เนะ...สยามกุก ถูกทุบทิ้งไปแล้ว
ผมได้เร่ร่อนท่องไปในเน็ต ได้อ่านพบข้อความด่วนว่า ณ บัีดนี้ คำจารึกบนกำแพงนครวัดที่ว่า "เนะ สยำกุก" (แปลได้ประมาณว่า "นี่ไง คนสยาม") ได้ถูก ทุบทิ้งไปแล้ว
เป็นเครื่องส่อพิรุธอย่างแรงว่า เขมร ไม่ชอบใจคำนี้เลย เพราะมันแสดงให้เห็นว่า ชาวสยาม คือ ชนชาติ ที่สร้างนครวัด ดังที่ผมได้เขียนร่ายยาวให้เหตุผลไว้หลายสิบตอนในหลายบลอก รวมทั้ง กทน.
แต่ไม่ค่อยมีใครสนใจอ่าน
การทุบทิ้งนี้มันแสดงโดยอ้อมด้วยว่า ในวันนี้ คนเขมร ฉลาด กว่าคนไทยไปแล้วกระมัง เพราะมันแสดงว่าคนเขมรเขาสนใจคำๆนี้มาก จนตีความแตก แล้วเหงื่อตก ว่า มันเป็นหลักฐานมัดที่สำคัญว่าสยามคือเจ้าของนครวัด
แต่คนไทยเรา คิดให้ และชี้ให้ชัดๆ กันอย่างไร ก็ไม่มีใครสนใจ แถมคนชี้โดนด่าหยาบคายในหลายบอร์ด หาว่าโง่เง่าเต่าตุ่น เป็นวัวเป็นควายไปโน่น
...คนถางทาง (๑๕ สค ๒๕๕๕)
ความเห็น (7)
น่ากลัวค่ะอาจารย์ คนเขาเริ่มคิดเรามัวแต่เถียงกัน กลัวไม่เป็นใหญ่ เจริญ(ลง)ประเทศไทย
เมื่ิอกั้เข้าไปหาบทความชลัญเคยอ่านเขามีความคิดคล้ายๆอาจารย์ คือ คุณชำนาญ สัจจะโชติ เขียน เรื่องสยำกุก - นครวัด กองทัพศรีวิชัย: ความเป็นมาของชนชาวสยาม
ผมเองก็เริ่มมีความเชื่อว่า ศรีวิชัยกับทวาราวดีนี้เป็นขอม (หรือสยาม) โบราณนั่นเอง แม้กษัตริย์ที่เิริ่มต้นขอมนครวัด ที่พระนามว่า ชัยวรมันที่ ๒ นั้น ก็คือ ไชยา + วรมัน น่าจะมาจากเมืองไชยา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรศรีวิชัยนั่นเอง (แต่ฝรั่งมัีนหาว่ามาจาก ชวา ไปโน่น ซึ่งนักวิชาการไทยก็ยกมือพนมน้อมรับกันแต้เลย)
สวัสดีค่ะพี่คนถางทาง ข้อมูลแน่นเอี๊ยดเลยนะคะ ไชยา+วรมัน มาจากไชยา เมืองหลวงอาณาจักรศรีวิชัยน่ะถูกต้องค่ะ แต่ก็ยังสงสัยค่ะว่าคนเขมร จะฉลาดกว่าคนไทยโดยเฉพาะเรื่องการเมืองหรือเปล่า?
เจ็บค่ะอาจารย์ เจ็บที่ถูกรุกราน หน้าตาเฉย..
คิดว่า คนเขมร ไม่ได้ฉลาดกว่าคนไทย (กล่าวอีกนัย คนไทยไม่ได้โง่กว่าเขมร)...อาจารย์ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมชได้แสดงไว้ตอนหนึ่งในถกเขมรเมื่อคราวที่ท่านได้ไปเยือนในปีพ.ศ.2495 ว่า...........ความรู้สึกที่ได้มาเกี่ยวกับเมืองเขมรนั้นก็คือมีคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆบ้านเรากำลังเริ่มขยับเขยื้อนตัวเพื่อจะก้าวออกไปข้างหน้าหลังจากที่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่มาเป็นเวลาช้านาน เขาเหล่านั้นจะก้าวไปทางใดและก้าวไปถึงไหนเป็นเรื่องของกาลเวลาและเหตุการณ์ในอนาคต แต่เท่าที่พอจะเห็นได้ในปัจจุบันนั้นก็คือกลุ่มคนนั้นเขามิได้รังเกียจเรา และขณะที่เขากำลังเคลื่อนไหวอยู่นั้นตาเขาก็จับอยู่ที่เราเพื่อดูเป็นแบบฉบับ ตัวเราเองก็กำลังเคลื่อนไหวก้าวออกไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง หากเราก้าวออกไปในทางที่ถูกอันจักนำตัวเราไปสู่ความสุขความเจริญ คนเหล่านั้นเขาก็จะต้องตามเราไปอย่างไม่มีปัญหาอะไรเลยเพราะวิสัยวิญญููชนย่อมเลือกเฟ้นเอาตัวอย่างที่ดีเป็นแนวทางปฏิบัติ เขมรกับไทยอาจเป็นประเทศคนละประเทศ พลเมืองแห่งทั้งสองประเทศนั้นก็อาจเป็นคนละเผ่าคนละภาษา แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขมรกัับไทยที่ซ่อนเร้นอยู่ไม่มีใครเห็นนั้นมีมากมายเกินกว่าที่จะตัดขาดจากกันได้ ความสัมพันธ์เหล่านี้จะต้องปรากฏตัวโจ่งแจ้งออกมาวันหนึ่งในเวลาข้างหน้า (จาก....http://mblog.manager.co.th/septimus/th-19827/)
มองว่า คนเขมร น่าสงสาร และอยู่กับความทุกข์แสนสาหัส มากว่า 60 ปี นับแต่เป็นประชาธิปไตย สู่สังคมคอมมูน และปัจจุบันสังคมลูกครึ่ง สิ่งหนึ่งที่คนเขมร เหมือนกับคนไทยก็คือ ต้องทนกับการเมือง...จบครับ
กลุ่มคนที่ทำลายสารเลวมาก