เที่ยววังน้ำเขียวเปรี้ยวที่สามมิติแวะสวนนงนุชนอนแปดริ้วหิ้วของที่ปาลิโอ้

ฉลองมงคลสมรส ดร.เจริญ – น้องแนน 11 สิงหาคม 55 บ้านเราเริ่มออกเดินทางตอนตี 4 วันที่ 10 สิงหาคม 55 ออกจากบ้านโดยรถตู้พี่ชัย พร้อมกันที่หลังบ้านโดยมีแม่นุชเป็นโต้โผ จุย ฉาย เถียนขึ้นรถแล้วหลับปุ๋ยตามระเบียบ ถึงบ้านไผ่แวะรับคุณตา คุณยาย ป้าน้อย ลุงสำรวย แล้วก็เดินทางต่อไปบนเส้นทางขอนแก่น มุ่งสู่วังน้ำเขียวแวะเที่ยวที่สวนเห็ด ได้หนังสือนาฬิกาชีวิตมา 2 เล่ม แล้วไปผาเก็บตะวัน ได้ยิงเม็ดมะค่า แต่ก่อนยิงก็ขูดสักหน่อยเพื่อให้มันเกิดง่ายขึ้น แล้วออกจากวังน้ำเขียวเริ่มมีรถสวนมาติดบ้างเนื่องจากมีรถใหญ่เกิดอุบัติเหตุช่วงขาลงจากเขา การจราจรเลยติดขัด พอลงมาได้ก็ตรงไปตามเส้นทางสู่ชลบุรี นัดแนะว่าให้ไปรับจินจวนที่บางแสน ซึ่งจริงแล้วโปรแกรมเราจะตรงไปที่พัทยาก็เลยมาทางเขาปัก แต่ถ้าจะเข้าบางแสนก่อนเราไปทางมอเตอร์เวย์จะใช้ระยะทางน้อยกว่า อย่างไรก็ไม่ยากเพราะเรามีรถ คนขับก็ไม่อิดออด สบายมาก แวะกินข้างเที่ยงที่พนมสารคาม แล้วเข้าทาง 315 แยกพนัส ไปถึงบางแสนแวะรับจินจวน แล้วเข้าพัทยาไปพิพิธภัณฑ์ 3 มิติ ลูก หลานชอบมาก คุ้มค่าบัตร 150.- ออกมาไปกินโต้รุ่งพัทยา แถว ๆ พิพิธภัณฑ์นั่นแหละ จานละ 40.- นึกไม่ถึงว่าจะได้กินอาหารดีราคาสมเหตุผลที่พัทยาก็คราวนี้ กลับเข้าที่พัก รร.เอสเอส ดร.หนุ่ม จ่ายค่าเช่าไว้แล้ว พักห้อง301 / 302 ติดชายหาด ไม่ต้องลงไปนั่งเก้าอี้สนามก็บรรยากาศเดียวกัน ตอนเช้าไม่มีโปรแกรมเพราะกลัวว่าจะไม่ทันงานเย็น ตอนเช้าลูก ๆ มาเล่นสระน้ำของโรงแรม แล้วอาม่ามาเลยชวนไปปั่นจักรยานแบบปั่น 3 คน เอามา 2 คัน จุ้ย อาม่า ฉาย 1 คัน ต้น นุช เถียน 1 คัน แม่นั่งไปด้วย ปั่นจากหาดบางแสนไปแหลมแท่น ห่างกันประมาณ 3 – 4 กม. ไปดูเขาตกหมึก ตอนเช้าแม่ซื้อหมึกที่บางแสน 200.- ให้หลานกิน แซบมาก ขอบอก ขากลับออกจากแหลมแท่น อาม่าไปกับลุงสว่าง ฝากจินจวนไว้ พากันปั่นเข้าไปในถนนคนเดิน ตอนที่เขายังไม่เปิด จักรยาน 3 คนมันปั่นยาก บังคับยากอยู่นะ พอเข้าไปที่ที่เขาวางกล่องตั้งแผงเอาไว้ เหมือนแรลลี่ จินเถียนสนุกใหญ่เลย กลับมานอนรอเวลา สัก 11.00 เขามารับไปที่บ้านดอกเตอร์ นอนรอเวลา ประมาณ 3 โมงกว่า น้องมารับไปร้านทำผม 4โมงกว่าน้องแนนยังทำไม่เสร็จก็เร่งช่างไป ออกจากร้านได้บึ่งรถไปที่จัดงาน เขาก็โทรมาตามเช็คทุกระยะ พอถึงงานก็โล่งเลย ในงานตอนน้องพูดพึ่งรู้ว่าน้องเหงา แต่ใจเรามีน้องตลอด รู้สึกว่าเรามีน้อง แต่อาจจะเพราะเราอยู่บ้านก็เลยไม่รู้สึกเหงา เสร็จงาน ลาผู้ใหญ่ กลับที่พัก คิดกันว่าจะคืนห้อง เพราะอยากออกเช้าวันที่ 12 เพื่อไปนอนแถวเขาใหญ่ หรือนครนายก ตกลงคืนห้องได้ ถ้าจ่ายเงินสด ก็คืนเต็ม แต่ดอกเตอร์ใช้บัตรก็เลยโดนหัก 30 เปอร์เซนต์ ออกเดินทาง 07.00 เช้ากว่าที่นัดหมายไว้ 1 ชม. ไปที่สวนนงนุชพัทยา ดีมากเลยเพราะมาวันแม่ แม่ฟรี แต่ที่ดีเพราะต้นได้เม็ดปาล์มมา 2 ชนิด คือปาล์มเงิน กับแชมเปญ 3 ถุง 100.- ปาล์มเงินเม็ดใหญ่ มี 8 เม็ด แชมเปญ มี 15 เม็ด ชมการแสดง ประทับใจช้างมาก ขอบอก แล้วพาเถียนไปปั่นจักรยานน้ำ ขึ้นมาเที่ยงก็เลยออกจากสวนไปหากินข้างเพราะคนข้างในแยะมาก เลยอดเดินชมการจัดสวน แต่ก็ฝากไว้ก่อน ไปกินข้าวเที่ยงระหว่างทางไปแปดริ้ว ที่หน้าบ้านกำนันฝัด-หมู แล้วตรงไปตลาดบ้านใหม่ ตลาดเก่าได้ถ่ายรูปกับคนเก่าบรรยากาศเก่า ๆ โบราณแบบที่เขาว่า สงสัยต้นจะตกยุค เนื่องจากคนรุ่นใหม่สมัยนี้คงจะโหยหาบรรยากาศเก่า ๆ อย่างนี้ ก็เล่าให้ลูกฟังเกี่ยวกับก๋วยเตี๋ยวต่อชาม เพราะเราไปนั่งกินที่ตลาดบ้านใหม่ ออกจากตลาด ผ่านปราจีนบุรีตรงไปนครนายก ชวนลุงสว่างมาเข้าขบวนแถวนั้นพอดี ยังหาที่พักไม่ได้ นุชเริ่มมีอาการหงุดหงิด วิ่งผ่านปราจีน เข้านครนายก กินบะหมี่ชุนฮั้ว ข้าวมันไก่ ในลาดเมืองนครนายก ออกไปหาที่นอนได้บ้านขวัญนคร คืนละ 2500.- เข้าไปนอน 12 คน ตอนเช้ามาเดินสูดอากาศ ได้ฝากท้องกับพี่แม่บ้าน เป็นอาหารเช้าข้าวต้ม 400.- อร่อยในแบบฉบับคนเดินทาง อร่อยจริงนะขอบอก หมูเป็นหมูไม่มีวิญญาณหมู เช้าวันที่ 13 สิงหาคม 55 ไปเขื่อนขุนด่านปราการชล เยี่ยมชมก่อนออกจากนครนายก ไปแวะนมัสการหลวงพ่อปากแดง สักการะพระพิฆเนศใหญ่ที่สุด กระซิบข้างหูหนูแล้วหนูจะไปบอกท่าน ถึงปากช่องกินข้างเที่ยง 100 หม้อ 775.- แวะเที่ยวปาลิโอ้ วัยรุ่น (ลูก ๆ ) มักหลาย ถ่ายรูปอัพโหลด หรือเราตกยุคอีกแล้ว ออกจากปาลิโอ้ นุชก็ยังไม่ได้รถกลับเข้ากรุงเทพ ถามเครื่องบินก็รับไม่ไหว เห็นรถติดแล้วให้ใจอ่อน จนน้อยหน่าจองให้ได้ที่ขอนแก่น ขึ้นรถตอน 01.45 ส่งพ่อแม่ พี่น้อยลุงสำรวยที่บ้านไผ่ แล้วไปกินเย็นตาโฟกลางเมืองขอนแก่น ส่งนุชที่บ้านที่หน่อย แล้วกลับอุดรถึงบ้านตอน 20.30 จบการเดินทาง