คิดถึงตอนที่ลูกเพิ่งเกิดทีไร น้ำตาพลานจะไหลทุกที
ลูกน้อยที่แม่เฝ้าคอยฟูมฟักตลอดเก้าเดือน ลูกรู้มั๊ยว่า แม่ทะนุถนอมลูกเพียงใด เวลาเดินก็ต้องค่อยๆ เดิน กลัวสะดุดล้มแล้วลูกจะไม่ยอมอยู่กับแม่ เวลากินก็ต้องกินแต่อาหารที่มีประโยชน์สำหรับลูก ผักเอย ผลไม้เอย นมสดเอย ชอบไม่ชอบก็ต้องกิน เพราะอยากให้ลูกเกิดมาสมบูรณ์ แข็งแรง เพลงบรรเลงที่ฟังแล้วชวนง่วงนอนก็ต้องฟัง เพราะอยากให้ลูกเกิดมาอารมณ์ดี (เค้าว่างั้น) ยังมีอีกนะลูก เช่น ห้ามโกรธ ห้ามด่า ห้ามนินทาว่าร้ายใคร เพราะจะทำให้ลูกเกิดมาไม่สวย ไม่หล่อ แต่แม่คิดว่า น่าจะเป็นเพราะไม่อยากให้คุณแม่เครียดมากกว่านะเพราะมันคงจะมีผลต่อสุขภาพจิตลูกด้วย
อ้อ..คงจะงงละสิว่า มันทรมานมากถึงขนาดทำให้น้ำตาแม่จะไหลเลยหรือ..?
ไม่ใช่หรอกค่ะ มันเป็นเพราะว่า หลังจากลูกเกิดได้เพียง 3 วัน ลูกแม่ก็เป็นปอดบวม เนื่องจากก่อนคลอดลูก ถุงน้ำคร่ำแตกตั้งแต่ทุ่มกว่าๆ ไปถึงโรงพยาบาลประมาณ 2 ทุ่ม (เป็นโรงพยาบาลเอกชน) แต่คุณหมอที่แม่ฝากท้องไม่อยู่ รอหมอจนตีหนึ่งก็ยังไม่มา แต่คงเป็นบุญของแม่ที่จะได้เห็นหน้าลูก ทำให้หัวหน้าพยาบาลทนไม่ไหว บอกว่า ไม่ต้องรอแล้ว น้ำแห้งหมดแล้ว รีบผ่าตัดด่วน(และหมอก็มาพอดี)
ด้วยความเร่งรีบทำให้ทำความสะอาดลูกยังไม่ดีพอ มีเศษขี้เทาติดอยู่ตรงรูจมูกน้อยๆ ของลูก (เล็กมากค่ะ) อากาศแรกเข้าปอดลูกพร้อมขี้เทา ทำให้ลูกติดเชื้อภายในเวลาสามวัน แค่ได้ฟัง หัวใจแม่ก็แทบสลาย แต่แม่ก็ฟังด้วยอาการสงบ เพราะแม่เชื่อ เชื่อว่า ลูกต้องหาย แม่ต้องให้กำลังใจตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้ แม่รู้ว่าลูกเจอหนักกว่าแม่ แล้วแม่จะอ่อนแอได้อย่างไร??
ทีนี้รู้หรือยังคะว่า ทำไมน้ำตาแม่จะไหล...
เจ้าดวงใจแม่เอ๋ย
หัวอกแม่...........................