให้ได้รูประวัติการจัดบริการสุขภาพของไทยเลย
พัฒนามาเยอะเลยนะเนี่ย
ยอดเยี่ยมไปเลย มีประโยชน์ต่อสังคมโลก
อยากให้ระบบสาธารณสุขในประเทศไทยกระจายไปสู่ชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ :)
ได้ความรู้เยอะเลยนะคะ :)
ดีๆ ได้ความรู้ขึ้นเยอะเลยเกี่ยวกับพัฒนาการการบริการสุขภาพในประเทศไทย
ขอบคุณที่นำความรู้มาเผยแพร่ เป็นประโยชน์มากๆค่ะ :D
โอ้โห มาเป็นสาระเลยเว้ยเฮ้ย ! ^^
มีสาระมากครับ
ว๊าว น่าสนใจมากเลยย ^_^
มีการพัฒนาการรักษาเรื่อยๆเลย เรื่องระบบประกันสุขภาพ ถือว่าดีมาก สำหรับคนไทย 555
ขอบคุณมากเลยนะคะ สำหรับข้อมูลดีๆ > <
แนวโน้มของระบบการจัดบริการสุขภาพดีขึ้นเรื่อยๆ ดีจัง :D
ขอให้พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ