ถ้าพูดถึงการประกันคุณภาพการศึกษา คนที่ทำงานด้านนี้ก็พอจะเข้าใจและรับรู้ถึงกระบวนการจัดทำระบบงาน แต่มีอีกหลายๆ คนที่มองว่ายากลำบากซับซ้อนและก็ไม่มีใครอยากเข้ามาทำงานด้านนี้ ข้อเสนอแนะนี้ผมเคยพูดกับ ผอ.สำนักมาตรฐานและประกันคุณภาพของมหาวิทยาลัย ในเรื่องของการหาหลักฐาน และการที่จะให้อาจารย์ เจ้าหน้าที่ทุกคนมีส่วนร่วมใีนการทำงานด้านการประกันคุณภาพการศึกษา ผมสังเกตจากการเชิญประชุมเรื่องการประกันคุณภาพของมหาวิทยาลัย จำนวนคนเข้าประชุมหรืออบรมต่าง ๆ จะน้อย สาเหตุหนึ่งก็มาจากอาจารย์และเจ้าหน้าที่บอกไม่มีความรู้ ไม่รู้เรื่องงานประกันคุณภาพการศึกษา นี่เป็นปัญหาการประกันคุณภาพที่ต้องรีบแก้ไข หลักฐานการประเมินมาจากอาจารย์เจ้าหน้าที่ที่ทำงาน หากไม่เข้าใจรายละเอียดแล้วก็จะหาหลักฐานประกอบการประเมินที่ไม่ชัดเจน ก็ส่งผลถึงคนทำงานประกันในคณะต้องจัดทำหลักฐานใหม่ ต้องค้นหาหลักฐานเป็นอันไม่ต้องทำอะไร งานไม่เสร็จก็ถูกตำหนิบ้าง ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้น ควรจัดทำรายละเอียดเอกสารหลักฐานหลักที่จะต้องใช้ในแต่ละตัวชี้วัด ทั้ง สกอ.และ สมศ. เช่น องค์ประกอบที่ 1 แผนงาน ตัวชี้วัดที่ 1 เอกสารหลักฐานประกอบด้วย 1 แผน (คำว่าแผนก็ต้องบอกด้วยว่าแผนอะไร แผนยุทธศาสตร์ แผนการศึกษา แผนพัฒนาบุคลากร ฯลฯ ) อะไรก็ระบุให้ชัดเจน เพื่ออาจารย์ที่ได้อ่านได้ทราบเลยว่าอาจารย์ทำงา่นแล้วต้องเก็บหรือมีหลักฐานอะไรบ้าง เจ้าหน้าที่ก็จะได้ทราบทุกคนรับทราบร่วมกัน
นอกจากนี้จะทำให้ผู้ตรวจประเมินที่ประเมินในแต่ละปีเข้าใจและรับทราบข้อมูลตรงกัน ไม่ใช่เกิดปัญหาเหมือนคณะในปีที่ผ่านมา ผู้ประเมินก็อบรมเหมือนกัน ก็เข้าใจหรือตีความไปคนละอย่างก็เกิดปัญหาถึงขั้นจะฟ้องกันฐานหมิ่นประมาท (เพราะเข้าใจไม่ตรงกัน)
ทางออกของปัญหานี้ก็น่าจะเป็นอย่างนี้ แต่ละตัวชี้วัดตั้งหลักฐานหลักไว้ ส่วนคณะมีมากกว่าหลักฐานหลักก็เอามาพูดคุยกันได้แต่จะได้ลดขั้นตอนการทำงานทั้งระดับ มหาวิทยาลัย คณะ และสาขาวิชา รวมทั้งให้อาจารย์เจ้าหน้าที่เข้ามามีส่วนร่วม ทุกคณะในมหาวิทยาลัยจะเป็นแนวทางเดียวกันที่ทำงานครั้งเดียวได้ผลงานมากมาย
ฝากสำนักมาตรฐานพิจารณาและเชิญผู้เกี่ยวข้องไปสัมมนากันสัก 1 วันก็คงได้หลักฐานที่ชัดเจนออกมา ปัญหานี้อาจจะดูเล็กน้อยแต่บางคณะอาจจะมองผ่าน แต่ตราบใดที่การประกันคุณภาพยังต้องตรวจและดูเอกสารสิ่งเหล่าก็ยังจำเป็นต้องดำเนินการนะครับ
ไม่มีความเห็น