ความทรงจำกับการไปปลูกป่าปีสุดท้าย


เปลี่ยนบรรยากาศกินข้าวตอนกลางวัน
           สวัสดีชาว gotoknow และผู้อ่านทุกท่านวันนี้ข้าพเจ้าจะมาเล่าวันที่ข้าพเจ้าและเพื่อนๆไปปลูกป่าที่ภูหินล่องกล้ามา ในวันเสาร์ที่ 26 ส.ค 2549  โดยมีคณะอาจารย์และนิสิตคณะวิทยาศาสตร์ทุกชั้นปีไปร่วมปลูกป่าด้วย การไปปลูกป่าครั้งนี้เป็นการไปปลูกครั้งที่ 2 ของข้าพเจ้า ครั้งแรกข้าพเจ้าไปปลูกตอนอยู่ปี 1 ตอนนั้นได้ค้างคืนด้วย 1 คืน บรรยากาศที่นั่นเย็นมากและก็มีฝนตกแดดออกสลับกันอยู่อย่างนี้อยู่ตลอดและเวลากลางคืนก็หนาวเย็นมากลมพัดอยู่ตลอด ถึงจะห่มผ้าก็ยังไม่หายหนาวเลย การไปปลูกป่าครั้งแรกเป็นการไปปลูกป่าจริงๆ คือต้องจับคู่กัน คนหนึ่งถือจอบอีกคนหนึ่งถือกล้าต้นไม้ และตอนนั้นก็ไม่มีต้นไม้ขึ้นอยู่เลยสักต้นมีแต่หญ้าต้นสูงมากเวลาเดินก็ต้องแหวกหย็เป็นทางเข้าไป ตอนข้าพเจ้าแทบที่จะไม่ได้จับจอบเลยเพราะมีคนอาสาและค่อยขุดหลุมให้ หน้าที่ของข้าพเจ้าก็คือถือกล้าต้นไม้และเอาต้นไม่ลงดินปลูก  ซึ่งต่างจากเพื่อนคนอื่นๆที่ต้องจับต้นไม้ด้วยถือจอบขุดเองด้วย  แต่ข้าพเจ้าก็ขุดบ้างนะประมาณ  3-4  หลุมมั๊ง แต่ข้าพเจ้าปลูกต้นไม้เยอะนะหลายสิบต้นเหมือนกัน น่าภาคภูมิใจมากเลยหละ  กล้าไม้ที่ใช้ปลูกตอนนั้นก็คือต้นสน  เพราะต้นสนชอบอากาศเย็นจึงเหมาะกับสภาพแวดล้อมนั้น ดังนั้นมันคงไม่ตายง่ายนัก  จากวันนั้นมาประมาณ  2  ปี ก็มาถึงการปลูกป่าครั้งที่  3  (ครั้งที่ 2 ข้าพเจ้าไม่ได้ไปเพราะไม่ว่าง)ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย  เพราะทางคณะวิทยาศาสตร์จะไม่จัดให้มีการปลูกป่าอีกแล้วดังนั้นข้าพเจ้าและเพื่อนๆจึงตัดสินใจไปอีกครั้ง  เพื่อไปดูผลงานตอนที่เราไปปลูกครั้งแรกว่ามันโตขนาดไหนแล้ว  และการไปครั้งนี้ก็แค่ไปซ่อมต้นที่ตายแล้วเท่านั้น  หลุมก็ไม่ต้องขุดเพราะมีเจ้าหน้าที่ขุดให้เรียบร้อยแล้ว  เพียงแค่เอาปุ๋ยไปใส่หลุมแล้วเอากล้าไม้ลงปลูกเท่านั้น การไปครั้งนี้ใช้เวลาเดินทางทั้งขาไปและขากลับประมาณ 6-7  ชม.  แต่ทานลองทายดูซิว่าข้าพเจ้าและเพื่อนๆ ใช้เวลาในการซ่อมต้นไม้ไปเท่าไหร่ นั่นแน่...อยากรู้แล้วหละซิคะ  พวกเราใช้เวลาแค่ 1-2  ชม.  เท่านั้นเองคะเพราะต้นไม้ที่ตายมีไม่มากเท่าไหร่แต่จำนวนคนที่ไปมีเยอะคะเลยททำงานเสร็จเร็ว วันนั้นก็เลยถือซะว่า ไปเปลี่ยนบรรยากาศกินข้าวตอนกลางวันซะเลย  เพราะเขามีข้าวเลี้ยงคะสรุปก็คือตลอดการไปปลูกป่าได้กินของฟรีคะ  พอกินข้าวเสร็จก็ประมาณบ่ายโมงกว่าๆ ก็เลยออกเดินทางกลับมหาวิทยาลัย  ตลอดทางที่อยู่ในเขตภูหินล่องกล้ามีฝนตกมาตลอดทางเลยคะและรถเจ้ากรรมที่ขึ้นมาก็ดั๊น.....ก็หลังคารั่วซะงั้น เพราะรถที่เอาไปเป็นรถทหารหลังคาก็เลยเป็นเต็นท์กันได้แต่แดดแต่ไม่กันฝนคะ และรถคันนี้ก็บรรจุคนประมาณ  40 กว่าๆคะ  ดังนั้นที่นั่งข้างๆจึงไม่พอนั่ง จะนั่งกับพื้นข้างล่างก็ไม่ได้เพราะมันเปียกฝนและคนก็แน่นเกินไปก็เลยต้องมีบางส่วนที่ต้องยืนมาคะ  และข้าพเจ้าก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยคะ  คิดดูซิคะฝนก็ตกทางก็ไม่ดีหนาวก็หนาวแล้วยังจะมายืนอีกมันทรมานแค่ไหน  ตอนนั้นคิดแค่ว่าเมื่อไหร่จะถึงสักทีนะฉันเมื่อยแล้ว  แต่พอนึกๆไปมันก็สนุกดีเหมือนกันนะคะเพราะเพื่อนๆแต่ละคนก็แสดงถึงความห่วงใยกัน ใส่ใจกันอยู่ตลอด และที่สำคัญข้าพเจ้าก็ไม่ได้อยู่นิ่งเลยเล่นกับเพื่อนๆอยู่ตลอดทางก็เลยทำให้ตอนนั้นไม่เครียดเท่าไหร่คะ
คำสำคัญ (Tags): #apicuture#pikkajoo#3
หมายเลขบันทึก: 49808เขียนเมื่อ 13 กันยายน 2006 00:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท